My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1130 ปะทะปิงหยาเฟย
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1130 ปะทะปิงหยาเฟย
ตอนที่ 1130 ปะทะปิงหยาเฟย
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้ากล้าดียังไงถึงได้ตบหน้าข้า สารเลว !” ปิงซีเยว่สบถออกมาด้วยความโกรธอย่างมาก
เพื่อตอบโต้คำด่าของเธอฉิงเฟิงยกมือขึ้นอีกครั้งและตบเข้าที่แก้มขวา ตอนนี้ใบหน้าด้านขวาของเธอก็มีรอยฝ่ามือสีแดงเหมือนกับแก้มด้านซ้าย
เธอรู้สึกโกรธกริ้วมากเธอเป็นถึงผู้สืบทอดนิกายราชันเหมันต์ เธอมีชื่อเสียงและมีแต่ผู้คนก้มหัวคำนับด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าผู้ใดก็มีแต่จะต้องทักทายเธอด้วยความเคารพ
สำหรับตัวตนอย่างเธอมีเพียงตนเองเท่านั้นที่สามารถข่มเหงคนอื่น ไม่มีใครรังแกเธอได้เช่นนี้
เพี๊ยะเพี๊ยะ เพี๊ยะ …
เพื่อตอบโต้คำสบถของปิงซีเยว่ฉิงเฟิงกางฝ่ามือออกมาตบเข้าที่หน้าเธออีกหลายครั้ง
ลูกตบหลายสิบครั้งนี้ส่งเสียงดังมากใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงสดและบวมเป่ง
ปิงซีเยว่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในฐานะธิดาเทพ เธอจะถูกตบหลายครั้งเช่นนี้
เธออ้าปากพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ฉิงเฟิงก็ตบหน้าเธออีกครั้ง
กระบวนการนี้ดำเนินต่อเนื่องไปจนกระทั่งในที่สุดเธอก็ได้รับบทเรียนและไม่กล้าด่าฉิงเฟิงอีกต่อไป
แม้ว่าปิงซีเยว่จะหยุดก้นด่าฉิงเฟิงแต่ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธในขณะที่จ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ายด้วยความเกลียดชัง
ฉิงเฟิงตบหน้าเธออีกครั้งเมื่อเขาเห็นร่องรอยความโกรธในดวงตาของเธอ
ในขณะเดียวกันสาวกหญิงของนิกายราชันเหมันต์ทุกคนต่างก็มีสีหน้าตกใจพวกเธอไม่อาจจินตนาการออกเลยวันธิดาเทพผู้งดงามจะถูกตบหน้าจนบวมเหมือนหมู ตอนนี้เธอดูราวกับหญิงชราผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
ฉิงเฟิงไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าปิงซีเยว่เพราะเธอเป็นคนสำคัญของนิกายนี้เขาต้องการใช้เธอข่มขู่จ้าวนิกาย, ปิงหยาเฟย
ฉิงเฟิงแหงนหน้ามองบนท้องฟ้าในระยะไกลและได้เห็นจ้าวนิกายราชันเหมันต์กำลังมุ่งหน้ามา
ในชั่วพริบตาปิงหยาเฟยก็บินข้ามท้องฟ้าและมาถึง เธอมีใบหน้างดงามและดึงดูดใจมาก ด้วยผิวขาวเนียน เรือนร่างที่ดูดีและดูเป็นสตรีที่โตเต็มวัยยิ่งกว่าปิงซีเยว่ เธอราวกับลูกพีชที่สุกงอมเต็มที่
“ท่านอาจารย์ช่วยข้าด้วย” ปิงซีเยว่ร่ำร้องขอความช่วยเหลือทันทีที่เห็นปิงหยาเฟยมาถึง
ใบหน้าของปิงซีเยว่แดงและบวมเป่งเธอแทบขยับปากพูดไม่ได้เลย ถ้าหากเธอไม่เรียกชื่อ ปิงหยาเฟยคงไม่อาจจำเธอได้
ปิงหยาเฟยรู้ว่าลูกศิษย์ที่มีค่าของเธอผู้นี้เป็นสาวงามมากแต่ตอนนี้เธอกลับดูเหมือนหมูตัวหนึ่ง แม้กระทั่งในขณะที่เธอมองใบหน้าของปิงซีเยว่เธอก็รู้สึกเจ็บปวด
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้ากล้าทำร้ายลูกศิษย์ของข้า ! เจ้าอยากตายหรือไง !”
ปิงหยาเฟยจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างเย็นชาด้วยดวงตาคู่งามของเธอ
“ปล่อยพวกเราออกไปจากภูเขาหิมะแล้วฉันจะปล่อยลูกศิษย์เธอไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอซะ” ฉิงเฟิงกล่าวข่มขู่ในขณะที่เขาพาดกระบี่แสงสีทองไว้ที่ลำคอขาวเนียนของปิงซีเยว่
ดวงตาของปิงหยาเฟยเริ่มเย็นชาลงเมื่อเธอได้ยินคำขู่ของเขา
ในฐานะจ้าวนิกายราชันเหมันต์และยอดฝีมือระดับจิตราชันขั้นสองเธอเป็นตัวตนที่ไร้ผู้ต่อกรบนภูเขาหิมะ ไม่มีใครกล้าข่มขู่เธอและไม่มีใครกล้าคุกคามชีวิตของเหล่าศิษย์ในปกครอง หลี่ฉิงเฟิงนับเป็นคนแรก
ปิงซีเยว่เหม่อมองอาจารย์ของเธอด้วยความสิ้นหวังเธอหวังว่าอาจารย์ของเธอจะเห็นด้วยกับเงื่อนไขของฉิงเฟิงเพื่อรักษาชีวิตเธอ
ซึ่งแน่นอนปิงหยาเฟยไม่ปล่อยให้ลูกศิษย์ต้องมีอันตรายแน่ เธอกล่าวว่า “ย่อมได้ ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยศิษย์ข้า ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปแต่โดยดี”
ผู้หญิงคนนี้ไม่อาจตบตาฉิงเฟิงได้ถ้าหากเขาปล่อยปิงซีเยว่ไปแล้วอีกฝ่ายไม่รักษาคำพูดขึ้นมาล่ะ เขาจะไม่มีไพ่ไว้ต่อรองหากเธอกลับคำและจะตกอยู่ในอันตราย
“สัญญามาก่อนว่าพวกเราทุกคนจะสามารถลงจากภูเขาหิมะได้โดยไร้รอยขีดข่วนจากนั้นฉันจะปล่อยเธอไว้ที่ตีนเขา
ปิงหยาเฟยหยุดคิดครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้าเธอยอมรับคำขอของฉิงเฟิง
“ไปกันเถอะ”ฉิงเฟิงพาทีมเขี้ยวหมาป่าเดินจากไปในขณะที่ฉุดลากปิงซีเยว่เป็นตัวประกัน
ในขณะที่กลุ่มของเขาเดินผ่านปิงหยาเฟยก็ลอบลงมือโจมตีทันที
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้โจมตีฉิงเฟิงแต่มุ่งเป้าไปที่อลิซแทน
ในฐานะจ้าวนิกายราชาเหมันต์ปิงหยาเฟยหลักแหลมมาก เธอรู้ว่าฉิงเฟิงแข็งแกร่งเพียงใด ดังนั้นต่อให้ลอบโจมตีเขาก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จและคงไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย เธอจึงตั้งเป้าหมายเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าแทน
สีหน้าของอลิซเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นปิงหยาเฟยพุ่งเข้าใส่เธอมือขวาของเธอกางออกวาดเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ป้องกันปิงหยาเฟย
อย่างไรก็ตามปิงหยาเฟยทรงพลังเกินไป เธอเหยียดนิ้วออกไปแตะเบาๆที่ฝ่ามือของอลิซที่ก่อรูปมาจากพลังแท้และบดขยี้มันจนแตกเป็นเสี่ยง
จากนั้นฝ่ามือขาวเนียนของปิงหยาเฟยก็คว้าจับที่ลำคอของอลิซอย่างแน่นหนา
“หลี่ฉิงเฟิงผู้หญิงของเจ้าอยู่ในกำมือข้า หากเจ้าต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ก็ปล่อยซีเยว่ไปซะ” ปิงหยาเฟยกล่าวข่มขู่ด้วยสีหน้าเย็นชา
สีหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเธอเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าระดับจ้าวนิกายจะทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้ เธอเพิ่งสัญญาว่าจะปล่อยให้พวกเขาออกไป ดังนั้นใครจะรู้ว่าเธอจะลอบกัดทันที
อลิซเป็นผู้หญิงของเขาไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องช่วยเธอ
“ก็ได้ฉันตกลง เธอปล่อยอลิซมาฉันจะปล่อยปิงซีเยว่ไปให้เธอ ยื่นหมูยื่นแมว” ฉิงเฟิงกล่าวในขณะที่พยักหน้า
วูบ!
ปิงหยาเฟยผลักอลิซไปหาฉิงเฟิงในขณะที่ฉิงเฟิงผลักปิงซีเยว่ไปให้อีกฝ่าย
ร่างกายของผู้หญิงทั้งสองบินผ่านกันบนท้องฟ้าแต่ใครจะรู้ว่าเมื่อพวกเธอกำลังผ่านกันและกัน ปิงซีเยว่จะโจมตีอลิซที่หน้าอก
อ๊า!
อลิซกระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส
ฉิงเฟิงรีบบินขึ้นไปในอากาศแล้วคว้าอลิซไว้เขาวางเธอลงบนพื้นแล้วถ่ายทอดพลังไปยังร่างกายของเธอช่วยให้เธอฟื้นตัว
ในขณะที่ฉิงเฟิงกำลังถ่ายพลังช่วยอลิซเขาก็รู้สึกได้อันตราย
มันคือกระบี่ยาวของปิงหยาเฟยที่พุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงนั่นเองจ้าวนิกายผู้งดงามคนนี้ช่างลอบกัดอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนหน้านี้ลอบทำร้ายอลิซ ตอนนี้ก็ยังลอบโจมตีฉิงเฟิงอีก
เขารีบวางอลิซลงกับพื้นอย่างรวดเร็วและดึงกระบี่แสงสีทองออกมาเข้าต้านรับกระบี่ของปิงหยาเฟย
เปรี้ยง
!!! กระบี่ทั้งสองเล่มปะทะกันบนท้องฟ้าและก่อให้เกิดเสียงการปะทะที่ดังไปทั่ว
ฉิงเฟิงถูกบีบให้ต้องถอยไปก้าวหนึ่งเช่นเดียวกับปิงหยาเฟยพลังโจมตีของทั้งสองฝ่ายนั้นสูสีเท่าเทียมกัน
“นี่เจ้าสามารถรับกระบี่วิญญาณเยือกแข็งของข้าได้!” ปิงหยาเฟยกล่าวในขณะที่หน้าถอดสี
เธอมีพลังระดับจิตราชันขั้นที่สองและกระบี่วิญญาณเยือกแข็งของเธอก็กระบี่วิญญาณระดับราชันที่มีพลังมหาศาล
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่พลังของเธอและพลังของกระบี่เล่มนี้ก็ยังไม่อาจเอาชนะหลี่ฉิงเฟิง เขาแข็งแกร่งเกินไป !
ฉิงเฟิงยกยิ้มมุมปากเขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีในการโจมตีเมื่อครู่นี้ มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เขารวบรวมมาต้านรับเธอในยามฉุกละหุกเท่านั้นเอง