My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1190 ช่วยองค์หญิงสาม
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1190 ช่วยองค์หญิงสาม
ตอนที่ 1190 ช่วยองค์หญิงสาม
หลี่ฉิงเฟิงเรียกสามแฟนธ่อมให้สำแดงกายเหล่านั้นคือ ร่างมายาของเทพปีศาจ , ร่างมายาของเทพสวรรค์อมตะและร่างมายาของเซียนทองคำ ซึ่งแต่ละร่างนั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพลานุภาพสูงล้ำและมีพลังอำนาจมากพอที่จะทำให้สวรรค์ต้องสะเทือน
ผู้คนที่อยู่รอบข้างไม่ใช่คนโง่พวกเขาคือผู้ฝึกตนที่ทั้งแข็งแกร่งและเฉลียวฉลาด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถรับรู้ได้ว่าแฟนธ่อมของหลี่ฉิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
คนรอบข้างรู้ว่าแฟนธ่อมเหล่านี้สามารถสังหารพวกเขาได้ทันทีหากเผชิญหน้ากับหลี่ฉิงเฟิงไม่เพียงแค่คนรอบข้างเท่านั้นที่ตระหนักถึง แต่ยังรวมถึงอ้าวเจียงด้วยเช่นกัน เขาก็รับรู้ถึงพลังของแฟนธ่อมทั้งสามของหลี่ฉิงเฟิง
แฟนธ่อมเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไปและทำให้อ้าวเจียงรู้สึกกระวนกระวายใจเขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าพลังของแฟนธ่อมเหล่านี้ย่อมไม่อ่อนแอไปกว่าแฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็งของตน !
อย่างไรก็ตามอ้าวเจียงไร้ซึ่งทางเลือก เขาได้ปลดปล่อยหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงไปแล้ว
บูม!
เสียงดังกึกก้องระหว่างสวรรค์และปฐพีปรากฏขึ้นจนทำให้มิติรอบๆใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทุกคนบนเกาะต่างก็หันหน้ามองไปในทิศทางนี้เนื่องจากการต่อสู้ของหลี่ฉิงเฟิงกับอ้าวเจียงนั้นงดงามเกินไป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าการโจมตีของพวกเขานั้นมีพลังรุนแรงเกินไป !
แต่หากกล่าวให้เจาะจงไม่ใช่ว่าการโจมตีของพวกเขานั้นทรงพลัง แต่เป็นแฟนธ่อมเหล่านั้นต่างหาก !
เมื่อแฟนธ่อมมังกรน้ำแข็งกระทบร่างแฟนธ่อมเทพปีศาจจากด้านบนพวกมันทั้งสองก็จ้องหน้ากันด้วยประกายเย็นเยือก
แฟนธ่อมเทพปีศาจเปี่ยมล้นด้วยพลังอันมหาศาลมันเป็นผู้ที่อยู่เหนือสุดของขุมนรกบนโลก และแม้แต่ขุมนรกทั้ง 18 ชั้นก็ยังไม่สามารถปราบมันลงได้ นับประสาอะไรกับมังกรน้ำแข็ง
แฟนธ่อมเทพปีศาจนั้นราวกับเป็นมารปีศาจชั่วร้ายจากขุมนรกที่มีพลังไร้เทียมทานมันสามารถสะกดข่มทุกสรรพสิ่งและทอดสายตาหยามหยันได้ทั่วหล้า
กำปั้นของแฟนธ่อมมังกรน้ำแข็งทะลุทะลวงแฟนธ่อมเทพปีศาจแต่มันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้
แม้แต่มังกรน้ำแข็งก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามเพราะแฟนธ่อมเทพปีศาจตนนี้เป็นเจ้าเหนือหัวผู้อยู่ยงคงกระพันซึ่งสามารถปราบปรามขุมนรกได้ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ายังมีแฟนธ่อมเทพสวรรค์อมตะและแฟนธ่อมเซียนทองคำอยู่ข้างๆ ซึ่งทั้งสองต่างก็มีพลังมหาศาลเช่นกัน
ในยุคโบราณพวกมันทั้งหมดต่างก็มีชื่อเสียงอย่างไม่น่าเชื่อชื่อของพวกมันขจรไกลแพร่กระจายไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี
ซึ่งพวกมันทั้งหมดเป็นตัวตนที่ดำรงอยู่ในระดับจักรพรรดิทั้งสิ้น!
พวกเขามีเกียรติและศักดิ์ศรีของสุดยอดฝีมือผู้ทรงอำนาจที่ไม่มีใครเทียบเคียงดังนั้นพวกมันย่อมไม่ยอมรับการท้าทายของราชามังกรน้ำแข็งที่ไม่สยบต่ออำนาจของพวกมัน พวกมันต้องตอบโต้การโจมตีและแสดงพลังที่แท้จริงออกมา
แฟนธ่อมเทพปีศาจโบกกำปั้นเทพปีศาจออกไปมันนำมาซึ่งขุมพลังมหาศาล กำปั้นนี้สามารถพิฆาตราชาปีศาจจากนรกได้ด้วยหมัดเดียว แม้แต่ตัวตนระดับนั้นก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน
แฟนธ่อมเทพปีศาจออกหมัดที่บีบให้แฟนธ่อมราชามังกระน้ำแข็งต้องถอยไปหลายก้าว ต่อจากนั้นแฟนธ่อมเทพสวรรค์อมตะก็ต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของมันด้วยเช่นกันมันเหวี่ยงหมัดซ้ำไปอีกครั้ง นั่นคือหมัดสวรรค์อมตะซึ่งเต็มไปด้วยรัศมีพลังแห่งสรวงสวรรค์ มันพุ่งทะลุท้องฟ้าและกระแทกเข้ากับร่างของแฟนธ่อมมังกรน้ำแข็ง ส่งผลให้มันลอยกระเด็นไปด้านหลังอีกครั้ง
ส่วนแฟนธ่อมเซียนทองคำไม่ได้ใช้เพลงหมัดใดๆมันใช้ฝ่ามือแทน
ฝ่ามือของมันฟาดซัดไปเบื้องหน้าแผ่ซ่านเป็นฝ่ามือทองคำอร่ามออกมามันปกคลุมทั่วพื้นดิน บดบังแสงอาทิตย์ ปกคลุมชั้นบรรยากาศด้วยแสงสีทอง ลำแสงฉีกทะลุผ่านอวกาศทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ในที่สุดฝ่ามือนั้นก็ตบกระแทกเข้าใส่แฟนธ่อมมังกรน้ำแข็งจนลอยไกลออกไปอีกคำรบ
แฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็งถอยรูดไปไกลร่างมายาของมันเริ่มสั่นวูบวาบและสลัวลง สุดท้ายก็หายไปในร่างกายของอ้าวเจียง
ใบหน้าของอ้าวเจียงมืดมดและพ่นเลือดคำโตออกมาเขาคิดไม่ถึงว่าจะพ่ายแพ้หมดรูปแม้กระทั่งเรียกแฟนธ่อมสถิตย์ร่างออกมาโจมตีแล้วก็ตาม
เป็นที่ทราบกันดีว่าแฟนธ่อมราชามังกรน้ำแข็งเป็นตัวตนชั้นสูงของวังมังกรทะเลเหนือและมีพลังอันสูงส่ง
มันเป็นเจ้าเหนือหัวผู้อยู่ยงคงกระพันที่ปกครองโลกใต้ทะเลและแม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดของวังมังกรทะเลตะวันออกก็ยังไม่อาจเอาชนะมันได้แต่สุดท้ายมันก็สลายไปในวันนี้
หากมันเป็นความพ่ายแพ้ทั่วไปอ้าวเจียงคงไม่เคืองแค้นนักแต่นี่เป็นการพ่ายแพ้หมดรูป
ในเมื่อผลการต่อสู้ออกมาแล้วอ้าวเจียงเป็นฝ่ายที่ถอยหลังก็เท่ากับว่ามันพ่ายแพ้หลี่ฉิงเฟิง
หลี่ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า“อ้าวเจียง แกแพ้แล้ว องค์หญิงสามเป็นของฉันส่วนแกต้องวางมือจากเธอ” หลี่ฉิงเฟิงมองอ้าวเจียงอย่างภาคภูมิใจและแฝงด้วยแววตาหยามเหยียดเขาครอบครอง สามแฟนธ่อมที่ไร้เทียมทานที่เคยสร้างความอลหม่านไปทั่วทั้งโลกผู้ฝึกตน นับประสาอะไรกับเจ้าชายแห่งวังมังกรทะเลเหนือ
อ้าวเจียงสีหน้าบูดบึ้งด้วยความโกรธแค้นหลังจากได้ยินคำพูดของหลี่ฉิงเฟิงจมูกโด่งได้รูปของมันพ่นลมหายใจเข้าออกอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด มันไม่คิดว่าจะแพ้เช่นนี้
มีผู้ฝึกตนหลายคนเป็นประจักษ์พยานในการเดิมพันครั้งนี้มันไม่อาจบิดพลิ้วได้เพราะมีศักดิ์ศรีของเจ้าค้ำคออยู่ หากมันคิดกลับคำก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
ถึงแม้องค์หญิงสามจะมีความสำคัญแต่ชื่อเสียงของวังมังกรทะเลเหนือนั้นสำคัญกว่า
หากวังมังกรทะเลเหนือสูญเสียชื่อเสียงพวกมันจะไม่สามารถยึดครองแผ่นดินใหญ่และโลกของเหล่าผู้ฝึกตนได้ ทุกคนจะดูถูกหยามหยันและอาจจะไม่เต็มใจร่วมมือหรือเข้าร่วมแผนการในอนาคต ดังนั้นอ้าวเจียงจะต้องยอมรับผลกระทบจากการเดิมพันของตัวเอง
มันเหลือบมองหลี่ฉิงเฟิงอย่างเย็นชาและพูดว่า“เหอะ ผู้ชนะเป็นจ้าว องค์หญิงสามเป็นของเจ้าแล้ว แต่จงจดจำไว้ว่าห้ามข่มเหงรังแกนาง มิฉะนั้นข้าจะตามล่าเจ้าไปสุดหล้าฟ้าเขียว !”
อ้าวเจียงขู่หลี่ฉิงเฟิงจากนั้นก็หันหลังแน่นอนว่ามันลังเลที่จะไป แต่ไม่มีอะไรที่มันทำได้ มันต้องยอมรับ
หลี่ฉิงเฟิงไม่สนใจคำขู่และภัยคุกคามของอ้าวเจียงเขาไม่กังวลแม้แต่น้อย
ไม่ต้องพูดถึงตัวตนระดับอ้าวเจียงต่อให้เป็นบรรพบุรุษราชามังกรของวังมังกรทะเลเหนือเขาก็ไม่สนใจเช่นกัน
เขาเป็นคนที่ถูกชะตาลิขิตไว้ว่าสักวันหนึ่งจะกลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ในเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายแห่งวังทะเลเหนือหรือบรรพบุรุษราชามังกรก็ตาม พวกมันทั้งหมดจะต้องทำตามคำสั่งของจักรพรรดิสวรรค์ ! จากนั้นหลี่ฉิงเฟิงก็เดินไปหาองค์หญิงสามและเอ่ยว่า“คนสวย เราเจอกันอีกแล้ว เธอคิดถึงฉันไหม”
องค์หญิงสามกลอกตาของเมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลี่ฉิงเฟิง
“ทำไมทำหน้ายังงี้ฉันจำได้สิ่งที่เธอเพิ่งพูดได้นะ เธอพูดว่าเป็นผู้หญิงของฉันไม่ใช่หรือ ” หลี่ฉิงเฟิงพูดด้วยร้อยยิ้ม
ใบหน้าที่อ่อนโยนขององค์หญิงสามเปลี่ยนไปและพูดว่า“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้พูดเสียหน่อย !”
“เหอะเธอกล้าไม่ยอมรับงั้นหรือ ฉันอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตช่วยเธอ ฉันจะเก็บดอกเบี้ยละนะ” หลี่ฉิงเฟิงมองไปที่องค์หญิงสามและพูดอย่างเจ้าชู้
ม๊วฟ!
หลี่ฉิงเฟิงเหยียดแขนออกไปรั้งเอวเพรียวบางขององค์หญิงสามเข้ามาและจูบเข้าที่ริมฝีปากสีแดงอ่อนๆของเธอริมฝีปากของเธอทั้งนิ่มและหวาน เขายังขบกัดที่ริมฝีปากของเธอเล็กน้อยอีกด้วย
ดวงตาขององค์หญิงสามเบิกกว้างใบหน้าที่งดงามของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสดและเต็มไปด้วยความเขินอาย เธอไม่เคยคิดเลยว่าหลี่ฉิงเฟิงจะอุกอาจถึงขั้นจูบเธอต่อหน้าทุกคน
ส่วนองค์หญิงสองที่เห็นน้องสาวตนเองถูกรังแกก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“คนสารเลวปล่อยน้องข้าเดี๋ยวนี้นะ !”
หลี่ฉิงเฟิงปล่อยองค์หญิงสามหลังจากได้ยินเสียงขององค์หญิงสองเขาเดินไปตรงหน้าของเธอและพูดว่า “เธออิจฉาเหรอ ฉันจูบเธอด้วยเอาไหม ?”
องค์หญิงสองตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งที่หลี่ฉิงเฟิงโดยไม่ทันตั้งตัว หลี่ฉิงเฟิงก็โฉบเข้าไปจูบริมฝีปากหวานหอมของเธออย่างรวดเร็ว
องค์หญิงสองเบิกตากว้างและตกตะลึงเธอขบคิดในใจว่า ชายคนนี้เพิ่งจูบน้องสาวของเธออยู่หมาดๆแต่ยังกล้าจูบเธอจริงๆ !