My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1174 ข้ารับใช้อีกหนึ่งคน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1174 ข้ารับใช้อีกหนึ่งคน
ตอนที่ 1174 ข้ารับใช้อีกหนึ่งคน
“ซุนฮุนเทียนแกอยากตายหรือมีชีวิตต่อไป หากแกเลือกตาย ฉันจะปลิดชีวิตแกด้วยกระบี่ของฉัน แต่ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็จงเป็นข้ารับใช้ของฉันซะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา
ในการเดินทางครั้งนี้เขาไม่ได้พาคนมามากพอดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องหาคนมาเป็นพวกมากขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งกลุ่มอื่นๆ
แม้ว่าซุนฮุนเทียนจะพ่ายให้กับฉิงเฟิงแต่ในฐานะประมุขนิกายคทาฟ้า เขานับได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังและจะสามารถช่วยเหลือเป็นกำลังสำคัญให้ฉิงเฟิงจัดการกับศัตรูกลุ่มอื่นๆเช่นคนของวังมังกรทั้งหลาย
อะไร
ข้ารับใช้
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ใบหน้าของซุนฮุนเทียนก็มืดมนและเต็มไปด้วยความโกรธ
เจ้าสารเลวหลี่ฉิงเฟิงมันกล้าแม้กระทั่งบอกให้ข้าเป็นข้ารับใช้ของมัน
!
ข้าเป็นประมุขผู้ทรงเกียรติไม่มีทางที่ข้าจะยอมสยบให้มันหรอก ฝันเฝื่อง
!
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าต้องการให้ข้าเป็นลูกน้องเจ้า ไม่มีวัน !”
ซุนฮุนเทียนปฏิเสธด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายฉิงเฟิงก็แสยะยิ้มและผลักกระบี่ไปข้างหน้าเล็กน้อยจนกรีดที่ลำคอของซุนฮุนเทียน
“ฉันจะให้โอกาสสุดท้ายจะยอมหรือจะตาย ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
ซุนฮุนเทียนหน้าซีดเผือดเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันดุร้ายที่เปล่งออกมาจากร่างของฉิงเฟิงเขามั่นใจว่าหากไม่ยอมทำตามความต้องการของอีกฝ่าย เขาจะตายแน่นอน ชายหนุ่มผู้นี้เต็มไปด้วยความโหดร้ายและไร้ความปราณี
ไม่มีใครอยากตายเพราะทุกคนต่างก็มีเพียงหนึ่งชีวิต
“ยะ..อย่าฆ่าข้า ข้ายอมเป็นข้ารับใช้ของเจ้าแล้ว” ซุนฮุนเทียนกล่าวพร้อมกับก้มหัวลง
ซุนฮุนเทียนคุกเข่าลงข้างหนึ่งและปลดปล่อยตราประทับวิญญาณของตนออกไปสู่ร่างของฉิงเฟิงเพื่อยืนยันว่าเขายอมอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
“นี่มัน…ทำไมประมุขซุนถึงเลือกที่จะเป็นข้ารับใช้ของหลี่ฉิงเฟิง เป็นข่าวที่น่าตกใจจริงๆ”
“ถูกต้องซุนฮุนเทียนเป็นประมุขนิกายและมีพลังในระดับจิตราชันขั้นที่สี่ แต่เขาก็ยังพ่ายให้กับหลี่ฉิงเฟิง ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งขั้นไหนกันแน่”
“ข้ารู้สึกว่าหลี่ฉิงเฟิงไม่เพียงแค่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในหมู่รุ่นเยาว์แต่เขายังมีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่งจนแม้แต่ผู้อาวุโสบางคนก็ยังไม่ใช่คู่มือ !”
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็พูดคุยกันด้วยอาการตกตะลึง
หากข่าวนี้แพร่ออกไปมันจะทำให้โลกของผู้ฝึกตนจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
“เอาล่ะในเมื่อแกยอมเป็นผู้ติดตามของฉัน ฉันก็จะดูแลแกอย่างดี นี่คือหยดวารีแห่งชีวิต มันจะช่วยฟื้นฟูพลังทั้งหมดของแก” ฉิงเฟิงหยิบวารีแห่งชีวิตออกมาและมอบให้ซุนฮุนเทียน
เมื่อจ้องมองหยดวารีแห่งชีวิตในมือสีหน้าซุนฮุนเทียนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงยิ่งกว่าตอนที่เขาแพ้ฉิงเฟิงเสียอีก
วารีแห่งชีวิตมีอยู่ในตำนานเท่านั้นและได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลกของผู้ฝึกตนในทวีปเสือ แต่ตอนนี้มันปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิดในความครอบครองของหลี่ฉิงเฟิง นี่ก็หมายความว่าหลี่ฉิงเฟิงสามารถช่วงชิงวารีแห่งชีวิตจากน้ำพุแห่งชีวิตในทวีปเสือมาได้
“ขอบคุณนายท่าน”ซุนฮุนเทียนแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ เขารู้ว่าน้ำพุแห่งชีวิตล้ำค่ามาก เขาประทับใจอย่างสุดซึ้งต่อความจริงที่ว่าฉิงเฟิงยอมมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้เขา
ซุนฮุนเทียนนั่งลงไขว้ขาเขาเริ่มปรับแต่งและดูดซับหยดน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต
เมื่อหยดน้ำหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายเขาก็รู้สึกสดชื่นอย่างสมบูรณ์ด้วยพลังงานชีวิตอันมหาศาลที่ไหลทะลักเข้ามา
“
น้ำพุ
แห่งชีวิตทรงพลังอย่างแท้จริง”
ซุนฮุนเทียนยกย่องคุณสมบัติอันเหลือเชื่อในใจของเขา
เขารู้สึกว่าไม่เพียงแค่หายจากอาการบาดเจ็บแต่ยังมีพลังมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาที่ซาบซึ้งมากขึ้น ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงจากความจริงที่ว่าประมุขนิกายคทาฟ้ายอมก้มหัวให้หลี่ฉิงเฟิง
การได้เห็นฉิงเฟิงค่อยๆเดินไปหาผลคริสตัลน้ำแข็งมีเพียงอาวุโสที่ทรงพลังของนิกายเท่านั้นที่เริ่มเคลื่อนไหว รวมไปถึงซุนหยาง ผู้อาวุโสแห่งนิกายคทาฟ้าที่ก้าวออกไปขวางทาง
แต่ซุนหยางก็ถูกซุนฮุนเทียนหยุดไว้ทันทีที่พบเห็นในเมื่อเขายอมเป็นข้ารับใช้ของฉิงเฟิงแล้ว ดังนั้นคนในนิกายของเขาก็ควรเชื่อฟังฉิงเฟิงด้วย
ฉิงเฟิงแข็งแกร่งที่สุดในบรรดากลุ่มคนเหล่านี้ถึงกระนั้นก็ยังมีอาวุโสของนิกายกระบี่ดาวตก, จางชางเต๋าที่ออกมาขัดขวาง
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าคิดจะทำอะไร ” การแสดงออกของจางชางเต๋าเปลี่ยนไปในขณะที่ถามด้วยเสียงเย็นชา
“ถามโง่ๆฉันคิดจะทำอะไรน่ะหรือ ก็เด็ดเอาผลคริสตัลน้ำแข็งไง” ฉิงเฟิงกลอกตาด้วยความงุนงงเขาสงสัยว่าคนผู้นี้ไร้สมองหรือไงถึงมาถามโง่ๆแบบนี้
เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยามของฉิงเฟิงจางชางเต๋าก็โกรธเคือง เขาชักกระบี่ออกมาและเล็งไปที่ฉิงเฟิงทันที
คราวนี้ก่อนที่ฉิงเฟิงจะได้ลงมือ ซุนฮุนเทียนที่อยู่ข้างๆก็รีบออกหน้าแทน เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมากจนมาถึงเบื้องหน้าของอีกฝ่ายภายในเวลาไม่นาน
ด้วยความช่วยเหลือจากน้ำพุแห่งชีวิตทำให้ระดับพลังของซุนฮุนเทียนเพิ่มขึ้นอย่างมากจางชางเต๋าไม่ได้คู่ควรกับซุนฮุนเทียนอีกต่อไปและพ่ายแพ้ภายในสามสิบกระบวนท่าเท่านั้น
ในอีกด้านหนึ่งมู่ฉิงจูประมุขนิกายราชาไผ่ได้หยุดการต่อสู้กับจางหยุนซื่อประมุขนิกายกระบี่ดาวตก ทั้งคู่จ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความกังวล
พวกเขาตกตะลึงด้วยความจริงที่ว่าซุนฮุนเทียนที่เป็นยอดฝีมือในระดับเท่าเทียมกันกับพวกเขาต่างก็พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือฉิงเฟิง
“หลี่ฉิงเฟิงที่นี่มีผลคริสตัลน้ำแข็ง 3 ลูก พวกเราแบ่งกันคนละลูก”
จางหยุนซื่อขมวดคิ้วและกล่าวขึ้น
เขาเลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับฉิงเฟิงแม้ว่าจะโกรธแค้นมากเนื่องจากความจริงที่ว่าอาวุโสของนิกายเขาได้พ่ายแพ้ให้แก่ข้ารับใช้ของฉิงเฟิง
เขาสำนึกตนว่าตนเองอาจจะไม่ใช่คู่มือของหลี่ฉิงเฟิงและผู้ติดตาม ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนความคิดและแก้ปัญหาโดยการเจรจาแทน
“เหอะฉันจะบอกให้รู้ว่าแกไม่มีส่วนแบ่งผลคริสตัลน้ำแข็ง” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นโดยไม่สนใจข้อเสนอของจางหยุนซื่อ
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้จางหยุนซื่อก็โกรธมาก
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้ากำลังเล่นกับไฟ !” จางหยุนซื่อกล่าวด้วยความโกรธและมีสีหน้าไม่พอใจ
“เลิกพล่ามแล้วไสหัวไป!”
ฉิงเฟิงสบถสำทับออกและอีกให้อีกฝ่ายไสหัวไปซึ่งทำให้จางหยุนซื่อขุ่นแค้นอย่างเต็มที่
“หลี่ฉิงเฟิงงั้นข้าก็ขอดูหน่อยว่าเจ้าจะเก่งเหมือนปากหรือเปล่า !”
จางหยุนซื่อชักกระบี่ดาวตกของเขาออกมาและแทงไปหาฉิงเฟิงทันที
การเคลื่อนไหวของกระบี่นี้ทรงพลังมากจนแม้แต่ชั้นบรรยากาศโดยรอบก็ยังแยกออกจากกันด้วยรอยปริแตกนอกจากนี้ยังมีภาพเงาของอุกกาบาตปรากฏขึ้นบนตัวกระบี่อีกด้วย
เป็นอีกครั้งที่ฉิงเฟิงยังคงนิ่งเฉยต่อกระบี่ดาวตกของจางหยุนซื่อและปิงหยาเฟยก็พุ่งเข้ามาต้านรับการโจมตีแทน
ปิงหยาเฟยตั้งใจจะทดสอบพลังของตัวเธอเองอยู่เสมอหลังจากตัดผ่านไปสู่ขอบเขตจิตราชันขั้นที่สี่และตอนนี้จางหยุนซื่อนับได้ว่าเป็นคู่มือที่เหมาะสมที่สุด
“
กระบี่
วิญญาณเยือกแข็ง
!
“
ปิงหยาเฟยชักกระบี่ของเธอออกมาและก่อร่างเป็นพลังงานกระบี่สีขาว
ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ถูกควบแน่นโดยพลังงานกระบี่พุ่งเข้าหาอุกกาบาตที่เกิดจากพลังงานของกระบี่ดาวตกทันที