My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1147 เจตนาแก้แค้นของอัลจอห์น
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1147 เจตนาแก้แค้นของอัลจอห์น
ตอนที่ 1147 เจตนาแก้แค้นของอัลจอห์น
เมื่อติดอยู่ในน้ำแข็งมู่เซียนเซียนจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เธอมองไปที่ราชาจระเข้สามหัวด้วยสีหน้าซีดเซียวและตื่นตระหนก เธอไม่คาดคิดว่าพลังจากแก่นอสูรของจระเข้สามหัวจะทรงพลังขนาดนี้
ราชาจระเข้สามหัวยิงลำแสงสีขาวออกไปอีกครั้งมันกลายเป็นบล็อคน้ำแข็งขนาดใหญ่และแช่แข็งร่างของปิงหยาเฟยไว้ภายใน
“หลี่ฉิงเฟิงบล็อกน้ำแข็งนั้นถูกเรียกว่ารูปสลักเทพน้ำแข็ง มันสามารถแช่แข็งยอดฝีมือขอบเขตจิตราชันได้ เจ้าต้องรีบฆ่ามันโดยเร็ว ” การแสดงออกของลูกหมาสีดำเปลี่ยนไป มันตะโกนบอกฉิงเฟิงอย่างร้อนรน
ฉิงเฟิงไม่รู้เกี่ยวกับวิชารูปสลักเทพน้ำแข็งแต่ลูกหมาสีดำรู้
มันเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกครอบครองโดยเทพน้ำแข็งโบราณไม่รู้ว่าเป็นไงมาไงมันถึงมาอยู่ในมือของจระเข้สามหัวได้ เพราะเหตุนี้มันถึงได้พิชิตบึงแห่งนี้ได้เป็นเวลานาน
จากคำพูดของลูกหมาสีดำสีหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนไป เวลามีค่าและเขาตัดสินใจที่จะใช้ไพ่เด็ดเพื่อสังหารจระเข้สามหัวอย่างรวดเร็วที่สุด
ด้วยความคิดแวบเดียวเขาหยิบน้ำเต้าสีทองออกมาจากแหวนมิติ เขาเปิดฝาและเล็งไปที่จระเข้สามหัว
ซูม!
น้ำเต้าทองคำยิงลำแสงสีทองออกมาแสงนั้นบรรจุไปด้วยพลังงานสีทองซึ่งแหลมคมจนสามารถเจาะทุกสิ่งในโลกได้
อากาศระเบิดออกตลอดเส้นทางที่พลังงานสีทองผ่านไปด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าแสงเลเซอร์ มันยิงเข้าสู่ศีรษะของจระเข้สามหัวและเจาะทะลุเป็นรู
ศีรษะเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของเหล่าสัตว์อสูรเพราะมันเป็นสถานที่ที่มีจิตวิญญาณสถิตย์อยู่ในขณะที่ศีรษะถูกเจาะ จิตวิญญาณก็ถูกทำลายไปด้วย
จระเข้สามหัวมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความหวาดกลัวก่อนที่ดวงตาของมันจะมืดจางลงและตกลงไปในบึงอย่างไร้กลิ่นอายชีวิต
ราชาจระเข้สามหัวที่มีชีวิตนับร้อยปีตายแล้ว
ผู้คนรอบข้างต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นและไม่คาดคิดว่าจระเข้สามหัวที่ทรงพลังจะถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหารอย่างง่ายดาย
เมื่อร่างของจระเข้สามหัวตกลงไปในบึงแก่นอสูรสีขาวก็หลุดออกมา
ฉิงเฟิงเอื้อมมือไปคว้ามันและเก็บใส่แหวนมิติ
เขาเดินไปที่ด้านข้างปิงหยาเฟยและมู่เซียนเพื่อใช้ฝ่ามือทุบทำลายบล็อคน้ำแข็งช่วยพวกเธอออกมา
“ขอบคุณ”มู่เซียนเซียนกระพริบตาคู่งามและกล่าวขอบคุณฉิงเฟิง
เธอรู้ว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งแต่ก็ไม่คิดว่าจะทรงพลังจนล้มราชาจระเข้สามหัวได้
หลังจากนั้นฉิงเฟิงก็นำกลุ่มข้ามบึงและเดินทางต่อไป
สำหรับมู่เซียนเซียนเธอขอแยกตัวจากกลุ่มของฉิงเฟิงเพื่อไปตามหาศิษย์น้องของเธอ , นั่นก็คือชายหนุ่มถือกระบี่ที่เขาเคยเห็นข้างๆเธอก่อนหน้านี้
…………
ไม่นานหลังจากที่พวกฉิงเฟิงเดินลับตาไปก็ปรากฏร่างของผู้หญิงชุดแดงขึ้นข้างๆบึง
ถึงแม้ว่าเธอจะดูสวยมากด้วยใบหน้าอันทรงเสน่ห์จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดง แต่ในดวงตาของเธอกลับทอประกายเย็นยะเยือก
เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคามิลล่าราชินีแวมไพร์ แทนที่จะหนีไปไกลแต่เธอกลับซ่อนตัวเข้าไปในมิติอื่นด้วยเคล็ดวิชาท่องมิติของเธอ
เมื่อรู้สึกได้ว่าพวกเขาได้จากไปไกลแล้วคามิลล่าก็กลับออกจากพื้นที่มิติอื่น
“จระเข้ทั้งหมดตายได้อย่างไรกัน”
เมื่อเห็นจระเข้นับพันตายในหนองน้ำการแสดงออกของคามิลล่าก็เปลี่ยนไปด้วยร่องรอยของความประหลาดใจที่วาดผ่านดวงตาของเธอ
เพราะในขณะที่เธอซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่มิติอื่นเธอไม่เห็นฉิงเฟิงสังหารจระเข้
แต่เธอรู้จำนวนและพลังของจระเข้ในหนองน้ำดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งราชาจระเข้สามหัวเป็นถึงสัตว์อสูรขอบเขตจิตราชันขั้นที่สามที่สามารถควบคุมพลังแห่งรูปสลักน้ำแข็งเทพได้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังต้องใช้เวลานานพอสมควรหากจะคิดฆ่ามัน แล้วใครกันที่แข็งแกร่งพอที่จะเก็บกวาดได้สิ้นซากรวดเร็วเช่นนี้
“หรือจะเป็นฝีมือชายชาวหัวเซี่ยผู้นั้น”
คามิลล่าย่นคิ้วด้วยร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ จากนั้นเธอก็ส่ายหัวเพราะถึงแม้ว่าชายชายหัวเซี่ยผู้นั้นจะแข็งแกร่งแต่ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาไม่ใช่เคล็ดวิชาแต่เป็นเปลวเพลิงทองคำ
แต่หลังจากที่เธอค้นดูซากศพทั่วบึงทั้งหมดก็ไม่พบว่ามีจระเข้ตัวใดถูกไฟเผาจนตาย
เนื่องจากไม่มีจระเข้ตายเพราะถูกไฟเผาเธอจึงสรุปเอาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือหลี่ฉิงเฟิง เธอส่ายหัวและเดินเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาต่อไป
จุดประสงค์ของเธอคือน้ำพุแห่งชีวิตโดยธรรมชาติที่เธอจะต้องมุ่งหน้าค้นหาต่อไป
น่าเสียดายที่เธอด่วนสรุปและไม่รู้ว่าการตายของจระเข้ทั้งหมดเป็นฝีมือของหลี่ฉิงเฟิงหากเธอรู้เธอคงไม่กล้าท้าทายเขาอีกต่อไป
“บอสครับดูทางนั้นสิ ! มีผืนป่าอยู่ข้างหน้า” ลู่ซวนจี๋กล่าวพร้อมชี้
ฉิงเฟิงหันหน้ามองไปยังทิศทางนั้นและได้เห็นป่าข้างหน้าพวกเขา
มันเป็นป่าผืนใหญ่ที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาและขวางทางพวกเขาไว้
นี่เป็นป่าโบราณที่ดำรงอยู่มานานนับพันปีเทียบเท่าภูเขาคุนหลุน
เทือกเขาคุนหลุนถูกเรียกว่าเป็นภูเขาแห่งภาคตะวันออกตามตำนานกล่าวว่าครั้งหนึ่งราชินีนภาและจักรพรรดินภาเคยอาศัยอยู่ที่นั่น ส่วนเทือกเขาแอลป์ถูกเรียกว่าเป็นภูเขาแห่งเทพตะวันตก กล่าวกันว่าเทพซุส อพอลโล อธีนาและอาเรสเคยอาศัยอยู่ในภูเขาเหล่านี้
เทือกเขาแอลป์ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยโอกาสที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นแต่ยังมีความเสี่ยงมหาศาลอีกด้วย
ฉิงเฟิงไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปในโซนป่าโบราณเพราะเขาเห็นชายชราคนหนึ่งอยู่นอกป่าชายชราผู้นั้นมีผมสีขาวและกลิ่นอายอันทรงพลัง ชายชรามีหน้าตาคล้ายกับอัลบรอนที่ถูกราชันผู้พิชิตสังหารมองยามที่มองผ่านครั้งแรกเขายังเข้าใจผิดว่าเป็นอัลบรอนด้วยซ้ำ
ที่จริงแล้วชายชราในชุดสีแดงคืออัลจอห์นศิษย์พี่ของอัลบรอน เขายังเป็นหนึ่งในพระคาร์ดินัลเสื้อคลุมสีแดงของศาสนจักร
บนพระคัมภีร์แห่งเทพในมืออัลจอห์นกำลังศึกษาบางอย่างอยู่
เมื่อได้ยินเสียงข้างหลังเขาก็หันศีรษะมาได้เห็นฉิงเฟิงทันที ดวงตาของเขาทอประกายแสงอันเย็นเยียบพาดผ่าน
“ชาวตะวันออกเจ้าชื่อหลี่ฉิงเฟิงใช่หรือไม่ ศิษย์น้องของข้าถูกราชันผู้พิชิตบิดาของเจ้าสังหาร” อัลจอห์นมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาเย็นชา
ฉิงเฟิงไม่ตอบคำเพียงปรากฏแค่รอยยิ้มเบาบาง เพราะอีกฝ่ายเดาถูก อัลบรอนตายไปแล้วด้วยน้ำมือพ่อของเขา
“คุณต้องการแก้แค้นให้ศิษย์น้องงั้นหรือ” ฉิงเฟิงถามกลับ
ชายชราในชุดแดงพยักหน้าและเดินไปหาฉิงเฟิงด้วยจิตสังหารที่เปี่ยมล้น
วูบ!
ในช่วงเวลานั้นเองแมวดำตัวหนึ่งพุ่งผ่านพวกเขาเข้าไปในป่าโบราณราวกับประกายแสง
มันเป็นแมวตัวเล็กที่มีความยาวประมาณยี่สิบเซ็นติเมตรมันมีขนสีดำเงางามและกรงเล็บอันแหลมคมจนดูราวกับบดขยี้หินให้แตกเป็นเสี่ยงๆได้
“แมวตัวนั้นมันคืออะไรกัน ทำไมถึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้ ?!”
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ