My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1128 กระบี่ที่สอง ลมกรดแสงทอง !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1128 กระบี่ที่สอง ลมกรดแสงทอง !
ตอนที่ 1128 กระบี่ที่สอง ลมกรดแสงทอง !
ฉิงเฟิงไม่สนใจราชาหิมะอีกเขารีบวิ่งไปหาราชาหมาป่าอัคคีแทน
เขาชักกระบี่ออกมาตัดเชือกวิญญาณที่ผูกไว้กับร่างของราชาหมาป่าอัคคีและปลดปล่อยมันจากพันธนาการอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ทางนี้ มาช่วยตัดเชือกให้ข้าด้วย !” ลูกหมาสีดำเรียกหาฉิงเฟิง มันต้องการให้เขาช่วยเช่นกัน
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวว่า“ไอ้หมาน้อย ไม่ใช่ว่าแกเป็นคนแรกที่คิดจะหนีไปตอนที่ฉันแกล้งถูกควบคุมหรอกหรือ แกคิดว่าฉันควรจะช่วยแกหรือไง ?”
ใบหน้าของลูกหมาสีดำเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินที่ฉิงเฟิงพูดมันตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ในศาลาหิมะทันที ฉิงเฟิงไม่เคยถูกเซียนหิมะควบคุมแต่แกล้งทำ ไม่งั้นเขาจะรู้ได้ไงว่ามันคิดจะหนี “หลี่ฉิงเฟิงทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้างูน้อยนี่ต่างหาก ! เจ้าต้องเชื่อข้านะ นอกจากนี้จมูกของข้าไวมาก ข้าสามารถหาสมบัติล้ำค่าให้เจ้าได้” ลูกหมาสีดำกล่าวในขณะที่กระดิกหางให้ฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเหวี่ยงกระบี่เพื่อช่วยลูกหมาสีดำ
เขารู้ว่ายังต้องการของสามสิ่งเพื่อช่วยชีวิตหลินเสวี่ยหัวใจเยือกแข็ง, วารีฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตและโลหิตมังกรน้ำแข็ง
ฉิงเฟิงเพิ่งได้รับหัวใจเยือกแข็งมามันยังขาดอีกสองรายการ ซึ่งความสามารถในการดมกลิ่นของลูกหมาสีดำสามารถช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน เมื่องูกลืนฟ้าเห็นฉิงเฟิงช่วยทั้งราชาหมาป่าอัคคีและลูกสีดำแต่ไม่ยอมช่วยมัน มันก็เริ่มกระสับกระส่าย
“หลี่ฉิงเฟิงช่วยข้าด้วยซี่ ข้ายังมีประโยชน์นะ ข้าสามารถดำดิ่งลงไปในทะเลลึกนับหมื่นเมตรได้และช่วยให้เจ้าหาโลหิตมังกรน้ำแข็ง” งูกลืนฟ้ากล่าวอย่างรีบเร่งในขณะที่มันกระดิกหางอย่างกระตือรือร้นเพื่อพิสูจน์คุณค่าของมัน
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเมื่อเขารู้ว่างูตัวนี้ก็มีประโยชน์เช่นกันลูกหมาสีดำมีจุดเด่นด้านการดมกลิ่น แต่มันก็ช่วยเขาได้แค่บนบกไม่ใช่ในน้ำ
แต่สามารถและทักษะของงูกลืนฟ้ามีประโยชน์ในทะเลอย่างมากครั้งก่อนนั้นที่เขาถูกจับไปในวังมังกรทะเลตะวันออกก็เป็นมันที่ว่ายลงมาช่วยฉิงเฟิงซึ่งเขาก็รู้ดี
ฉิงเฟิงเดินไปข้างหน้างูกลืนฟ้าและใช้กระบี่ตัดเชือกที่รัดมันเอาไว้เพื่อปลดปล่อยมันออกมา
จากนั้นฉิงเฟิงก็พาทุกคนออกไปพวกเขาทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและออกจากคุกในไม่นาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เผชิญหน้ากับกลุ่มมนุษย์หิมะทันที
สัตว์อสูรทั้งสามได้แก่ ลูกหมาสีดำ งูกลืนฟ้าและราชาหมาป่าอัคคีต่างก็ออกมารับหน้าแทนฉิงเฟิงและระเบิดความโกรธออกมา พวกมันลงมือโจมตียามเหล่านั้นอย่างรุนแรงจนหมดสติไปอย่างรวดเร็ว
ฉิงเฟิงรีบนำทุกคนออกไปข้างนอกและเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเจอมนุษย์หิมะลูกหมาสีดำก็จะลงมืออย่างรวดเร็ว
ในที่สุดกลุ่มของฉิงเฟิงก็ออกจากป่าดึกดำบรรพณ์และไปสมทบกับทีมเขี้ยวหมาป่าที่รออยู่ข้างนอก
“บอสครับได้ของมั้ย ” ลูกซวนจี๋ถามฉิงเฟิงเมื่อเห็นพวกเขากลับมาออกมา
ฉิงเฟิงพยักหน้าและนำหัวใจเยือกแข็งออกมาให้ทุกคนเห็น
ทุกคนในทีมเขี้ยวหมาป่ารู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นหัวใจเยือกแข็งพวกเขารู้ว่าสมบัติชิ้นนี้จะช่วยชีวิตหลินเสวี่ยได้และมันก็เป็นภารกิจหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา
“ไปกันเถอะออกไปจากที่นี่กัน” ฉิงเฟิงยิ้มและนำทางทุกคนออกไป
วืดวืด … ฉิงเฟิงและคนอื่นๆยังเดินไม่ได้ไกลนักก็เกิดลมแรงขึ้นลมนี้หมุนวนเหมือนพายุทอร์นาโดจนยกพื้นหิมะขึ้นมาหลายร้อยเมตรจากพื้นดิน
“พายุทอร์นาโดรุนแรงเกินไปพวกเราไปหลบในถ้ำกันก่อน” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับพาทุกคนไปหลบพายุในถ้ำ
ทุกคนต่างเข้าไปนั่งกันในถ้ำแต่ฉิงเฟิงเดินออกมาอยู่หน้าปากทางเข้า
อืม…สายลมนี้ดูแปลกๆ
ฉิงเฟิงพึมพำการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นลมกรรโชกกลุ่มนี้ พวกมันใหญ่พอที่จะกลายเป็นพายุทอร์นาโด พวกมันหลายสิบลูกระเบิดพร้อมกันและก่อตัวเป็นพายุขนาดใหญ่
ฉิงเฟิงยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยสมองที่ขาวโพลนเขาเพิ่งบรรลุจิตราชันขั้นแรก และได้ปลดผนึกที่สองของกระบี่แสงสีทองโดยอัตโนมัติ ลำแสงสีทองเส้นสายหนึ่งส่องเข้าไปในจิตของเขา มันคือเคล็ดความของกระบี่ที่สองนั่นเอง [ลมกรดแสงทอง]
กระบี่แสงสีทองเล่มนี้เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันที่ครั้งหนึ่งถูกใช้งานโดยเหล่าเซียนมันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังมหาศาลและเมื่อใดที่ผนึกแต่ละชั้นถูกคลายออกก็จะมีเคล็ดวิชาสำแดงออกมาให้ผู้ถือครองได้ฝึกฝน
ฉิงเฟิงทบทวนวิชากระบี่แสงสีทองกระบี่ที่สอง,ลมกรดแสงทอง เขาเริ่มฝึกฝนในทันที เขาวาดกระบี่จากซ้ายไปขวาเกิดเป็นวงโค้งที่ผันแปรเป็นลมกรดขนาดมหึมา
ลมกรดลูกนี้เริ่มด้วยขนาดเล็กแต่มันก็ค่อยๆโตขึ้นจากขนาดดั้งเดิมเท่าชามข้าวไปถึงจนขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอล – ศีรษะมนุษย์ – เหยือก – น้ำน้ำจนถึงที่สุดก็แปรสภาพเป็นขนาดใหญ่หลายสิบเมตร ! มันก่อให้เกิดพลังงานลมขนาดใหญ่ พลังกระบี่ลมกรดนี้ทรงอำนาจมหาศาล มันตัดผ่านอากาศ, บั่นสวรรค์และข้ามท้องนภา
ทุกหนทุกแห่งที่พลังกระบี่ลมกรดแล่นผ่านมันจะฉีกต้นไม้เป็นชิ้นๆบดขยี้หินผา หิมะกระจายและทิ้งร่องรอยของซากปรักหักพังที่เกิดขึ้น
สองชั่วโมงต่อมาฉิงเฟิงก็ได้ฝึกฝนกระบี่ที่สองของวิชากระบี่แสงสีทองสำเร็จ
หลังจากที่เชี่ยวชาญกระบวนท่าใหม่แล้วเขาก็รู้สึกว่าพลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ฉิงเฟิงก้าวออกจากถ้ำและจับหัวใจเยือกแข็งไว้ในมือหัวใจเยือกแข็งนี้สามารถปิดกั้นลมอันรุนแรงของพายุทอร์นาโดได้
เนื่องจากหัวใจเยือกแข็งปิดกั้นลมพายุที่โหมกระหน่ำฉิงเฟิงและพรรคพวกจึงเดินผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
“ฮ่าๆๆ! ใครจะคิดว่าหัวใจเยือกแข็งกลับตกอยู่ในมือของพวกเจ้า” ทันใดนั้นเสียงหัวเราะที่ดังลั่นก็ดังขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานหูเทียนเต๋าก็บินผ่านอากาศและหยุดลงตรงหน้าพวกเขาเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหัวใจเยือกแข็ง ดังนั้นจึงบินมาดู ใครจะไปคิดว่ามันอยู่ที่นี่จริงๆ ในมือของฉิงเฟิง
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหูเทียนเต๋าเขารีบซ่อนหัวใจเยือกแข็งไว้ในแหวนมิติทันที แต่มันสายเกินไปแล้ว
“
บัดซบถ้ารู้ยังงี้ฉันไม่ควรนำหัวใจเยือกแข็งออกมาใช้เลย
“
ฉิงเฟิงสบถในใจเขาไม่คิดว่าหูเทียนเต๋าจะตามกลิ่นอายของมันจนพบ
“หลี่ฉิงเฟิงมอบหัวใจเยือกแข็งมา” หูเทียนเต๋ายิ้มอย่างเย็นชา เขาต้องการแย่งหัวใจเยือกแข็ง
ฉิงเฟิงขบริมฝีปากล่างของเขาแล้วพูดว่า“ฝันไปเถอะ ! อยากได้ก็มาวัดกัน !”
หูเทียนเต๋าเต็มไปด้วยความโกรธกริ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงเขาพลิกข้อมือชักกระบี่ยาวออกมาและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงด้วยสีหน้าจริงจังในทันที
“
ลมกรดแสงทอง
!
“
ฉิงเฟิงใช้กระบี่ที่สองของวิชากระบี่แสงสีทองที่เพิ่งบรรลุมาในช่วงที่เกิดลมพายุทอร์นาโด
พลังงานกระบี่ลมกรดก่อตัวขึ้นไปทั่วท้องฟ้ามันทะลุทะลวงอากาศด้วยความคมกริบอย่างเหลือเชื่อราวกับพายุทอร์นาโดที่พุ่งเข้าหาพลังกระบี่ของหูเทียนเต๋า
แกร่ก!
พลังกระบี่ลมกรดแสงทองบดขยี้พลังกระบี่ของหูเทียนเต๋าหมดสิ้นจนกระจายหายไปในอากาศที่เบาบาง
สีหน้าของหูเทียนเต๋าเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นว่าพลังกระบี่ของตนถูกทำลายเรียบเขาตกใจอย่างมาก เขานึกไม่ถึงว่าวิชากระบี่ของชายหนุ่มผู้นี้เหตุใดถึงได้ทรงพลังเช่นนี้ เขาต่างหากที่มีระดับพลังเหนือล้ำกว่าแต่กลับกลายเป็นพ่ายแพ้ในการปะทะกันในกระบี่แรกอย่างง่ายดาย