My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1126 ฉวยโอกาส
ตอนที่ 1126 ฉวยโอกาส
เซียนหิมะจ้องมองราชาหมาป่าอัคคีด้วยอาการดูถูกเหยียดหยามที่ปรากฏบนใบหน้าอันงดงามของเธอเธอกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไว้ชีวิตมันสักสองวัน ขุนมันให้อ้วนจากนั้นเอาไปทำเป็นบาร์บีคิวมื้อเย็น”
ใบหน้าของลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าซีดเผือดลงเมื่อได้ยินคำพูดอันโหดเหี้ยมของเซียนหิมะพวกมันรีบเผ่นในทันที
“
ม่านแสงจิตราชัน
!
“
เซียนหิมะตะโกนและปลดปล่อยม่านแสงจิตราชันของเธอออกมา
ลำแสงสีขาวส่องประกายออกมาจากร่างของเซียนหิมะมันกางออกไปกักขังลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเอาไว้ ม่านพลังงานแสงนี้ทรงพลังงานและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ทั้งลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเคยได้ชื่อว่าทรงพลังอย่างยิ่งในยุคบรรพกาลพวกมันทั้งสองท่องไปทั่วโลกผู้ฝึกตนได้อย่างอิสระเสรีด้วยเกียรติภูมิอันยิ่งใหญ่
แต่ทว่าตอนนี้ความทรงจำและเคล็ดวิชาอันร้ายกาจของพวกมันทั้งสองยังไม่ตื่นขึ้นมาโดยสมบูรณ์พลังของพวกมันยังถูกจำกัดและไม่อาจรับมือเซียนหิมะได้แม้แต่น้อย
หากย้อนกลับไปในยุคของพวกมันต่อให้สิบหรือร้อยเซียนหิมะเข้ามาพร้อมกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมันแน่นอน
เซียนหิมะหยิบเชือกออกมาสองเส้นผูกมัดร่างของลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเอาไว้จากนั้นก็ส่งต่อไปให้ราชาหิมะ
เชือกวิญญาณเส้นนี้เป็นอุปกรณ์วิญญาณชนิดพิเศษมันสามารถจับสัตว์อสูรและมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งพลังของผู้ฝึกตนมีมากเพียงใด เชือกวิญญาณก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้น “เจ้าจงพาลูกหมากับงูตัวนี้ไปขังไว้วันหลังข้าจะจับพวกมันทำเป็นอาหาร” เซียนหิมะพูดกับราชาหิมะด้วยรอยยิ้มอย่างเย็นชา
น้ำเสียงของเซียนหิมะทิ่มแทงและโหดร้ายเย็นชามันทำให้ทั้งลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าหน้าซีดลง
ลูกหมาสีดำด่าทอเธออยู่ในใจของมันว่า
“นังผู้หญิงบ้าคนนี้งดงามแต่ชั่วช้านักกล้าดียังไงคิดจะกินลูกพี่หมาผู้ยิ่งใหญ่คนนี้”
เซียนหิมะจับทั้งลูกหมาสีดำ,งูกลืนฟ้าและราชาหมาป่าอัคคีเอาไว้ เธอมอบพวกมันให้กับราชาหิมะเพื่อขุนให้อ้วนและทำเป็นอาหารในอีกสองวัน
จากนั้นเซียนหิมะก็ยืนขึ้นและพาฉิงเฟิงเข้าไปในวังของเธอ
ทันทีที่พวกเขามาถึงในวังเซียนหิมะก็สั่งให้ฉิงเฟิงทำความสะอาด เธอออกคำสั่งเช่นนี้โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติยศ ฉิงเฟิงยังคงแกล้งมีสีหน้าว่างเปล่าเขาแสร้งทำเป็นเคารพและกวาดพื้นด้วยไม้กวาด
เซียนหิมะดูเหมือนจะดีใจเมื่อเธอเห็นว่าฉิงเฟิงเชื่อฟังเพียงไร
เพี๊ยะ!!
เธอหยิบแส้ออกมาและฟาดอย่างแรงใส่ฉิงเฟิงมันทิ้งรอยแผลเอาไว้บนร่างของเขาอย่างเด่นชัด
กลับกลายเป็นว่าเซียนหิมะผู้นี้ชอบทำร้ายผู้คนเธอเริ่มเฆี่ยนตีฉิงเฟิงต่อไป
ฉิงเฟิงแอบขุ่นแค้นอยู่ภายในใจแต่เขาไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนเพราะเขารอคอยโอกาสช่วงชิงหัวใจเยือกแข็งไปช่วยชีวิตหลินเสวี่ย
เซียนหิมะเฆี่ยนตีฉิงเฟิงต่อไปอีกสักพักจนรู้สึกเหนื่อยล้าจากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องนอนและสั่งให้เขายืนเฝ้า
ฉิงเฟิงยืนรออยู่หน้าห้องโดยไร้ซึ่งการต่อต้านขัดขืน
พอถึงเวลากลางดึกเซียนหิมะหลับไปแล้ว ฉิงเฟิงก็แอบเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง
“
นัง
ผู้หญิงบัดซบเธอไม่เพียงสั่งโน้นสั่งนี่ฉัน แต่ยังเอาแส้เฆี่ยนตีฉันอีก
!
รอก่อนเถอะสักวันฉันจะลงโทษเธอ”
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย้ยหยัน
เขาเป็นถึงราชันหมาป่าที่ปกครองทั่วทั้งทวีปโดยไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายหากไม่ใช่เพื่อหัวใจเยือกแข็ง ฉิงเฟิงจะต้องทุบตีเซียนหิมะอย่างหนัก แต่เขาจำเป็นต้องได้สมบัติชิ้นนี้มาก่อนเพื่อช่วยหลินเสวี่ย
จากนั้นฉิงเฟิงก็เห็นหัวใจเยือกแข็งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆเตียงของเซียนหิมะ
“
ในที่สุดเธอก็หลับเสียทีหัวใจเยือกแข็งต้องเป็นของฉัน”
ดวงตาของฉิงเฟิงทอประกายด้วยความดีใจในขณะที่เอื้อมมือไปคว้ามัน
แต่ในทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับหัวใจเยือกแข็งเซียนหิมะก็ลืมตาตื่นขึ้นในทันที
“เจ้าต้องการขโมยหัวใจเยือกแข็งงั้นหรือ ฝันไปเถอะ !” เซียนหิมะแสยะยิ้มอย่างเย็นชาและรีบฉวยโอกาสคว้าหัวใจเยือกแข็งไว้ที่หน้าอกของเธอ
“บ้าชิบเธอรู้ตัวได้ไง ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เซียนหิมะหัวเราะอย่างเยือกเย็นและกล่าวว่า“ข้าได้ตั้งคาถาเล็กน้อยไว้ในห้องนี้ ดังนั้นข้าจะรู้ตัวทันทีที่มีคนเข้ามาในห้องของข้า”
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาได้ยินเขาหันกลับไปมองห่วงที่คล้องอยู่ที่ประตู
“นังผู้หญิงน่ารังเกียจมอบหัวใจเยือกแข็งมา” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา ในเมื่อถูกจับได้ก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำอีกต่อไป
ใบหน้าอันงดงามของเซียนหิมะดูมืดมนลงเมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงเธอเป็นสตรีที่งดงามมาก เมื่อฉิงเฟิงบอกว่าเธอน่าเกลียดเธอจึงโกรธเคืองมาก
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” แสงเย็นชาส่องประกายแวววับบนใบหน้าของเซียนหิมะ และด้วยคลื่นพลังบนฝ่ามือขวา เธอเปลี่ยนมันเป็นเงาฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเขารู้แล้วว่าเซียนหิมะนั้นทรงพลังเพียงใดดังนั้นเขาจึงปลดปล่อยหมัดทลายนรกานต์ออกไปต้านรับทันที กำปั้นอันเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เข้าปะทะกับฝ่ามือของเซียนหิมะ
ปังปัง!!
ฉิงเฟิงถูกผลักถอยไปสองก้าวสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เซียนหิมะทรงพลังเหลือจะกล่าว เธอมีพลังมากกว่าเขาอย่างน้อยก็สองขอบเขตย่อยจนเขาไม่อาจต่อกรได้อย่างชัดเจน
เซียนหิมะแสยะยิ้มอย่างเย็นชาบนใบหน้าอันงดงามชายคนนี้ไม่อยู่ในสายตาเธอแม้แต่น้อย
จากนั้นเธอก็นำขลุ่ยหยกออกมาวางบนริมฝีปากและเริ่มเป่าเป็นเสียงเพลงอันไพเราะอีกครั้งเธอต้องการควบคุมจิตวิญญาณของฉิงเฟิงให้แน่นอนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเซียนหิมะได้คำนวณผิดพลาดไปบางอย่าง พลังที่แท้จริงของฉิงเฟิงไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่ง แต่เป็นพลังจิตวิญญาณต่างหาก กล่าวให้เจาะจงไม่ใช่ว่าพลังจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แต่แท้ที่จริงคือพลังจิตวิญญาณจากเสี้ยวดวงจิตของมังกรอัคคีที่อยู่ในร่างของเขา
ทันทีที่เสียงเพลงจากขลุ่ยแทรกซึมบุกรุกจิตวิญญาณของเขามังกรอัคคีก็กลืนกินมันหมดสิ้นจนไม่มีผลใดๆต่อฉิงเฟิง
หลังจากเสี้ยวดวงจิตมังกรอัคคีกลืนกินพลังจากเสียงขลุ่ยจนหมดมันก็พุ่งออกมาจากร่างของฉิงเฟิง
“เข็มมังกรเพลิง!” ดวงจิตมังกรอัคคีที่ปรากฏออกมาพ่นเข็มมังกรสีแดงที่เจาะเข้าไปในห้วงจิตวิญญาณของเซียนหิมะอย่างรวดเร็วและตรึงร่างของเธอเอาไว้
เข็มมังกรเพลิงนี้สามารถทำให้เหยื่อเป็นอัมพาตได้และก่อนหน้านี้มันได้ช่วยฉิงเฟิงเอาไว้โดยที่ตรึงร่างองค์หญิงสามแห่งวังมังกรทะเลตะวันออก
“
เจ้าหนูเซียนหิมะนางนี้ทรงพลังเกินรับมือ ข้าสามารถทำให้นางเป็นอัมพาตได้แค่ครึ่งชั่วโมง เจ้าจงรีบคว้าสิ่งที่ต้องการแล้วรีบไปซะ”
ดวงจิตวิญญาณมังกรอัคคีกล่าวกับฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้มังกรอัคคีเคยทำให้องค์หญิงสามเป็นอัมพาตได้ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่กลับเซียนหิมะผู้นี้ทำได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเธอทรงพลังเพียงใด
ฉิงเฟิงรู้ว่าเวลามีค่าและไม่อยากเสียเปล่าเขารีบเข้าประชิดตัวเซียนหิมะและแย่งหัวใจเยือกแข็งมา จากนั้นก็ยัดไปไว้ในแหวนมิติของเขา
“ฉันต้องลงโทษผู้หญิงคนนี้เสียบ้าง!” ฉิงเฟิงหยิบแส้ออกมาเฆี่ยนตีไปบนร่างของเซียนหิมะหลายครั้ง ร่างกายของเธอมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผลและสีหน้าของเธอก็แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด
“ฉันได้หัวใจเยือกแข็งมาแล้วฉันไปละนะ” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มแล้วเตรียมจะจากไป เขาเพิ่งเฆี่ยนตีเซียนหิมะเป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ
“เจ้าบ้าข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ! คอยดูเถอะข้าจะจับตัวเจ้าให้ได้ ข้าจะทุบตีเจ้าจนเจ็บปวดคร่ำครวญขอชีวิต !” เซียนหิมะกล่าวข่มขู่ฉิงเฟิงอย่างรุนแรง