My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1145 ราชาจระเข้สามหัว
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1145 ราชาจระเข้สามหัว
ตอนที่ 1145 ราชาจระเข้สามหัว
“คิดจะหนีไปไหน” เมื่อได้เห็นราชินีแวมไพร์คามิลล่าหันหลังหนี สีหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มไล่ตามเธอ
เขาต้องการเม็ดยาวิญญาณโลหิตเพื่อช่วยราชาหมาป่าอัคคีแต่ความเร็วของคามิลล่านั้นรวดเร็วดั่งสายฟ้า เธอหายตัวไปในพริบตา
ฉิงเฟิงพยายามจะไล่ตามเธอแต่ลูกหมาสีดำกลับห้ามเขาไว้มันกล่าวว่า “ฉิงเฟิง ไม่ต้องเสียเวลาตามไป เจ้าหมาป่าตัวน้อยกำลังเสียเลือดมาก บาดแผลของมันเริ่มจะเน่าเปื่อยแล้ว”
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมากกับคำพูดของลูกหมาสีดำเขาเลิกตามคามิลล่าและเดินไปข้างๆราชาหมาป่าอัคคี
ฝ่ามือของราชาหมาป่าอัคคีส่วนใหญ่ได้เน่าเปื่อยกลายเป็นสีเลือดและแม้กระทั่งกระดูกก็ยังเผยในอากาศ “
เจ้าหนู
,
ฝ่ามือของเจ้าหมาป่านั่นถูกกัดเซาะโดยเผ่าโลหิตนอกจากยาเม็ดวิญญาณโลหิตแล้วก็มีทางรักษาอีกอย่างก็คือเปลวเพลิงสีทองของเจ้า”
เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
ร่องรอยแห่งความสุขปรากฏในดวงตาของฉิงเฟิงเมื่อได้รับข้อมูลจากจักรพรรดิราตรี
สำหรับเขาแล้วดูเหมือนว่าจักรพรรดิราตรีผู้นี้ทั้งทรงพลัง, ลึกลับ และมีความรอบรู้มากมายเกินกว่าจะเรียกว่าผู้ฝึกตนคนหนึ่ง
ฉิงเฟิงรีดเค้นกลุ่มก้อนของเปลวไฟทองคำและวางมันลงบนฝ่ามือของราชาหมาป่าอัคคี
เปลวไฟทองคำบรรจุไว้ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวและสามารถเยียวยาบาดแผลจากเผ่าพันธุ์โลหิตได้
ทันทีที่ไฟถูกฝ่ามือที่เน่าเปื่อยมันก็เผาเนื้อที่เน่าเสียออกถึงแม้ว่ามันจะทิ้งรอยไว้บนฝ่ามือแต่กลิ่นเน่าก็หายไปและเลือดหยุดไหลเช่นกัน
ฉิงเฟิงกางฝ่ามือออกไปอีกครั้งและเริ่มถ่ายโอนพลังแท้ไปยังร่างของราชาหมาป่าอัคคีเพื่อรักษาบาดแผลในไม่ช้าแผลก็หาย
ฉิงเฟิงสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนกำลังมองเขาอยู่และเมื่อเขามองหาต้นตอของสายตานั้นก็พบว่าเป็นสาวงามชาวหัวเซี่ยคนหนึ่ง
“หลี่ฉิงเฟิงข้ารู้จักท่าน ท่านถูกเรียกว่านักสู้หมายเลข 1 ภายใต้ขอบเขตจิตวิญญาณราชันในหัวเซี่ย ข้าไม่รู้เลยว่าท่านจะบรรลุถึงจิตราชันขั้นสองในเวลาอันสั้นเช่นนี้ น่าเหลือเชื่อนัก” สาวงามคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงรู้ว่าตนเองมีชื่อเสียงแต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าสาวงามผู้นี้จะรู้จักเขาละเอียดเช่นนี้ นอกจากนี้เขายังรู้อีกว่าระดับพลังของเธอไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย
ซึ่งพลังของเธอนั้นได้พิสูจน์แล้วจากการต่อกรกับราชินีแวมไพร์ก่อนที่เขาจะมาถึง
“สาวสวยฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ
สาวสวยผู้นั้นยิ้มอย่างมีเสน่ห์และตอบว่า“ข้าชื่อมู่เซียนเซียน ข้าเป็นคนของนิกายไผ่ราชัน”
นิกายไผ่ราชัน
ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิงเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับนิกายผู้ฝึกตนระดับราชาที่อาศัยอยู่ในภูเขาไผ่
ตามตำนานกล่าวว่าสาวกของนิกายไผ่ราชันเหล่านี้ล้วนใช้ต้นไผ่เป็นอุปกรณ์วิญญาณและยอดเยี่ยมทางด้านข่ายอาคมนิกายนี้มีชื่อเสียงมากในหัวเซี่ย
“มิสมู่ว่าแต่ว่า ทำไมคุณถึงไม่ข้ามบึงไปล่ะ ” ฉิงเฟิงชี้ไปที่บึงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา มู่เซียนเซียนกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วว่า“มีจระเข้ที่ทรงพลังอยู่ในบึง ข้าได้พยายามที่จะข้ามมันไปเมื่อครู่แล้ว แต่ก็ล้มเหลว”
จากคำบอกเล่าของเธอทำให้ฉิงเฟิงต้องขมวดคิ้วเนื่องจากเขาคาดเดาพลังของเธอได้
มู่เซียนเซียนเป็นผู้ฝึกตนระดับจิตราชันขั้นสามซึ่งสูงกว่าเขาขั้นหนึ่งหากเธอพบว่าเป็นการยากที่จะข้ามบึงไปก็แสดงว่ามันย่อมยากสำหรับเขาเช่นกัน
“ในเมื่อมีจระเข้อาศัยอยู่ในหนองน้ำงั้นฉันจะบังคับให้พวกมันออกไป” ฉิงเฟิงชักกระบี่แสงสีทองออกมาและพุ่งไปข้างหน้า
กระบี่ก่อลำแสงพลังงานกระบี่ที่ยาวถึง100 เมตรซึ่งเจาะเข้าไปในบึงใหญ่
ในรอยแตกเผยให้เห็นถึงฝูงจระเข้ที่หนาแน่นพวกมันมีอย่างน้อยก็ราวๆหนึ่งพันตัว แต่ละตัวต่างก็แข็งแกร่งและผู้นำของพวกมันก็คือจระเข้อสูรที่มีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณราชัน มันมีสามหัวและปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาเพียงมองแวบเดียวฉิงเฟิงก็รู้สึกตระหนก
“สัตว์อสูรระดับจิตราชันขั้นที่สาม!” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความประหลาดใจในสายตาของเขา
จระเข้สามหัวเป็นสัตว์อสูรระดับจิตราชันขั้นสามในขณะที่จระเข้สองตัวที่อยู่ทั้งสองข้างของมันนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับจิตราชันขั้นที่สอง เมื่อรวมกับเหล่าจระเข้ทั้งฝูงนับพันตัวที่มีพลังในระดับจิตวิญญาณสวรรค์ก็ทำให้เกิดกลุ่มก้อนพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถขวางทางผู้ฝึกตนได้
แต่หนองน้ำที่อยู่ตรงนี้เป็นทางเดียวที่จะผ่านไปหาน้ำพุแห่งชีวิตและฉิงเฟิงต้องข้ามมันไปให้ได้
ในบรรดาคนกลุ่มนี้มู่เซียนเซียน ปิงหยาเฟยและฉิงเฟิงคือสามคนที่แข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่คนอื่นๆมีระดับพลังต่ำกว่าจระเข้สามหัวมากนัก หากฉิงเฟิงมาคนเดียวเขาคงใช้ท่าร่างก้าวมังกรเพื่อบินข้ามไปแต่มันเป็นการยากที่จะให้ทุกคนข้ามไป
“มิสมู่พวกเราสามารถร่วมมือกันเพื่อฆ่าจระเข้สามหัว” ฉิงเฟิงกล่าวกับมู่เซียนเซียน
ทันทีที่ได้ยินมู่เซียนเซียนก็พยักหน้าเห็นด้วย
เธอรู้ซึ้งถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของชายคนนี้เป็นอย่างดีเพราะเธอเฝ้าดูเขาเผาแขนข้างหนึ่งของปีศาจนรกแต่เธอไม่รู้ว่าฉิงเฟิงสามารถใช้เปลวไฟทองคำได้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้นซึ่งตอนนี้เขาใช้ไม่ได้แล้ว
“มนุษย์ข้าเป็นราชาอสูรของบึงแห่งนี้ พวกเจ้าต้องไปจากที่นี่ทันที” ราชาจระเข้สามหัวประกาศกร้าวเสียงดังต่อกลุ่มของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า“ให้พวกเราข้ามบึงก่อนแล้วเราจะไปทันที”
ราชาจระเข้สามหัวส่ายหัวปฏิเสธที่นี่เป็นดินแดนของมันและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ผ่านไป
“ถ้าเช่นนั้นฉันก็จะฆ่าแกซะ” ฉิงเฟิงแสยะยิ้ม ทั่วร่างเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
เขาฟาดฟันกระบี่แสงสีทองออกไปข้างหน้าและออร่ากระบี่อันแหลมคมของมันก็ตรงเข้าหาราชาจระเข้สามหัว
“สนามพลังแสงจระเข้!” ราชาจระเข้สามหัวใช้เกราะป้องกันแสงสีขาวออกมา
สนามพลังแสงถูกสร้างขึ้นจากแก่นพลังโดยมีน้ำเป็นองค์ประกอบมันสามารถปิดกั้นการโจมตีของกระบี่แสงสีทองได้
“
กระบี่
วิญญาณไผ่
!
“
มู่เซียนเซียนพึมพำและวาดกระบี่ยาวของเธอไปข้างหน้า กระบี่ยาวเล่มนี้ทำจากไม้ไผ่มันเปล่งชั้นออร่าบางๆสีน้ำเงินออกมาซึ่งทรงพลังมาก
กระบี่วิญญาณไม้ไผ่เป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับราชันขั้นที่สามที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้เกิดรอยร้าวบนเกราะป้องกันของราชาจระเข้สามหัวได้
ในเวลาเดียวกันปิงหยาเฟยก็ชักกระบี่วิญญาณน้ำแข็งออกมา มันก่อตัวเป็นออร่ากระบี่สีขาวซึ่งทิ้งรอยแตกอีกสายหนึ่งไว้บนเกราะป้องกันแสง
ด้วยรอยแตกทั้งสองจุดเกราะแสงป้องกันที่ก่อตัวขึ้นจากน้ำในธรรมชาติก็เริ่มสั่นครืนจนดูเหมือนว่ามันจะระเบิดได้ทุกเมื่อ