My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1152 หมัดที่สี่ – ทะลวงชั้นฟ้า !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1152 หมัดที่สี่ – ทะลวงชั้นฟ้า !
ตอนที่ 1152 หมัดที่สี่ – ทะลวงชั้นฟ้า !
ด้วยความช่วยเหลือของจักรพรรดิราตรีทำให้ฉิงเฟิงกลับมามั่นใจเขาไม่กลัวอัลจอห์นอีกต่อไปและมองอีกฝ่ายเป็นคู่ฝึกซ้อมแทน
เปรี้ยง… !
ฉิงเฟิงเริ่มบุกด้วยการเหวี่ยงหมัดออกไปก่อรูปเป็นกำปั้นขนาดยักษ์ขึ้นไปทั่วท้องฟ้าและกระแทกเข้าใส่อัลจอห์น
อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยม่านแสงป้องกันและปิดกั้นการโจมตีของเขาได้เช่นเคย
อัลจอห์นรู้สึกไว้วางใจในความแข็งแร่งของม่านแสงป้องกันเขาเริ่มตอบโต้กลับด้วยหมัดแห่งเทพนภา หมัดของพวกเขาทั้งสองบดขยี้ใส่กันจนเกิดเสียงดังก้องและสั่นสะเทือนโลก
ตูมตูม ตูม
!
การต่อสู้ของฉิงเฟิงและอัลจอห์นนั้นรุนแรงมากพวกเขาบินขึ้นสูงเพื่อต่อสู้กันในอากาศชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ลงไปสู้กันต่อบนพื้นดิน
การต่อสู้ของพวกเขาเปลี่ยนท้องฟ้าให้เต็มไปด้วยฝุ่นแต่เนื่องจากระดับพลังของพวกเขาใกล้เคียงกัน จึงยังไม่มีใครฆ่าอีกฝ่ายได้
นอกเหนือจากการต่อสู้ระหว่างฉิงเฟิงกับอัลจอห์นก็ยังมีการต่อสู้เกิดขึ้นอีกสองจุดซึ่งรุนแรงไม่แพ้กัน
การร่วมมือของลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าค่อนข้างแข็งแกร่งจนบีบให้คามิลล่าต้องถอยหลัง
แม้ว่าเธอจะทรงพลังแต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับสัตว์อสูรวิญญาณสองตัวที่ร่วมมือกัน
ส่วนปิงหยาเฟยเธอไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ใดๆ
ฉิงเฟิงสั่งให้เธอคอยเฝ้าดูแมวแห่งโชคชะตาเผื่อว่ามันจะพยายามหลบหนี แมวตัวนี้เจ้าเล่ห์เกินไปมันสามารถเปลี่ยนเป็นร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อตบตาผู้คนได้
ฉิงเฟิงคิดว่าทีมเขี้ยวหมาป่าคงไม่สามารถไล่จับแมวแห่งโชคชะตาได้ทันดังนั้นเขาจึงสั่งให้ปิงหยาเฟยทำหน้าที่นี้แทน เนื่องจากเธอเป็นยอดฝีมือในขอบเขตจิตราชันขั้นที่สาม ( TF : แล้วพาทีมเขี้ยวหมาป่ามาเพื่อ… โคตรตัวถ่วง)
หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันหลายร้อยครั้งกับอัลจอห์นฉิงเฟิงได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นและเริ่มรู้สึกเชี่ยวชาญเพลงหมัดมากขึ้น
ในตอนแรกอัลจอห์นสามารถโจมตีฉิงเฟิงจนต้องถอยร่นได้ด้วยหมัดแห่งเทพนภาแต่หลังจากปะทะกันไม่นานนัก อัลจอห์นก็ไม่สามารถเอาชนะฉิงเฟิงได้อีกเลยเนื่องจากฉิงเฟิงได้เห็นรูปแบบการโจมตีของหมัดเทพนภาและเริ่มคุ้นชินกับมัน เขาสามารถหลบการโจมตีได้บางส่วน หมัดทลายนรกานต์มีทั้งหมดเก้าหมัดและฉิงเฟิงเพิ่งบรรลุเพียงแค่สามหมัดแรกยังเหลืออีกหกหมัดที่เขาสามารถเรียนรู้ต่อไปได้ในอนาคต
และในเวลานี้เองฉิงเฟิงก็กำลังเรียนรู้หมัดที่สี่[ทะลวงชั้นฟ้า]
ซึ่งหมัดที่สี่นี้มีพลังมหาศาลจนสามารถทลายนภาลัยได้ด้วยหมัดเดียว!
แต่แน่นอนว่าหมัดนี้ยากมากที่จะเข้าถึงได้มันต้องอาศัยการเรียนรู้จากคู่ต่อสู้นอกเหนือไปจากการเข้าใจด้วยตัวเอง และตอนนี้ฉิงเฟิงก็กำลังเรียนรู้จากหมัดเทพนภาของอีกฝ่าย
หมัดเทพนภามีรูปแบบการโจมตีราวกับพุ่งลงมาจากท้องฟ้าผ่านชั้นบรรยากาศและฉิงเฟิงก็เริ่มเข้าใจอย่างถ่องแท้
แม้ว่าเขาจะได้เห็นรูปแบบการโจมตีของอีกฝ่ายแล้วก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถฝึกฝนได้หากไร้ซึ่งเคล็ดวิชาเทพนภา อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเข้าถึงและเรียนรู้จากสถานการณ์จริง
ฉิงเฟิงเป็นอัจฉริยะและมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆหลังจากรับหมัดเทพนภาไปได้ไม่นานเขาก็เข้าใจเทคนิคของหมัดเทพนภาอย่างสมบูรณ์
เขาลองลอกเลียนแบบวิถีการเคลื่อนที่ของหมัดเพลงนภา,เขาใช้หมัดขวาง้างเหวี่ยงขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังแท้ทั้งมวลพุ่งผ่านชั้นฟ้าขึ้นไปรวมกันเป็นกำปั้นขนาดยักษ์และเจาะรูโหว่ขนาดใหญ่ผ่านท้องฟ้าลงมายังพื้นดิน
“ฮ่าๆๆหมัดที่สี่ของเพลงหมัดทลายนรกานต์ ฉันเข้าใจมันแล้ว !”
ฉิงเฟิงหัวเราะด้วยความดีใจ
“อัลจอห์นแกมีคัมภีร์แห่งเทพนภาไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ใช้มันล่ะ?”
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้อัลจอห์นก็ตกตะลึงทันที
เขารู้สึกว่าฉิงเฟิงนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนอีกฝ่ายมีออร่าที่แปลกและทรงพลังซึ่งทำกดทับจนทำให้เขากังวลเล็กน้อย
“
ตายซะ
!
หมัดเทพนภา
!
“
อัลจอห์นเหวี่ยงหมัดขวาออกไป,ทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศ, ฉีกกระชากอวกาศและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงยืนหยัดอย่างมั่นคงและไม่หวั่นเกรงต่อการเผชิญหน้ากับหมัดอันทรงพลังนี้เขาได้เรียนรู้หมัดที่สี่ของเพลงหมัดทลายนรกานต์แล้ว หมัดเทพนภาไม่น่ากลัวสำหรับเขาอีกต่อไป
“
หมัดที่สี่ –
ทะลวงชั้นฟ้า
!
“
ฉิงเฟิงคำรามกึกก้องและเหวี่ยงหมัดขวาพุ่งขึ้นไปที่ท้องฟ้าจนถูกเจาะเป็นรูโหว่และบดขยี้หมัดเทพนภาโดยตรง
ครืดครืด !
อัลจอห์นถูกระแทกถอยหลังไปสองก้าวด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวและหมัดขวาที่สั่นเทา
หมัดนี้ของฉิงเฟิงทรงพลังเกินไปจนทำให้เขาถูกกระแทกถอยกลับไปหลายก้าว
เมื่อเห็นอัลจอห์นเสียเปรียบและถอยร่นฉิงเฟิงก็ดีใจ เขายังคงปลดปล่อยหมัดทลายนรกานต์ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อโจมตีอัลจอห์นและทุกหมัดก็เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
ในท้ายที่สุดฉิงเฟิงก็โจมตีอัลจอห์นจนถอยไปถึงข้างบ่อน้ำใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเซียวและเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
อัลจอห์นรู้ดีว่าเขาไม่อาจถอยได้อีกต่อไปไม่งั้นเขาจะตกลงไปในบ่อน้ำเขาต้องหาวิธีรับมือฉิงเฟิงให้ได้
“เทพนภาผู้ศักดิ์สิทธิ์โปรดมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้แก่ข้าด้วย” อัลจอห์นถือคัมภีร์แห่งเทพนภาในขณะที่เขาพึมพำคาถาบางอย่าง
ทันใดนั้นเองแฟนธ่อมสีดำตัวหนึ่งก็บินออกมาจากคัมภีร์และเผยร่างออกมาเป็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเทพ!
แฟนธ่อมสีดำนั้นเอ่อล้นไปด้วยพลังมหาศาลและปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา
เขามีท่าทางที่สง่างามด้วยผมสีบลอนด์ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพแกะสลักและมีจมูกสูงโด่ง มันเป็นรูปลักษณ์โดยทั่วไปของลูกหลานแห่งทวีปเสือ
“อัลจอห์นเจ้าเรียกเรามาเพราะเหตุใด ” แฟนธ่อมสีดำมองลงไปที่อัลจอห์นและกล่าวอย่างหยิ่งผยอง
อัลจอห์นชี้ไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวว่า“ฝ่าพระบาท ชายผู้นี้คือหลี่ฉิงเฟิง หากท่านสังหารเขาซะ ข้าผู้น้อยจะได้แมวแห่งโชคชะตาซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อฝ่าบาทเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของอัลจอห์นแฟนธ่อมของเทพก็พยักหน้า ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงเจตนาฆ่า
เขารู้ว่าแมวแห่งโชคชะตาจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเขาเพราะมันมีความสามารถในการทำนายอนาคตตอนนี้เขามุ่งมั่นที่จะฆ่าชายคนนี้มาก
“เด็กน้อยเจ้าจะเลือกจบชีวิตตัวเองหรือจะให้เราลงมือ” แฟนธ่อมสีดำกล่าวอย่างเยือกเย็น
ฆ่าตัวตาย
ฉิงเฟิงหัวเราะด้วยความเย่อหยิ่งและพูดเสียงดังว่า“แล้วแกเป็นใครละวะ แกกล้าดียังไงมีหน้ามาสั่งให้ฉันฆ่าตัวตาย ?” เทพองค์นี้อาจทรงพลังในสายตาผู้อื่นแต่สำหรับฉิงเฟิงมันไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก
ถ้าหากเทพนภาแท้จริงเสด็จลงมาเขาอาจจะกลัวแต่ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นแค่แฟนธ่อมซึ่งเป็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่มีพลังหนึ่งในหมื่นของเทพแท้จริง
นอกจากนี้เขายังมีจักรพรรดิราตรีและเสี้ยวจิตวิญญาณของมังกรอัคคีอยู่ในร่างซึ่งเป็นเหล่าผู้ที่ไร้เทียมทานในโลกนี้ ดังนั้นแฟนธ่อมตัวนี้ไม่มีอะไรต่อหน้าเขาเลย
“มนุษย์เจ้ากำลังขอความตายด้วยการยั่วยุพระเจ้า เราจะกินวิญญาณของเจ้า”
แฟนธ่อมของเทพยิ้มเยาะและกล่าวกับฉิงเฟิง
แฟนธ่อมตัวนี้หยิ่งผยองมากและข่มขู่ฉิงเฟิงราวกับเป็นมดปลวก
เขาเป็นเทพที่ได้รับการเคารพบูชาโดยผู้คนจำนวนมากฉิงเฟิงเป็นเพียงผู้ฝึกตนจากโลกตะวันออก แน่นอนว่าเขาไม่สนใจชายหนุ่มผู้นี้มากนัก
ซูม!
แฟนธ่อมแห่งเทพเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงหมายจะฆ่าเขา
แต่ในขณะนั้นเองมีแสงสว่างส่องผ่าน จิตวิญญาณของจักรพรรดิราตรีพุ่งออกมาจากกระบี่เพลิงคะนองและปิดกั้นแฟนธ่อมของเทพนภาเอาไว้