My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1125 ปะทะเซียนหญิง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1125 ปะทะเซียนหญิง
ตอนที่ 1125 ปะทะเซียนหญิง
“ฮึ่มเจ้าอยู่เพียงแค่ขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชัน เจ้าไม่ใช่คู่มือข้าหรอก” เซียนหิมะเชิดศีรษะของเธอขึ้นด้วยความเย่อหยิ่งในขณะที่มองไปยังหลี่ฉิงเฟิง
เซียนหิมะได้เห็นความสามารถของเขาอย่างแจ่มชัดแต่ตัวเธอเองก็มีพลังในขอบเขตจิตราชันขั้นที่สอง ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเธอย่อมไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า“แล้วไง เธอมีพลังระดับจิตราชันขั้นสองแล้วจะยังไง ? ฉันมั่นใจว่าล้มเธอได้”
ฉิงเฟิงขุ่นเคืองต่อเซียนหิมะผู้นี้อย่างมากจนเขาตัดสินใจจะใช้ไพ่ลับที่ซ่อนอยู่
“
แสงทองท่องนภา
!
“ ด้วยการพลิกข้อมือฉิงเฟิงชักกระบี่แสงสีทองออกมา
กระบี่แสงสีทองรวดเร็วอย่างยิ่งมันทะยานขึ้นผ่านอากาศด้วยพลังอันเหนือชั้นและปรากฏขึ้นข้างๆเซียนหิมะทันที
เท้าขวาของเซียนหิมะแตะพื้นเบาๆและร่างของเธอก็ขยับไปทางซ้ายเหมือนสายฟ้าจนหลบการโจมตีได้ในทันที
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นว่าเซียนหิมะสามารถหลบการโจมตีได้
ตั้งแต่ที่ฉิงเฟิงเรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่แสงสีทองมาจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถเอาชนะความเร็วของเขาได้แม้แต่ราชาหิมะที่มีพลังในขอบเขตจิตราชันขั้นแรกก็ยังพ่ายต่อเขา อย่างไรก็ตาม เซียนหิมะสามารถหลบหลีกมันได้อย่างง่ายดายทำให้เขาตกใจไม่น้อย
ท่าร่างของเซียนหิมะรวดเร็วเกินไปมันสามารถต่อกรกับแสงทองท่องนภาและท่าร่างพันมังกรของเขาได้เลยทีเดียว ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาประเมินเซียนหิมะต่ำไปเธอไม่เพียงแค่ทรงพลังและแข็งแกร่งเท่านั้น แต่เคล็ดวิชาและท่าร่างก็ไม่ธรรมดาอีกด้วย
“ขลุ่ยหยกน้ำแข็ง”เซียนหิมะร้องตะโกนในขณะที่เธอหยิบขลุ่ยออกมาด้วยมืออันอ่อนนุ่ม
ขลุ่ยนี้มีความยาวห้าสิบเซนติเมตรและมีสีขาวไปทั่วมันถูกสร้างขึ้นด้วยแก่นน้ำแข็งพันปี และเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับจิตราชันขั้นที่สองเช่นกัน
เสียงดนตรีจากขลุ่ยหยกน้ำแข็งสามารถควบคุมวิญญาณของผู้คนได้และมันก็เคยเป็นสิ่งที่ใช้ควบคุมราชาหิมะในอดีต
เซียนหิมะกดริมฝีปากสีแดงของเธอลงบนขลุ่ยหยกและด้วยลมหายใจที่นุ่มนวลเสียงอันไพเราะก็ไหลผ่านหูของผู้คน
เสียงเพลงนี้งดงามและน่าประทับใจแต่มันก็มีพลังในการควบคุมจิตใจมนุษย์
เพลงขลุ่ยมีมนต์อันแปลกประหลาดเมื่อมันเข้ามาในจิตของฉิงเฟิง มันก็เริ่มควบคุมพลังวิญญาณของเขา
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างตกใจในขณะที่เขาเคลื่อนไหวพลังงานจิตวิญญาณเพื่อป้องกันเสียงเพลงอันไพเราะจากการควบคุมร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์แต่มันก็ไร้ผล
ท่วงทำนองที่มีมนต์ขลังนี้ได้รุกรานพลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงและพยายามที่จะควบคุมวิญญาณของเขา
โดยธรรมชาติฉิงเฟิงย่อมไม่ยอมปล่อยให้เซียนหิมะได้ควบคุมจิตวิญญาณของเขา เขาพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่ดวงจิตมังกรอัคคีก็เอ่ยขึ้นในใจของเขาว่า
“เจ้าหนู
,
จงอย่าต่อสู้ขัดขืนแต่ให้แกล้งทำเป็นว่าเจ้าถูกควบคุมแล้วจากนั้นเข้าประชิดตัวนางและขโมยหัวใจเยือกแข็งมา ข้าอยู่ในจิตของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องกังวล”
ฉิงเฟิงรู้สึกมีความสุขที่ได้ยินคำพูดของมังกรอัคคี
เขารู้ว่าไอเดียของมังกรอัคคีนั้นยอดมากเซียนหิมะผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะเธอได้ในขณะนี้ การแกล้งทำเป็นถูกควบคุมย่อมเป็นความคิดที่ดีที่สุดแล้ว
ดังนั้นฉิงเฟิงจึงปล่อยวางการต่อต้านในจิตวิญญาณและปล่อยให้เสียงขลุ่ยควบคุม
แน่นอนว่าในมุมที่ลึกที่สุดในห้วงจิตวิญญาณของเขาดวงจิตมังกรอัคคีก็ยังคงรั้งอยู่เพื่อปกป้องปราการด่านสุดท้ายทางจิตของเขา
ดวงตาของฉิงเฟิงกลายเป็นว่างเปล่าโดยไม่มีการแสดงออกใดๆและเหม่อมองไปข้างหน้า
สีหน้าของเซียนหิมะทอประกายความสุขเมื่อเธอเห็นการแสดงออกของฉิงเฟิงเธอรู้ว่าชายคนนี้ตกอยู่ในความควบคุมของเธอแล้ว
“เจ้ามานี่รินน้ำชาให้ข้า” เซียนหิมะยิ้มในขณะที่สั่งฉิงเฟิง
ชายคนนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความเย่อหยิ่งจองหองอีกทั้งยังสบถด่าทอเธอแต่ตอนนี้เขาถูกเธอควบคุมจิตใจเอาไว้แล้ว ดังนั้นเธอต้องการลงโทษเขา
ฉิงเฟิงเดินไปข้างหน้าตามคำสั่งด้วยการแสดงออกที่ว่างเปล่าเขายกกาน้ำชาและรินน้ำชาให้เธอหนึ่งถ้วยด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเคารพสูงสุดเหมือนเขาเป็นคนรับใช้
“ไม่!ฉิงเฟิงถูกนังเซียนปีศาจควบคุมจิตวิญญาณไปแล้ว” ลูกหมาสีดำกล่าวด้วยความตกใจ
“เอาไงดีวะเจ้าหมาในเมื่อฉิงเฟิงถูกนางควบคุมแล้ว พวกเราเผ่นกันเถอะ”
งูกลืนฟ้ากล่าวมันก็รู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของเซียนหิมะ
“เฮอะแกมันไอ้งูทรยศ ฉิงเฟิงกำลังเผชิญกับอันตราย แกไม่เพียงไม่หาทางช่วยแต่ยังคิดหนี ! ไอ้คนทรยศ” ลูกหมาสีดำขมวดคิ้วและจ้องไปหางูกลืนฟ้าอย่างดุดัน
งูกลืนฟ้าก้มหัวลงด้วยความละอายและตระหนักถึงความผิดที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของงูกลืนฟ้าก็เริ่มสับสนเพราะจู่ๆลูกหมาสีดำก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เอิ่ม… เจ้างูน้อย ข้าคิดว่าแกพูดถูกว่ะ พวกเราเผ่นกันเถอะ นังเซียนปีศาจผู้นี้มีพลังมากเกินไป”
ราชาหมาป่าอัคคีที่อยู่ข้างๆพวกมันก็กลอกตาเมื่อได้ยินคำพูดของลูกหมาสีดำมันคิดในใจว่า
“
เจ้าหมาน้อยนี่เป็นบ้าอะไรก่อนหน้านี้มันเพิ่งจะด่าเจ้างูน้อยว่าทรยศ แต่ตอนนี้กลับคำมาชวนกันหนี
”
ฉิงเฟิงมีสีหน้าว่างเปล่าในขณะที่รินน้ำชาให้เซียนหิมะในศาลาแต่เขาก็โกรธอยู่ในใจเพราะทั้งลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าต่างก็คิดจะหนีเอาตัวรอดและทิ้งเขาไว้
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงก็ต้องยอมรับว่าเซียนหิมะผู้นี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอนับประสาอะไรกับลูกหมาสีดำ
“ปล่อยเจ้านายของข้านะ!” ราชาหมาป่าอัคคีคำรามใส่เซียนหิมะ
เซียนหิมะฉีกยิ้มเบาบางและกล่าวว่า“น่าชมเชย ลูกหมากับเจ้างูน้อยต่างก็คิดจะหนี แต่เจ้า เจ้ากลับต้องการช่วยเจ้านาย”
ราชาหมาป่าอัคคีมองเซียนหิมะอย่างเยือกเย็นมันเปิดปากพ่นแสงสีแดงใส่เซียนหิมะทันที
อุณหภูมิของเปลวไฟสูงอย่างไม่น่าเชื่อและด้วยพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวมันเผาไหม้ในอากาศและมาถึงด้านหน้าของเซียนหิมะอย่างรวดเร็ว เซียนหิมะไม่สนใจเปลวไฟที่น่ากลัวสายนี้เธอสะบัดมือขวาที่ควบแน่นไว้ด้วยพลังแท้กลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ดับเปลวไฟได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
ราชาหมาป่าอัคคีตกตะลึงเปลวไฟของมันมีอุณหภูมิสูงถึงหนึ่งพันองศา ผู้ฝึกตนทั่วไปถ้าไม่ถูกเผาจนตายก็ต้องมีบาดแผลฉกรรจ์เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าเซียนหิมะ มันกลับถูกดับได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหมาป่าน้อยเจ้าอ่อนแอเกินไป” เซียนหิมะยิ้มอย่างเย็นชาในขณะที่เธอพูดกับราชาหมาป่าอัคคี
สีหน้าของราชาหมาป่าอัคคีซีดลงเมื่อได้ยินคำพูดของเซียนหิมะ
มันเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังมันเป็นราชาแห่งหมาป่า มันจะยอมถูกเหยียดหยามว่าเป็นหมาป่าตัวน้อยได้อย่างไร คำพูดของเธอดูถูกเหยียดหยามมันมาก
โฮกกกกกกกกกก ~
ราชาหมาป่าอัคคีปล่อยเสียงเห่าหอนด้วยความโกรธในขณะที่ร่างของมันลอยขึ้นบนอากาศกรงเล็บหมาป่าอันแหลมคมของมันฉีกกระชากห้วงอากาศตามมาด้วยเสียงที่น่าขนลุกจากแรงกดดันอากาศที่พุ่งเข้าใส่เซียนหิมะ
มันต้องการฆ่าผู้หญิงคนนี้ด้วยกรงเล็บหมาป่าและช่วยฉิงเฟิงให้ได้
ในเวลานี้เซียนหิมะไม่ขยับตัวแม้แต่น้อยแต่ราชาหิมะที่อยู่ข้างๆก็เข้ามาขวาง
ด้วยฝ่ามือที่ขาวเหมือนหิมะของมันราชาหิมะพุ่งทะยานด้วยพลังอันรุนแรงและซัดฝ่ามือตบราชาหมาป่าอัคคีลงไปกองบนพื้น
มันมีพลังอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันซึ่งยังห่างชั้นกับราชาหิมะที่มีพลังระดับจิตราชันขั้นหนึ่งดังนั้นเป็นธรรมดาที่มันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชาหิมะ
หลังจากสยบอีกฝ่ายราชาหิมะก็เอาเชือกมัดร่างราชาหมาป่าอัคคีเอาไว้
“ท่านเซียนหญิงเราควรทำอย่างไรกับหมาป่าตัวน้อยนี้” ราชาหิมะหันกลับมาและถามเซียนหิมะด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
มันเป็นข้ารับใช้ของเซียนหิมะดังนั้นแน่นอนว่ามันจะต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งของเธอ