My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1158 เข้าสู่มรดกของเทพแห่งชีวิต
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1158 เข้าสู่มรดกของเทพแห่งชีวิต
ตอนที่ 1158 เข้าสู่มรดกของเทพแห่งชีวิต
ออกัสตินขมวดคิ้วคนอื่นอาจไม่รู้ถึงพลังของฝ่ามือนี้ของเขา แต่ตัวเขารับรู้ได้อย่างชัดแจ้ง เขาใช้ความแข็งแกร่งของเทพนภาแล้วแต่ก็ยังถูกหลี่ฉิงเฟิงต้านรับเอาไว้ได้
“หลี่ฉิงเฟิง..ข้าไม่คิดเลยว่าแกจะมีพลังในระดับจิตวิญญาณราชันแล้ว”
ออกัสตินพูดขึ้นเขารับรู้ได้ถึงพลังระดับจิตวิญญาณราชันเช่นเดียวกับพลังที่เขาปลดปล่อยออกมา
ฉิงเฟิงแสยะยิ้มตอบเขากล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่า “แกไม่เคยเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับฉันเลย ก่อนนี้ไม่ใช่ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ !”
ใบหน้าของออกัสตินเปลี่ยนไปดวงตาของเขาฉาบไปด้วยความโกรธแค้นจากคำพูดของฉิงเฟิง
เจ้าลูกนอกคอกตัวนี้กล้าพูดถึงอดีตและถลกแผลเก่าที่เขาไม่ต้องการนึกถึงออกมา ฟุ่บ!
ออกัสตินเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและพุ่งไปข้างหน้าฉิงเฟิงในพริบตา
คราวนี้เขาไม่ได้ใช้ฝ่ามือแต่ใช้กำปั้นแทน เขาโบกหมัดขวาออกไปกลายเป็นกำปั้นยักษ์สีขาวที่ทำให้ท้องฟ้าสว่างวาบขึ้น
ถึงจะปากดีแต่ฉิงเฟิงก็ไม่ประมาทออกัสตินแม้ว่าเขาจะดูถูกอีกฝ่ายแต่ก็รับรู้ว่าคนผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม เคล็ดวิชาที่ออกัสตินใช้ไม่ว่าจะยังไงก็ยังคงเป็นเคล็ดวิชาระดับเทพแทบทั้งสิ้น
ฉิงเฟิงได้รวบรวมพลังแท้ในร่างและเหวี่ยงหมัดที่สี่– ทะลวงชั้นฟ้าออกไป มันปะทะเข้ากับหมัดของออกัสตินจนเกินเสียงดังลั่นและสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูเขาเทพหิมะ
แล้วก็เป็นเช่นเดียวกับกระบวนท่าแรกที่ปะทะกันก่อนหน้านี้ไม่มีฝ่ายใดสะกดอีกฝ่ายลงได้ มองอย่างผิวเผิน พวกเขาเหมือนจะอยู่ในระดับเดียวกันและสูสีกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ออกัสตินเป็นผู้ฝึกตนในขอบเขตพลังจิตราชันขั้นที่สามและได้รับสืบทอดพลังจากเทพแห่งแสงเขามีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าหลี่ฉิงเฟิงหนึ่งขั้นย่อยแต่ก็ยังไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายลงได้ เพียงมองในแง่นี้ เขานับว่าเป็นฝ่ายแพ้
ในระหว่างการต่อสู้ของหลี่ฉิงเฟิงและออกัสตินมีกลุ่มเล็กๆที่แอบปืนขึ้นไปบนภูเขาเทพหิมะอย่างเงียบๆ
คนกลุ่มนี้ก็คือผู้นำวังแห่งปัญญา– อูริส ผู้นำของเหล่าเทพสมุทรผู้ภักดี – โพไซดอนและผู้นำของสมาพันธ์เทพนภา – ออกัสตัส พวกเขารีบปีนขึ้นไปบนภูเขาเทพหิมะอย่างรวดเร็วจนไปถึงน้ำพุแห่งชีวิต
“บอสครับมีคนปีนขึ้นเขาไปแล้ว !” ลู่ซวนจี๋ชี้ไปที่ภูเขาแล้วพูดออกมาทันที
ทันใดนั้นแววตาของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไปและดูเป็นกังวลเมื่อเขาได้ยินคำพูดของลู่ซวนจี๋
เขาอุตส่าห์เดินทางมาถึงทวีปเสือก็เพื่อน้ำพุแห่งชีวิตเขาไม่มีทางยอมให้ใครชิงมันไปได้แน่
ฉิงเฟิงหยุดการต่อสู้กับออกัสตินเอาดื้อๆและเดินตรงไปยังภูเขาเทพหิมะทันที
เช่นเดียวกันออกัสตินก็ไม่มีอารมณ์สู้กับอีกฝ่ายและบินไปยังภูเขาเทพหิมะ
ถึงแม้ว่าออกัสตินจะต้องการฆ่าฉิงเฟิงมากแค่ไหนแต่เขาก็ต้องการน้ำพุแห่งชีวิตมากกว่า เขาต้องการใช้มันเพื่อปลุกเทพแท้จริง, เทพฟ้าสวรรค์ ซึ่งสมบัติชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายต่อสู้เพื่อมัน
ภูเขาเทพหิมะมีความสูงอย่างมากมันสูงถึง 8000 เมตรและมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาตลอดเวลา
แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือภายใต้ชั้นหนาของหิมะมีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายภูเขาเทพหิมะมีสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็งอยู่เต็มไปหมด
ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ฝึกตนผมสั้นที่สำรวจไปทั่วเขาเทพหิมะและถูกกระชากลำคอด้วยงูอสูร งูมีขนาดไม่ใหญ่นักเนื่องจากมีความยาวเพียงประมาณหนึ่งเมตรร่างของมันเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีเกล็ดสีขาว ดวงตาแดงก่ำ
งูประเภทนี้เรียกว่างูปีศาจหิมะซึ่งเป็นหนึ่งในงูจำเพาะของภูเขาเทพหิมะ มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า – งูที่ไม่อาจสังหารได้
ตำนานกล่าวไว้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถฆ่างูปีศาจหิมะได้แม้ว่างูถูกฆ่าตายมันก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ด้วยหิมะบนภูเขา
ฟุ่บ!
งูปีศาจหิมะตัวหนึ่งอ้าปากกว้างและเตรียมที่จะกัดใส่ฉิงเฟิง
ด้วยการบิดข้อมือฉิงเฟิงชักกระบี่แสงสีทองออกมาและฟันใส่งูที่มุ่งร้ายต่อเขา
ฉัวะ!
ในพริบตางูปีศาจหิมะก็ถูกกระบี่ของเขาผ่าครึ่ง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีต่อมาทำให้ทุกคนประหลาดใจงูที่ถูกฟันขาดกลับมารวมตัวกันและฟื้นขึ้นมาใหม่
“นายท่านคะงูปีศาจหิมะได้รับการปกป้องจากเทพแห่งชีวิต ตราบใดที่มันอยู่บนเขาเทพหิมะ พวกมันไม่มีวันตาย” คามิลล่ากระพริบตากลมโตของเธอและบอกกับฉิงเฟิง
ในฐานะราชินีแวมไพร์ของทวีปเสือเธอย่อมรุ้ข้อมูลมากมายที่เกี่ยวข้องกับทวีปเสือ
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอฉิงเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งกับงูปีศาจหิมะอีกต่อไปและเดินทางต่อไปเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่อยากยุ่งกับมันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเลิกก่อเรื่องให้เขา
พวกมันตามหลังกลุ่มฉิงเฟิงอย่างใกล้ชิด
ด้านหลังของงูปีศาจหิมะที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพมานั้นยังมีงูตัวอื่นๆอีกมากมายที่ไล่ตามฉิงเฟิง
“นายท่านคะนั่นจะต้องเป็นผู้นำของเหล่างูปีศาจหิมะ มันคงสั่งให้ลูกน้องไล่ตามพวกเรามา ท่านต้องรีบไปเดี๋ยวนี้มิฉะนั้นจะพบปัญหาใหญ่ งูพวกนี้ไม่มีวันตาย”
คามิลล่าขมวดคิ้วและกล่าวกับฉิงเฟิง
ไม่ต้องให้เธอเตือนฉิงเฟิงก็รับรู้อยู่แล้วว่าถึงเวลาเผ่น
เขาไม่เคยกลัวคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามแต่เขากลัวคู่ต่อสู้ที่ไม่มีวันตาย !
ในขณะที่เขาออกตัวเตรียมจะหนีไปได้ไม่กี่ก้าวเส้นทางของเขาก็ถูกปิดกั้นไว้ด้วยงูนับไม่ถ้วนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ฉิงเฟิงและพรรคพวกถูกล้อมรอบไปด้วยงูหลายร้อยตัวพวกมันทุกตัวล้วนเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ในเมื่อหนีไม่ทันงั้นก็บวกกับมันและหาทางหนีก็แล้วกัน” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและออกคำสั่ง
ผู้ฝึกตนโดยรอบของทวีปเสือต่างรีบหนีในขณะที่ยังไม่ถูกล้อมพวกเขากลัวว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับกลุ่มของฉิงเฟิง “
แสงทองท่องนภา
!
“
ฉิงเฟิงยกกระบี่แสงสีทองขึ้นและคำรามออกมา
พลังงานกระบี่มหาศาลบินมาจากท้องฟ้าและพุ่งเข้าใส่งูปีศาจหิมะจำนวนหนึ่ง
แต่ร่างกายของงูเหล่านั้นก็เชื่อมต่อกันใหม่อย่างรวดเร็วราวกับว่าพวกมันไม่เคยถูกฟันขาดมาก่อน
ในแววตาของพวกมันดูราวกับว่ากำลังเยาะเย้ยฉิงเฟิงอยู่
พวกมันทุกตัวล้วนได้รับการปกป้องจากเทพแห่งชีวิตและไม่มีใครฆ่าพวกมันได้หากอยู่บนภูเขาเทพหิมะมีเพียงพวกมันที่ฆ่าผู้อื่นและในวันนี้พวกมันจะฆ่ากลุ่มของฉิงเฟิงให้หมด
“เจ้าหนู,ร่างของงูพวกนี้ฆ่าไม่ตาย แต่เจ้าสามารถฆ่าจิตวิญญาณของพวกมันได้ ลองดูสิ”
เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงรู้สึกตื่นเต้นยินดีเมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิราตรี
ตราบใดที่เขายังมีจักรพรรดิราตรีอยู่ข้างๆเขาไม่กลัวสิ่งใด
“คำรามสะเทืือนฟ้า!”
ฉิงเฟิงอ้าปากคำรามดั่งสิงโต
เขาใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของเขาเพื่อเปล่งเสียงคำรามที่ดังกึกก้องคล้ายกับสิงโตมันส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วสวรรค์และปฐพี
เสียงคำรามของเขาก่อตัวขึ้นเป็นสิงโตตัวใหญ่บนท้องฟ้าและด้วยการโจมตีจากเสียงคำราม มันแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของงูปีศาจหิมะ
ฝ่ออออออ~
งูปีศาจหิมะทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องไปด้วยความเจ็บปวด