My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1189 แฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็ง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1189 แฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็ง
ตอนที่ 1189 แฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็ง
หลี่ฉิงเฟิงและอ้าวเจียงต่างจ้องหน้ากันทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครเริ่มการโจมตี
พวกเขาเข้าใจถึงพลังของอีกฝ่ายเป็นอย่างดีดังนั้นการผลีผลามโจมตีอย่างกระทันหันอาจทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเอง
ตอนนี้อ้าวเจียงเริ่มสนใจหลี่ฉิงเฟิงมากขึ้นเพราะคนผู้นี้สามารถทำลายระฆังวิญญาณน้ำแข็งได้
แม้แต่ในวังมังกรทะเลเหนือก็มีคนไม่กี่คนที่สามารถทำลายระฆังวิญญาณน้ำแข็งได้เมื่อถูกขังอยู่
แต่ตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงกลับทำลายมันได้อย่างง่ายดายจนสร้างความตกใจให้กับอ้าวเจียงเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกว่าหลี่ฉิงเฟิงยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดอีกฝ่ายต้องมีไพ่ตายอีกแน่นอน
ในขณะเดียวกันหลี่ฉิงเฟิงก็ไม่คิดโจมตีด้วยเช่นกันเพราะเขารู้ว่าอ้าวเจียงย่อมต้องมีสมบัติอื่นๆในมือ เขาไม่กล้าประมาทและไม่ต้องการโจมตีอย่างกระทันหัน
อ้าวเจียงจ้องมองหลี่ฉิงเฟิงพลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า“หลี่ฉิงเฟิง ข้าจะให้โอกาสเจ้า ตราบใดที่เจ้ายอมจากไป ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
หลี่ฉิงเฟิงหัวเราะเยาะหลังจากได้ยินที่อ้าวเจียงพูดเขากล่าวว่า เขาได้ยิน “ถ้าแกคิดจะปล่อยฉันจริงๆ งั้นก็ต้องปล่อยองค์หญิงสองและองค์หญิงสามไปกับฉันด้วย”
อ้าวเจียงส่ายหัวหลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย“เลิกฝันเฝื่อง”
ในสายตาของอ้าวเจียงองค์หญิงสามเป็นผู้หญิงของเขา และแน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เธอไปกับชายคนอื่น
หลี่ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า“ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ งั้นเราก็คงต้องสู้กันต่อไป”
ตูม!
หลี่ฉิงเฟิงเปล่งรัศมีอันทรงพลังและเดินไปหาอ้าวเจียง
ฮ่าห์!
เขาเหวี่ยงหมัดขวาออกไปในทันทีมันกลายเป็นกำปั้นขนาดใหญ่และฉีกขาดอากาศ บดขยี้ท้องฟ้าจนพุ่งมาถึงเบื้องหน้าของอ้าวเจียงอย่างรวดเร็ว
อ้าวเจียงตอบสนองในทันทีและโบกมือใช้กรงเล็บเทพมังกรออกมาอีกครั้ง
กรงเล็บและกำปั้นกระแทกกันอย่างรุนแรงและทำให้เกิดเสียงดังขนาดใหญ่จนแสบแก้วหูราวกับแผ่นดินไหว
หลี่ฉิงเฟิงกับอ้าวเจียงเคยประมือกันมาแล้วด้วยเพลงหมัดและวิชากรงเล็บผลปรากฏออกมาก็เป็นเหมือนเดิมคือไม่มีใครเอาชนะอีกฝ่ายได้
ผู้คนจากวังมังกรทะเลเหนือที่เห็นว่าเจ้าชายแห่งทะเลเหนือได้รับบาดเจ็บพวกเขาจึงฉวยโอกาสเข้าไปรุมล้อมหลี่ฉิงเฟิงทันที แต่ทว่าพวกมันก็ลืมไปว่าหลี่ฉิงเฟิงก็มีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ปิงหยาเฟยลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าวิ่งออกมาขัดขวางและเข้าต่อสู้กับผู้คนจากวังมังกรทะเลเหนือ
บรรดาผู้ติดตามและสหายของหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งมากจนทำให้คนของวังมังกรทะเลเหนือถูกบีบให้ต้องล่าถอยต่อเนื่องพวกมันพ่ายแพ้จนแทบจะสิ้นชีพ
ในวังมังกรทะเลเหนือพวกเขาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปรมาจารย์ผู้ทรงพลังที่ดูแคลนผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ตอนนี้พวกเขากลับพ่ายแพ้หมดรูปซึ่งเป็นที่ยอมรับไม่ได้ !
หลี่ฉิงเฟิงยิ่งสู้ยิ่งคึกคักเขาสัมผัสได้ว่าพลังแท้ของเขาปะทุเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะต่อสู้กับอ้าวเจียง มันทำให้เขามีความสุขมาก
เขาผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนและรู้ว่าเคล็ดวิชาบ่มเพาะของเขาจะเติบโตได้สมบูรณ์แบบในการต่อสู้เท่านั้นดังนั้นเขาจึงต้องต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เขาใช้อ้าวเจียงเป็นหินลับมีดเพื่อทะลวงระดับของตัวเองซึ่งอ้าวเจียงก็รับรู้แต่ทำได้เพียงเก็บโทสะไว้ในใจ
หมัดของหลี่ฉิงเฟิงและกรงเล็บของอ้าวเจียงยังคงปะทะกันไม่หยุดจนทำให้เกิดรอยร้าวในอากาศรอบตัวพวกเขาอย่างต่อเนื่องและมิติเริ่มที่จะไม่เสถียรพวกเขาต่อสู้กันอย่างมืดฟ้ามัวดินราวกับจะทำให้ดวงอาทิตย์ไร้ซึ่งไร้แสงสว่าง
โชคดีที่นี่คือเกาะน้ำแข็งที่ห่างไกลถ้าเป็นแผ่นดินใหญ่คงถูกพลังของพวกเขาทำลายจนพินาศสิ้น ..
ท้ายที่สุดหลี่ฉิงเฟิงก็แข็งแกร่งขึ้นในระหว่างการต่อสู้และบีบให้อ้าวเจียงต้องเป็นฝ่ายถอยรูดเป็นครั้งแรก
ถึงแม้ว่าอ้าวเจียงจะมีระดับพลังบ่มเพาะสูงกว่าหลี่ฉิงเฟิงแต่สมรรถภาพในการต่อสู้ของเขายังไม่เท่าหลี่ฉิงเฟิง
จู่ๆอ้าวเจียงก็หยุดมือและกล่าวว่า“หลี่ฉิงเฟิง เลิกสู้เถอะ ขืนซัดกันต่อไปเช่นนี้คงไม่จบไม่สิ้นเป็นแน่ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้พลังแท้ไปมาก พวกเราอาจจะพลาดโอกาสคว้าโลหิตมังกระน้ำแข็ง”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่ฉิงเฟิงก็หยุดมือทันที เขาก็ไม่ได้คิดจะสู้กับอ้าวเจียงเท่าใดนักเพราะเป้าหมายเดียวของเขาคือโลหิตมังกรน้ำแข็ง หากต้องสู้กันเองจนบาดเจ็บล้มตาย โลหิตมังกรน้ำแข็งคงตกอยู่ในมือของผู้อื่นโดยง่าย
ความขัดแย้งหลักระหว่างหลี่ฉิงเฟิงกับอ้าวเจียงก็สืบเนื่องมาจากองค์หญิงสามพวกเขาทั้งสองต่างก็คิดพาตัวเธอจากไป
หลี่ฉิงเฟิงเกิดความคิดเสี่ยงขึ้นเขายิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “เอาแบบนี้ก็แล้วกันอ้าวเจียง ฉันจะยืนอยู่เฉยๆให้แกโจมตี หากฉันถอยแม้แต่ก้าวเดียว แกก็พาองค์หญิงสามไปได้เลย แต่ถ้าฉันไม่เป็นอะไร แกก็วางมือจากเธอซะ”
อ้าวเจียงขบคิดอยู่ชั่วครู่และถูกใจกับการหาผู้ชนะในกระบวนท่าเดียวเช่นนี้ เขาแข็งแกร่งกว่าหลี่ฉิงเฟิงถึงสองขั้นย่อยอีกทั้งยังครอบครองสมบัติของวังมังกร เขาเชื่อมั่นว่าตนเองย่อมสามารถกระแทกอีกฝ่ายจนถอยรูดภายในกระบวนท่าเดียวได้อย่างแน่นอน นับประสาอะไรกับก้าวเดียว
“ก็ได้หลี่ฉิงเฟิง ข้าตกลงรับคำท้าเดิมพันของเจ้า เรามาตัดสินกันในกระบวนท่าเดียวว่าผู้ใดจะได้ครองสิทธิ์ในตัวนาง” อ้าวเจียงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา
องค์หญิงสามได้ยินการสนทนาของพวกเขาใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตากลายเป็นเย็นชาด้วยความโมโห
เจ้าคนสารเลวสองคนนี้! พวกเขากล้าปฏิบัติต่อเธอราวกับเป็นสิ่งของไว้ใช้เดิมพันได้อย่างไร !
เป็นที่รู้กันดีว่าเธอเป็นเจ้าหญิงแห่งวังมังกรทะเลตะวันออกและเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนหลายพันคนแต่ตอนนี้เธอกลับกลายเป็นสิ่งของให้พวกเขาใช้เดิมพันแล้ว
หลี่ฉิงเฟิงเห็นสีหน้าขององค์หญิงสามแต่เขาก็ไม่สนใจจุดประสงค์หลักคือเขาต้องการใช้อ้าวเจียงเป็นตัวผลักดันพลังฝีมือ ท้ายที่สุดแล้วคนผู้นี้ก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับจิตราชันขั้นที่ห้าและยังเป็นเจ้าชายแห่งวังมังกรทะเลเหนือ
กายาแดนชำระ….ท่วงทำนองสวรรค์อมตะ ….
!
ตูม
!!
หลี่ฉิงเฟิงปะทุพลังทั่วทั้งร่างและเปิดใช้งานกายาแดนชำระกับท่วงทำนองสวรรค์อมตะพร้อมกันอีกทั้งยังแผ่พุ่งพลังทองคำฉาบเคลือบไว้ทั่วร่างอีกด้วย
เขางัดไพ่ตายเกือบทั้งหมดออกมาเพื่อรับการโจมตีของอ้าวเจียง
“
หมัดมังกรน้ำแข็งทะเลเหนือ
! “
อ้าวเจียงคำรามลั่นนี่เป็นเคล็ดวิชาลับที่คิดค้นขึ้นโดยบรรพบุรุษแห่งวังมังกรทะเลเหนือผู้ไร้เทียมทาน
ก่อนหน้านี้อ้าวเจียงไม่ได้ใช้มันเพราะคิดว่าสามารถเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้โดยง่าย
แต่กลับกลายเป็นว่าเขาคิดผิดหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้เคี้ยวยากกว่าคาดไว้นัก สุดท้ายเขาจึงสบโอกาสใช้มันในการตัดสินกระบวนท่าเดียวในครั้งนี้
ตูม! ปัง !!
เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้นระหว่างสวรรค์และปฐพีคลื่นพลังสั่นสะเทือนไปในอากาศและกระจายออกไปทุกทิศทาง ร่างมายาของราชามังกรน้ำแข็งปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า มันแผ่พุ่งรัศมีพลังอันมหาศาลกดทับร่างของหลี่ฉิงเฟิงอย่างรุนแรง !
ต่อหน้าของแฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็งตนนี้หลี่ฉิงเฟิงดูตัวเล็กจ้อยราวกับมดที่แหงนมองช้างที่กำลังจะบดขยี้มัน
แฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็งถือครองรัศมีพลังแห่งการทำลายล้างที่แผ่พุ่งเข้าหาหลี่ฉิงเฟิง
ใบหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนเป็นซีดเผือดหากพวกเขาอยู่ในตำแหน่งของหลี่ฉิงเฟิงตอนนี้ พวกเขาคงตายไปนานแล้ว
วิ้งวิ้ง วิ้ง ……..!
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาวิกฤตินั้นเอง ร่างมายาสามร่างก็แผ่พุ่งออกมาจากร่างของหลี่ฉิงเฟิงเช่นกัน !
หนึ่งคือร่างมายาของเทพปีศาจผู้ซึ่งปรากฏออกมาจากพลังของเพลงหมัดทลายนรกานต์มันสัมผัสได้ถึงอันตรายยิ่งยวดของหลี่ฉิงเฟิงจึงเลือกที่จะปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรก
ถัดร่างเทพปีศาจก็คือร่างมายาสีเขียวของเทพสวรรค์อมตะที่เกิดจากการหลอมกลั่นเคล็ดวิชาท่วงทำนองสวรรค์อมตะของหลี่ฉิงเฟิงมันปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกเช่นกัน
นอกเหนือจากเทพปีศาจและเทพสวรรค์อมตะแล้วยังมีร่างมายาสีทองซีดอีกร่างหนึ่งปรากฏขึ้นถึงแม้ว่าจะดูซีดจางแต่ร่างมายานี้กลับยงคงเปล่งประกายด้วยออร่าอันไร้เทียมทาน มันคือร่างมายาของเซียนทองคำ
การปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันของแฟนธ่อมทั้งสามในร่างหลี่ฉิงเฟิงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี่แสดงให้เห็นว่าเคล็ดวิชาของเจ้าชายมังกรทะเลเหนือนั้นอันตรายเพียงใด !