My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1163 ปราสาทเทพแห่งชีวิต
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1163 ปราสาทเทพแห่งชีวิต
ตอนที่ 1163 ปราสาทเทพแห่งชีวิต
“ดูนั่นนั่นมันปราสาท” หนึ่งในผู้ฝึกตนของทวีปเสือ ตะโกนออกมาพร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหน้า
ทุกคนหันหัวไปในทิศทางเดียวกันที่จุดนั้นมีวังสีขาวที่เปล่งกลิ่นอายแห่งชีวิตอันแรงกล้าออกมา
“พระเจ้า! นี่คือวังของเทพแห่งชีวิต ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นมันด้วยตาตนเอง”
“นี่คือปาฏิหาริย์– ก่อนนี้ข้าคิดว่าวังของเทพแห่งชีวิตเป็นเพียงตำนานเล่าขาน แต่มันไม่ใช่เลย !”
“ข้ามั่นใจเต็มร้อยเลยว่าน้ำพุแห่งชีวิตต้องอยู่ในปราสาทนี้”
ผู้ฝึกตนโดยรอบต่างก็พูดคุยกัน
ใบหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้นหลังจากการค้นหามาอย่างยาวนานและยากลำบาก ในที่สุดพวกเขาก็พบที่ซ่อนของน้ำพุแห่งชีวิตแล้ว
เขามองไปที่วังอันมหึมามันงามสง่าและให้ความรู้สึกเคร่งเครียดจริงจัง มันทำจากหินสะเก็ดดาวและคริสตัล
มีรูปปั้นที่งดงามของเทพแห่งชีวิตยืนอยู่ข้างประตูปราสาทมันสูงมากกว่าสิบเมตร มันยืนตระหง่านเหนือความสูงส่ง
เทพแห่งชีวิตเป็นที่รู้จักกันดีในทวีปเสือในฐานะหนึ่งในเทพนภาซึ่งเป็นผู้สร้างสวรรค์และปฐพีมีคนไม่มากนักที่เคยเห็นนางตัวเป็นๆ ส่วนใหญ่เห็นแต่รูปปั้นของนาง อย่างไรก็ตามรูปปั้นที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้าพวกเขาทุกคนนั้นดูแตกต่างจากเทพแห่งชีวิตที่ได้รับรู้มา
เมื่อครั้งที่เทพแห่งชีวิตยังเยาว์วัยนางได้ฝึกฝนอยู่บนภูเขาเทพหิมะแห่งนี้และอาศัยอยู่ที่นี่ในช่วงเวลานั้น
ผู้ฝึกตนของทวีปเสือดวงตาแดงก่ำด้วยความวิตกกังวลและเริ่มพุ่งเข้าไปในปราสาท “บอสครับรีบเข้าไปด่วน พวกเราต้องชิงน้ำพุแห่งชีวิตให้ได้ก่อนพวกมัน !”
ลู่ซวนจี๋กล่าวอย่างเร่งร้อนพร้อมทั้งขมวดคิ้ว
ฉิงเฟิงส่ายหัวและยื่นมือหยุดทุกคนไว้พร้อมกับกล่าวว่า“รอไปก่อน”
ทุกคนในทีมเขี้ยวหมาป่าต่างก็มีสีหน้าสับสนและหันไปมองฉิงเฟิง
พวกเขารู้ว่าฉิงเฟิงต้องการน้ำพุแห่งชีวิตยิ่งกว่าใครๆแล้วทำไมถึงห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าไปในปราสาท
“ปราสาทแห่งนี้มีอันตรายฉันแค่รู้สึกถึง… พลังงานบางอย่างที่น่ากลัว”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ลูกหมาสีดำก็พยักหน้าเห็นและกล่าวว่า“เขาพูดถูก มีบางอย่างที่เป็นอันตรายอยู่ภายในนั้น”
ไม่เพียงแค่ฉิงเฟิงและลูกหมาสีดำเท่านั้นที่รู้สึกได้แต่งูกลืนฟ้าและแมวแห่งโชคชะตาก็รู้สึกแบบเดียวกัน ในฐานะที่เป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่เคยทรงอำนาจ พวกมันทุกตัวล้วนมีสัมผัสที่ว่องไวต่อภยันตราย
รอจนกว่าทุกคนเข้าไปในปราสาทหมดแล้วฉิงเฟิงถึงตามเข้าไปกลุ่มของพวกเขาเดินรั้งท้ายสุด ดังนั้นหากมีอันตรายร้ายแรง พวกเขาจะเป็นกลุ่มแรกที่ไหวตัวทัน
มันเป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงที่ตกแต่งอย่างประณีตด้วยไข่มุกสีขาวและคริสตัล– ไข่มุกราตรีมากมายแขวนไว้บนผนังและส่องแสงสว่างจ้าไปทั่ว
ไข่มุกราตรีทุกเม็ดมีขนาดเท่ากำปั้นทำให้ทุกคนที่จ้องมองพวกมันล้วนตื่นตาตื่นใจ
มีบางคนถึงกับยื่นมือออกไปและพยายามจะหยิบไข่มุกราตรีมาเป็นของตนเองแต่พวกมันก็เปล่งแสงสีขาวเป็นประกาย ม่านป้องกันอันทรงพลังวางอยู่รอบไข่มุกราตรีเพื่อป้องกันการขโมย
สมบัติทั้งหมดภายในปราสาทล้วนได้รับการปกป้องด้วยข่ายอาคมไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ไม่ว่าจะต้องการสมบัติเหล่านี้เพียงใด สุดท้ายพวกเขาทำได้เพียงฉุนเฉียว
กลุ่มผู้ฝึกตนจำนวนมากยังคงเดินไปข้างหน้าจนกระทั่งพวกเขามาถึงห้องโถงใหญ่มันเป็นห้องโถงกว้างขนาด 10,000 ตารางเมตร
บ่อน้ำพุสีขาวตั้งอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่มันมีน้ำเพียงบางส่วนเท่านั้นที่อยู่ในบ่อน้ำพุ แต่มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังแห่งชีวิต ยามสูดดมละอองน้ำเข้าไปก็ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีพลัง
พวกเขาทุกคนพุ่งเข้าใส่น้ำพุแห่งชีวิตนี่คือน้ำพุแห่งชีวิตในตำนาน !
ผู้ที่รวดเร็วที่สุดและนำหน้าในหมู่พวกเขาก็คือผู้ฝึกตนผมยาวคนหนึ่งเขาครอบครองทักษะท่าร่างระดับเทพ เขาทะยานขึ้นไปบนเพดานและลงมาถึงข้างๆน้ำพุแห่งชีวิตภายในระยะเวลาเพียงหัวใจเต้นครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามก่อนที่ผู้ใดจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ได้ทัน มือยักษ์ที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ลอยออกมาจากที่ไม่ทราบและทุบกระแทกเข้าใส่ร่างผู้ฝึกตนจนตายทันที !
พวกเขายังไม่ทันหายตกใจก็พบว่ามีคนสองคนยืนอยู่ข้างๆน้ำพุแห่งชีวิตเสียแล้ว
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็ให้ความสำคัญกับน้ำพุแห่งชีวิตจนไม่ทันตระหนักถึงการคงอยู่ของสองคนนี้
ในทางเทคนิคแล้วทั้งสองคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ผู้ที่อยู่ด้านขวามีผิวคล้ำขนสีดำและมีเขาสีดำอันหนึ่งบนศีรษะ
หากลองมองอย่างใกล้ชิดก็จะรู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่มีเขาผู้นี้จริงๆแล้วคือปีศาจจากขุมนรก!
การแสดงออกของคามิลล่าและฉิงเฟิงเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นปีศาจตัวนี้เป็นตัวที่ฉิงเฟิงเพิ่งจะเผาแขนมันด้วยเพลิงทองคำ แต่มันกลับฟื้นฟูแล้ว
ตรงข้ามกับปีศาจที่มีเขามีสิ่งมีชีวิตอีกตนหนึ่งยืนอยู่ทางขวา มันมีปีกสีขาวและวงหน้าที่หล่อเหลาและเย่อหยิ่ง
ปีกของมันเป็นสีขาวและบริสุทธิ์ราวกับขนของหงส์
นี่มันเทวทูต
!
ฉิงเฟิงมุ่นหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความประหลาดใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เห็นเทวทูตตัวเป็นๆ
เทวทูตเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานเล่าขานที่มีอยู่บนสวรรค์เท่านั้นและการที่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตประเภทนี้บนโลกช่างเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง
ทุกคนที่อยู่รอบๆตัวฉิงเฟิงต่างก็ตกตะลึงเช่นกันในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนของทวีปเสือ พวกเขาทุกคนต่างเข้าใจและรับรู้ถึงความเป็นมาของปีศาจและเทวทูต
พวกเขาชาวโลกตะวันออกมีความเคารพเทิดทูนต่อเทวทูตอย่างมากและหวาดกลัวต่อปีศาจอย่างที่สุด
ผู้ฝึกตนผมยาวที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปใกล้น้ำพุแห่งชีวิตถูกสังหารด้วยน้ำมือของปีศาจเขาเดียวและหายไปโดยสมบูรณ์เขาคนนั้นไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย
“ปีศาจเขาเดียว,น้ำพุแห่งชีวิตต้องเป็นของเรา” เทวทูตสองปีกได้เอ่ยคำพูดอย่างเย้ยหยันที่ปีศาจตัวนั้น
เทพแห่งชีวิตเป็นเทพของสรวงสวรรค์โดยธรรมชาติแล้วสมบัติของนางก็ย่อมต้องเป็นของชาวสวรรค์ด้วยเช่นกัน
ผู้คนที่อยู่รอบๆห้องโถงเริ่มแสดงท่าทีถอยเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งมีชีวิตในตำนานทั้งสองกำลังโต้เถียงกันถึงแม้ว่าน้ำพุแห่งชีวิตจะล้ำค่าอย่างที่สุด แต่ก็ยังไม่เท่าชีวิตของตนเอง ไม่มีใครกล้ายืนกลางวงการต่อสู้ของเทวทูตสองปีกและปีศาจเขาเดียวเพื่อน้ำพุแห่งชีวิต
ฉิงเฟิงก็ก้าวถอยหลังเช่นเดียวกับคนอื่นๆเขารับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงระดับพลังของเทวทูตและปีศาจเขาเดียว ทั้งสองนั้นมีระดับพลังสูงส่งกว่าเขามากนัก ฉิงเฟิงรู้ตัวว่าไร้ทางชนะแน่นอน
ฟุ่บ! ปีศาจเขาเดียวโบกกำปั้นออกมากลายเป็นเงาของกำปั้นยักษ์สีดำและเหวี่ยงเข้าใส่เทวทูตสองปีก
กำปั้นสีดำนี้ทรงพลังมหาศาลมันทำให้เกิดช่องว่างมิติขนาดใหญ่และดูน่ากลัวมาก
เทวทูตสองปีกไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขาเหวี่ยงหมัดออกไปเช่นเดียวกันและก่อร่างเงาของหมัดสีขาวขนาดยักษ์ที่เปล่งพลังมหาศาลจนสามารถเขย่าสวรรค์และปฐพีได้
เมื่อเงามายาของกำปั้นทั้งสองปะทะกันมันก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งบริเวณ
โชคดีที่ปราสาทเทพแห่งชีวิตได้รับการปกป้องจากข่ายอาคมที่ทรงพลังยิ่งมิฉะนั้นมันคงถล่มเป็นซากด้วยพลังของทั้งคู่ไปแล้ว