My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1182 น้องสาวไป๋
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1182 น้องสาวไป๋
ตอนที่ 1182 น้องสาวไป๋
“
เคล็ดวิชาลวงตานี้ช่างทรงพลังยิ่งนักมัน
สามารถปิดกั้นประสาทสัมผัสของฉันได้อย่างสิ้นเชิง”
ฉิงเฟิงเหลือบมองจิ้งจอกขาวด้วยความประหลาดใจ
ภาพลวงตาเหล่านี้ที่สร้างขึ้นโดยจิ้งจอกขาวนั้นทรงพลังอย่างแท้จริงมันทำให้หลี่ฉิงเฟิงไม่อาจมองเห็นปิงหยาเฟยได้แม้เขาจะอยู่ใกล้เธอไม่มาก
“นายท่านเป็นอะไรหรือไม่คะ ” ปิงหยาเฟยมองเห็นหลี่ฉิงเฟิงเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงวิ่งไปหาเขาและถามขึ้นทันที
ฉิงเฟิงโบกมือแล้วพูดว่า“ฉันไม่เป็นไร”
จากนั้นซุนฮุนเทียนลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าต่างก็มารวมตัวกัน ลูกหมาสีดำที่มีตาแหลมคมก็ได้เห็นจิ้งจอกขาวใกล้ๆหลี่ฉิงเฟิงในทันที
“ไงจ๊ะน้องไป๋(白 ไป๋ = ขาว) เจ้าเสียขนไปกี่กระจุกแล้วล่ะ ” ลูกหมาสีดำยื่นอุ้งเท้าหมาชี้ไปที่จิ้งจอกขาวและถาม
ว่าไงนะนะ… น้องไป๋
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกหมาสีดำจิ้งจอกขาวก็กลอกตาของมันด้วยความหงุดหงิด
ลูกหมาสารเลวมันไม่เพียงแค่เรียกเธอว่า ‘น้องไป๋’ เท่านั้น แต่มันยังชี้ไปที่กระจุกขนที่หายไปของเธอจนดูเป็นรอยแผลเป็นอีกด้วย !
จิ้งจอกขาวขมวดคิ้วและพูดว่า“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ขืนพูดต่อข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้นๆ !”
เสียงของเธอช่างอ่อนหวานและน่าฟังมันเป็นเสียงของผู้หญิง
งูกลืนฟ้าเลื้อยมากระแซะจิ้งจอกขาวและกล่าวว่า“พี่สาวไป๋ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า เจ้าหมาตัวนี้มันเป็นตัวบัดซบ !”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ลูกหมาสีดำก็ขุ่นเคือง
เจ้างูบ้าตัวนี้ไร้ยางอายนักเพื่อเอาใจจิ้งจอกสาวๆมันกลับกล้าพูดไม่ดีต่อมัน
จิ้งจอกขาวมีสีหน้าขุ่นเคืองเช่นกันที่ถูกงูกลืนฟ้าเรียกว่า‘พี่สาว’
“เจ้างูตัวนี้ทำไมเรียกข้าว่า ‘พี่สาว’ ข้าดูแก่นักรึไง ??”
จิ้งจอกขาวเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจโดยไม่สนใจงูกลืนฟ้าและลูกหมาสีดำอีกต่อไป“ข้ายิ่งใหญ่เกินกว่าจะเสียเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับพวกเจ้าแล้ว”
เมื่อได้เห็นความเย่อหยิ่งของจิ้งจอกขาวลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าต่างก็มองบน พวกมันคิดว่าตนเองนั้นยโสพอแล้ว แต่จิ้งจอกขาวนางนี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่า
“หยุดพูดและนำทางฉันไปได้แล้ว”หลี่ฉิงเฟิงจ้องมองไปที่จิ้งจอกขาวและกล่าวขึ้น
จิ้งจอกขาวยักไหล่มันรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ทรงพลังเพียงใดและไม่กล้าที่จะอาละวาดต่อหน้าเขา
มันเดินนำทางทุกคนไปข้างหน้าป่าน้ำแข็งนั้นกว้างขวาง มันมีต้นไม้เก่าแก่หนาแน่นและสูงขึ้นไปถึงท้องฟ้า สัตว์อสูรจำนวนมากซ่อนตัวอยู่แทบทุกที่
หลี่ฉิงเฟิงได้พบกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังอีกครั้งหลังจากเดินตามจิ้งจอกขาวไปได้เพียงหนึ่งกิโลเมตร
มันคือราชาปีศาจช้างน้ำแข็งที่มีลำตัวยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรและมีสีขาวสนิทราวกับสวมชุดเกราะสีขาวหนาเทอะทะร่างกายของมันเปล่งแสงออร่าที่ทรงพลังออกมา
“พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย !” เมื่อจิ้งจอกขาวเห็นราชาปีศาจช้างน้ำแข็งมันก็ตะโกนขอความช่วยเหลือทันที
ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งขมวดคิ้วและถามว่า“น้องจิ้งจอกน้อย เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า ทำไมหัวเจ้าดูแหว่งๆ ผมร่วงหรือ ?”
สุนัขจิ้งจอกสีขาวชี้ไปที่หลี่ฉิงเฟิงและกล่าวว่า“พี่ใหญ่ เจ้ามนุษย์สารเลวคนนี้มันดึงขนข้า แถมยังจะฆ่าข้า ได้โปรดล้างแค้นให้ข้าด้วย”
แสงเยือกเย็นพาดผ่านดวงตาของราชาปีศาจช้างน้ำแข็งมันคำรามใส่หลี่ฉิงเฟิงว่า “มนุษย์ เจ้ากล้าทำร้ายน้องจิ้งจอกของข้า ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย !”
วูบ!
ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งโบกงวงมันใหญ่โตของมันทะลุผ่านอากาศแล้วกระแทกเข้าหาหลี่ฉิงเฟิง
ทันใดนั้นเองซุนฮุนเทียนก็ตะโกนออกมาและพุ่งตรงออกไป
“ถ้าเจ้าคิดจะทำร้ายนายท่านเจ้าต้องผ่านข้าไปก่อน !”
ซุนฮุนเทียนเพิ่งได้รับแก่นอสูรจากหลี่ฉิงเฟิงมันต้องการเอาใจอีกฝ่ายเพื่อทำคะแนน แต่สุดท้ายการเสนอหน้าครั้งนี้กลับทำให้มันต้องเสียใจในเวลาต่อมา… ง่วงของปีศาจช้างน้ำแข็งเคลื่อนตัวอย่างดุดันราวกับอุกกาบาตที่มีความแข็งแกร่งและอยู่ยงคงกระพันมันกระแทกใส่ร่างของซุนฮุนเทียนอย่างแรงจนทำให้อีกฝ่ายเลือดพุ่งจากปากและได้รับบาดเจ็บสาหัส
เพียงฟาดงวงครั้งเดียวซุนฮุนเทียนก็พ่ายแพ้…
ใบหน้าของหลี่ฉิงเฟิงกลายเป็นมืดมนซุนฮุนเทียนเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณราชันขั้นที่ 4 และมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่เขากลับพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ! ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งตัวนี้ทรงพลังเกินไปแล้ว…
หลี่ฉิงเฟิงจ้องมองมันด้วยความตกใจเขาตระหนักว่าราชาปีศาจช้างน้ำแข็งย่อมเป็นสัตว์อสูรที่เทียบเท่าขอบเขตจิตวิญญาณราชันขั้นที่ 7 ซึ่งสูงกว่าตนเองถึง 4 ระดับ !
เขามั่นใจว่าไม่เพียงแค่ซุนฮุนเทียน แต่ยังรวมไปถึงตนเองและสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆด้วยที่ไม่อาจต่อกรกับราชาปีศาจช้างน้ำแข็งได้
เขาตระหนักว่าจะต้องหาทางล่อมันไปที่อื่นมิฉะนั้นพวกเขาทั้งหมดคงตายเรียบที่นี่แน่
“ฮ่าๆไอ้ช้างโง่ ! ฉันนี่แหละที่เป็นคนดึงขนน้องจิ้งจอกของแก แน่จริงก็เข้ามาสิโว้ย” หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและตะโกนเย้ยหยันราชาปีศาจช้างน้ำแข็ง
เขาตั้งใจยั่วโมโหมันเพื่อลากมันไปทางอื่น
ทันทีที่ได้ยินคำเยาะเย้ยของหลี่ฉิงเฟิงราชาปีศาจช้างน้ำแข็งก็มีโทสะคุกรุ่น มนุษย์ผู้นี้กล้าเรียกมันว่า ‘โง่’ แต่จริงๆแล้วมันเฉลียวฉลาดมาก ไม่งั้นคงไม่มีทางบ่มเพาะพลังจนถึงจิตวิญญาณราชันขั้นที่ 7 ได้
ไอ้…ระยำ ! เจ้ากล้ามากนัก ข้าจะฆ่าเจ้า ! ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งคำรามลั่นด้วยจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาท่วมดวงตา
วูบ!
ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งเหวี่ยงงวงของมันออกไปอีกครั้งทำลายอากาศโดยรอบจนขดตัวและมุ่งไปยังหลี่ฉิงเฟิง
ด้วยการใช้ท่าร่างพันมังกรหลี่ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วดั่งสายฟ้าอัสนี เขาสามารถหลบการโจมตีของมันได้
ง่วงของมันพลาดเป้าและทุบลงบนพื้นอย่างแรงจนทำให้เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่เหมือนแผ่นดินไหว
พลังอันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการฟาดงวงของมันแผ่กระจายออกไปทำลายต้นไม้และเศษหินดินทรายทั้งหมดรอบตัว
ทุกคนรอบๆต่างก็ก้าวถอยหลังไปด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวราชาปีศาจช้างน้ำแข็งนั้นทรงพลังเกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานได้
หลี่ฉิงเฟิงรีบวิ่งไปทางตะวันออกเขาต้องการลากราชาปีศาจช้างน้ำแข็งไปให้ไกลที่สุด เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย
เมื่อมันเห็นหลี่ฉิงเฟิงวิ่งหนีแสงเย็นเยียบก็ส่องสว่างจ้าในดวงตาของมัน มันวิ่งไล่ตามอีกฝ่ายไปทันที
ถึงแม้หลี่ฉิงเฟิงจะมีท่าร่างที่รวดเร็วยิ่งแต่ราชาปีศาจช้างน้ำแข็งกลับเร็วกว่า
ทั้งหมดทั้งมวลก็เนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรในขอบเขตจิตวิญญาณราชันขั้นที่7 ด้วยพื้นฐานบ่มเพาะที่สูงก็ทำให้ความสามารถโดยรวมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ความเร็วของมันดั่งสายฟ้าฟาด และร่นระยะห่างจากหลี่ฉิงเฟิงขึ้นเรื่อยๆ จาก 300 เมตรเป็น 200 เมตร เป็น 100 เมตรและในที่สุดก็ห่างกันเพียง 50 เมตร
หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจมากราชาปีศาจช้างน้ำแข็งรวดเร็วกว่าที่เขาคิด
ทันใดนั้นเองหลี่ฉิงเฟิงหรี่ตาลงและได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างหน้า พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนของวังมังกรทะเลตะวันออก
กลุ่มของพวกเขานำมาโดยองค์ชายทะเลตะวันออกและมีองค์หญิงสองกับองค์หญิงสามอยู่ข้างๆ หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกสำราญใจและตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเขามีความคิดเกิดขึ้นในหัวชั่วพริบตา เขาคิดจะใช้กลุ่มขององค์ชายพวกนี้ดึงดูดความสนใจของราชาปีศาจช้างน้ำแข็ง !
“นะน้องเขยช่วยด้วย ! ฉันดีใจจัง ในที่สุดก็ได้เจอนาย” หลี่ฉิงเฟิงตะโกนใส่องค์ชายทะเลตะวันออกเพื่อขอความช่วยเหลือทันที
เขาจงใจตะโกนออกมาดังๆเพื่อให้แน่ใจว่าราชาปีศาจช้างน้ำแข็งสามารถได้ยินและเหมารวมไปว่ากลุ่มคนข้างหน้าคือพวกเดียวกัน…..