My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1177 ความลับภายในก้นแม่น้ำกระบี่
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1177 ความลับภายในก้นแม่น้ำกระบี่
ตอนที่ 1177 ความลับภายในก้นแม่น้ำกระบี่
ฉิงเฟิงรวดเร็วมากและไปถึงแม่น้ำกระบี่ในเวลาไม่นาน
เขาปล่อยพลังวิญญาณออกไปเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบแต่พลังงานกระบี่อันหน้าแน่นภายในแม่น้ำก็ปิดกั้นวิสัยทัศน์ของเขาจนหมดสิ้น
แม่น้ำกระบี่ไม่ได้มีน้ำไหลจริงๆแต่มันเต็มไปด้วยพลังงานกระบี่ที่หลั่งไหล
หากมีคนตกลงไปในแม่น้ำคนผู้นั้นจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยพลังกระบี่อันคมกล้าเหล่านี้
ในตอนแรกพลังวิญญาณของฉิงเฟิงสามารถสอดส่องได้ไกลถึงสิบเมตรแต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็รู้สึกอ่อนล้าเล็กน้อย มันเป็นเพราะพลังวิญญาณของเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืดระยะสำรวจออกไปได้ไกลกว่านี้เมื่อเขาพยายามจะมองลึกถึงแก่นของแม่น้ำกระบี่สายนี้ พลังวิญญาณของฉิงเฟิงยังคงเพ่งไปเบื้องหน้าจนกระทั่งจู่ๆเขาก็สัมผัสได้ถึงกระบี่เล่มหนึ่ง
ใช่แล้วถูกต้อง มันเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง
ฉิงเฟิงมองเห็นแค่เพียงเบลอๆว่ามันเป็นกระบี่สีเงินขาวแต่เขาไม่รู้แน่ชัดถึงขนาด, ความกว้างและความยาว เขาไม่รู้อะไรเลย
กระบี่เล่มนี้มีจิตวิญญาณและตอบสนองราวกับว่ามันรู้สึกได้ถึงการสอดส่องจากจิตวิญญาณของฉิงเฟิงมันปลดปล่อยรังสีของเจตน์กระบี่ออกมาเพื่อจะโจมตีฉิงเฟิงทันที เจตน์กระบี่เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลและพุ่งโจมตีใส่พลังวิญญาณของฉิงเฟิง
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้เองพลังงานแห่งจิตวิญญาณของจักรพรรดิราตรีก็ปรากฎออกมา มันช่วยฉิงเฟิงตัดผ่าการโจมตีของเจตน์กระบี่และสวนกลับไป
ใบหน้าของฉิงเฟิงซีดเซียวลงร่างของเขาผงะถอยหลังไปเนื่องจากพลังวิญญาณได้รับบาดเจ็บ นับเป็นโชคดีที่จักรพรรดิราตรียื่นมือมาช่วยเหลือได้ทันเวลาทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักถ้าไม่เช่นนั้น พลังวิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
ทุกคนมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างเย้ยหยันชายผู้นี้มีสีหน้าซีดลงโดยที่ยังไม่ทันข้ามแม่น้ำไป แสดงให้เห็นว่าถ้าหากฉิงเฟิงข้ามแม่น้ำคงไม่มีชีวิตรอดไปแน่
ฉิงเฟิงไม่ได้สนใจคนอื่นที่หัวเราะเยาะเขาเขาเข้าใจทุกอย่างแล้วและรู้ว่าตนเองได้รับบาดเจ็บจากกระบี่เล่มหนึ่ง กระบี่เล่มนั้นอยู่ที่ก้นแม่น้ำและน่าสะพรึงกลัวมาก
สัมผัสที่หกของฉิงเฟิงบอกกับเขาว่ากระบี่สีขาวเงินเล่มนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระบี่แสงสีทองของเขา มันสามารถเปิดการโจมตีทางจิตวิญญาณได้และพลังงานกระบี่ทั้งหมดในแม่น้ำกระบี่สายนี้ก็ถูกควบคุมโดยมันนั่นเอง !
จากนั้นฉิงเฟิงก็บินขึ้นไปบนฟ้าเหนือแม่น้ำกระบี่พลังงานกระบี่สิบห้าสายพุ่งออกมาใส่เขาทันที
เช้ง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่แสงสีทองของเขาออกมาแล้วตัดผ่าไปข้างหน้ากระบี่แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานกระบี่อันแหลมคมและปะทะเข้ากับพลังงานกระบี่สิบห้าสายจากแม่น้ำ เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าและทำให้โลกสั่นสะเทือน
กระบี่แสงสีทองของฉิงเฟิงนั้นทรงพลังมากและสามารถต้านรับพลังงานกระบี่สิบห้าสายได้โดยไม่มีอันตรายใดๆมันชี้ให้เห็นว่าอำนาจในการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าขุนพลปูทองคำ
ตอนนี้ทุกคนรับรู้แล้วว่าหลี่ฉิงเฟิงทรงพลังเพียงใดเพราะเขาสามารถรับมือพลังกระบี่สิบห้าสายได้โดยไม่เพรี่ยงพร้ำ
ฉิงเฟิงยังคงบินไปข้างหน้าและพยายามจะข้ามแม่น้ำแต่แม่น้ำกระบี่สายนี้ก็ยังไม่ยอมให้เขาข้ามไปได้โดยง่าย มันปลดปล่อยพลังงานกระบี่สามสิบสายโดยที่ทั้งหมดนี้พุ่งเป้าหมายไปที่ฉิงเฟิง
“
ลมกรดแสงทอง
!
“
ฉิงเฟิงใช้กระบวนท่าที่สองของวิชากระบี่แสงสีทองมันก่อตัวเป็นพายุพลังงานกระบี่ที่ทรงพลังราวกับพายุทอร์นาโดและพุ่งทะยานไปสู่พลังงานกระบี่ทั้งสามสิบสาย
เป้งเป้ง เป้ง เป้ง …
พลังงานกระบี่ที่เกิดจากลมกรดแสงทองปะทะเข้ากับพลังงานกระบี่สามสิบสายจนเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องและพื้นดินบนโลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง
พลังงานกระบี่ทั้งสามสิบสายนี้ทำให้ขุนพลปูทองคำได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เมื่อเทียบกับฉิงเฟิง เขาไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน !
ขุนพลปูทองคำได้เห็นสถานการณ์นี้จากระยะไกลก็ตื่นตระหนกแน่นอน เขาย่อมรู้ดีที่สุดว่าความแข็งแกร่งของพลังงานกระบี่ทั้งสิบสามสายแข็งแกร่งเพียงใด ขนาดผู้ฝึกตนขอบเขตจิตวิญญาณราชันขั้นที่สี่อย่างเขาก็ยังไม่อาจรับมือได้ แต่หลี่ฉิงเฟิงทำได้
สรุปได้ว่าถ้าเขากับชายหนุ่มได้ประมือกันเขาไม่มีทางสู้ได้แน่นอน
ใบหน้าของทุกคนซีดลงด้วยเหตุผลสองประการหนึ่งมาจากพลังงานกระบี่อันเกรี้ยวกราด ส่วนอีกประการหนึ่งคือความแข็งแกร่งของหลี่ฉิงเฟิง
ผู้ที่แทบจะเป็นบ้าที่สุดก็คือผู้ฝึกตนผมสั้นเขาเพิ่งจะโอ้อวดไปว่าถ้าหากหลี่ฉิงเฟิงสามารถข้ามแม่น้ำไปได้เขาจะยอมกินดินโคลน
เป้งเป้ง เป้ง !
ฉิงเฟิงยังคงยืนหยัดรับมือกับพลังงานกระบี่ทั้งสิบสามสายและสร้างความโกรธกริ้วให้แก่แม่น้ำกระบี่อย่างมาก
ซูมซูม ซูม ซูม …
ครั้งนี้พลังงานกระบี่ร่วมหนึ่งร้อยสายแผ่กระจายพุ่งออกมาจากแม่น้ำและยิงไปที่ฉิงเฟิง
พลังงานกระบี่หนึ่งร้อยสายในขณะนี้มากกว่าก่อนหน้านี้ถึงสามเท่าพวกเขาพุ่งทะลุบรรยากาศไปหาร่างของฉิงเฟิงพร้อมกันทั้งหมด
ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความระแวดระวังและหยิบน้ำเต้าทองคำออกมาเปิดฝาและเล็งไปที่ลำแสงพลังงานกระบี่
น้ำเต้าทองคำปลดปล่อยสายลมสีทองซึ่งดูดซับพลังงานของกระบี่ทั้งหนึ่งร้อยสายและหลอมรวมเข้ากับตัวมันเอง
“นั่นมัน.. น้ำเต้าทองคำ ?! อุปกรณ์วิญญาณของเซียนทองคำมิใช่หรือ !?”
น้ำเสียงอุทานที่ดูประหลาดใจดังขึ้นจากก้นแม่น้ำกระบี่มันเป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานซึ่งเป็นของสตรี ทุกคนตกใจหลังจากได้ยินเสียงนี้เพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครบางคนอยู่ก้นแม่น้ำกระบี่ได้
มีเพียงฉิงเฟิงเท่านั้นที่รู้ว่าต้นตอของเสียงไม่ได้มาจากใครที่ไหนนอกจากกระบี่ลึกลับเล่มนั้นที่อยู่ก้นแม่น้ำ!
กระบี่ก้นแม่น้ำดูเหมือนจะรู้จักเซียนทองคำเป็นอย่างดีเพราะมันดูออกว่านี่คือน้ำเต้าทองคำที่เป็นอุปกรณ์วิญญาณของเซียนทองคำในอดีต
“เจ้าชื่อหลี่ฉิงเฟิงใช่ไหม ลงมาก้นแม่น้ำเพื่อพูดคุยกับข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่” น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนกล่าวขึ้น เธอรู้จักชื่อของฉิงเฟิงจากการได้ฟังการสนทนาของทุกคน
ฉิงเฟิงพยักหน้าและรีบกระโจนลงไปที่ก้นแม่น้ำพลังงานกระบี่อันแรงกล้าทั้งหนึ่งร้อยสายแยกออกเป็นสองฝั่งเพื่อเบิกทางให้ฉิงเฟิงลงไป และไม่มีการโจมตีเข้าใส่เขาอีก
ฉิงเฟิงดำลงมาถึงก้นแม้น้ำอย่างรวดเร็ว กระบี่ลึกลับปลดปล่อยแสงสีขาวออกมาครอบคลุมทั้งสองเอาไว้มันกลายเป็นเขตสูญญากาศที่ปิดกั้นไม่ให้ผู้ใดส่งสัมผัสวิญญาณออกมาดักฟังได้
ที่ก้นแม้น้ำกระบี่ฉิงเฟิงจ้องมองไปที่กระบี่สีขาวโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเขากำลังรอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากก่อน
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าเคยพบเซียนทองคำหรือไม่ เขายังมีชีวิตอยู่ในยุคนี้หรือเปล่า ?”
น้ำเสียงอ่อนหวานถามขึ้นในที่สุด
ประโยคแรกเอ่ยถึงเซียนทองคำซึ่งฟังจากน้ำเสียงของนาง ฉิงเฟิงก็บอกได้ทันทีเลยว่า นางย่อมรู้จักเซียนทองคำและสนิทสนมกันมาก มิเช่นนั้นนางคงไม่เอ่ยถามถึงเขาในประโยคแรก
ฉิงเฟิงกล่าวตอบว่า“เรียนผู้อาวุโส ผมไม่รู้จักและไม่เคยพบเซียนทองคำเป็นการส่วนตัว ผมได้สิ่งนี้มาโดยบังเอิญจากเกาะทองคำ”
น้ำเสียงที่ไพเราะเงียบลงหลังจากได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดเดิมทีนางคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้อาจจะเคยพบหรือรู้จักเซียนทองคำมาก่อน แต่สุดท้ายแล้วไม่ใช่อย่างที่นางเข้าใจ
ทันใดนั้นเองจิตวิญญาณของจักรพรรดิราตรีก็ล่องลอยออกมาจากกระบี่เพลิงคะนองและกล่าวว่า “ไม่ได้พบกันเสียนาน เซียนเยือกแข็ง”
จักรพรรดิราตรีจดจำเสียงอันไพเราะที่เปล่งออกมาจากกระบี่เล่มนี้ได้มันเป็นเสียงของเซียนเยือกแข็งซึ่งเขารู้จักนางตั้งแต่สมัยโบราณ
ในยุคโบราณเซียนเยือกแข็งก็เป็นหนึ่งในผู้ครองดินแดน นางมีชื่อเสียงมากในโลกของผู้ฝึกตนตะวันออก
“เจ้าคือ เซียนรัตติกาล ?” น้ำเสียงที่แฝงอาการลังเลดังออกมาจากกระบี่
เกี่ยวกับเซียนรัตติกาลนางเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับเขามาว่าในช่วงยุคโบราณ เขาคือหนึ่งในสุดยอดฝีมือยุคนั้น อย่างไรก็ตาม เซียนรัตติกาลถูกสังหารไปแล้ว เขากลับมามีชีวิตได้อย่างไร
ราวกับว่าจักรพรรดิราตรีเข้าใจข้อสงสัยของเซียนเยือกแข็งเขาจึงอธิบายว่า
“ข้าตายไปตั้งแต่หลายพันปีก่อนจริงข้ากลับชาติมาเกิดอีกครั้งในนามจักรพรรดิราตรี และความทรงจำช่วงชีวิตที่แล้วของข้าเพิ่งจะตื่นขึ้น”