My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1203 หลี่ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1203 หลี่ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ
ตอนที่ 1203 หลี่ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ
ฝ่ามือของหญิงสาวผู้นี้ทรงพลังสุดขั้วด้วยการตบออกไปเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เกิดการระเบิดและก่อเกิดหลุมดำขึ้นในพื้นที่โดยรอบ ลมหมุนสีดำปรากฏขึ้นและดึงดูดทุกสิ่งที่อยู่ใกล้มันทั้งหมด
หลี่ฉิงเฟิงไม่กล้าประสาทเมื่อได้เห็นพลังของสาวงามผู้นี้
นางเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งมากซึ่งมิได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าชายแห่งวังมังกรทะเลตะวันออกแม้แต่น้อยยิ่งไปกว่านั้นหลี่ฉิงเฟิงก็สัมผัสได้ว่านางมีสมบัติล้ำค่าเป็นอาวุธมากมาย
“
หมัดที่สี่ทะลวงชั้นฟ้า
!!
“
หลี่ฉิงเฟิงคำรามลั่นและเหวี่ยงหมัดไปข้างหน้าหมัดมหึมาก่อเกิดพลังทำลายล้างในอากาศและพุ่งเข้าหาสาวงามอย่างโหดเหี้ยม
ตูม!!
ฝ่ามือของสาวงามพุ่งเข้าชนกับกำปั้นของหลี่ฉิงเฟิงและเกิดเสียงดังสนั่นทำให้พื้นที่โดยรอบถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
เมื่อผู้ฝึกตนมาถึงระดับของทั้งสองนี้พวกเขาจะสามารถแยกพื้นที่และมิติโดยรอยได้อย่างง่ายด้วยการโจมตีมือเปล่า
ปังปัง ปัง ปัง !
หลี่ฉิงเฟิงถอยกรูดสี่ก้าวร่างกายเซไปเซมาและรู้สึกเจ็บปวดที่หมัดของเขา
สาวงามผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปนางแข็งแกร่งกว่าหลี่ฉิงเฟิงมากนัก ต่อให้เขาใช้หมัดที่สี่ทะลวงชั้นฟ้าก็ยังต้องถอยไปถึงสี่ก้าว
“นักสู้ระดับจิตราชันขั้นที่แปด….!“ หลี่ฉิงเฟิงตกตะลึง
จากการแลกเปลี่ยนการโจมตีเมื่อครู่นี้หลี่ฉิงเฟิงสามารถบอกได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เหนือกว่าเขาอย่างน้อยๆก็ห้าระดับ! ผู้หญิงคนนี้มีอายุไล่เลี่ยกับเขาแท้ๆแต่นางกลับแข็งแกร่งและมีพลังบ่มเพาะที่สูงส่งกว่ามาก เรื่องนี้ทำให้หลี่ฉิงเฟิงประหลาดใจต่ออัจฉริยะจากดาวดวงอื่น
อีกด้านหนึ่งสาวงามผู้นั้นก็ตกตะลึงไม่น้อย นางทราบถึงพลังฝีมือของตัวเอง ด้วยฝ่ามือนี้ของนางสามารถทุบทำลายสัตว์อสูรระดับจิตราชันขั้นที่เจ็ดได้ในพริบตา แต่ทว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้กลับไม่ตายและไม่บาดเจ็บมากนัก เขาเพียงถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น !
หญิงสาวผุดยิ้มบางอย่างเฉิดฉายที่หลี่ฉิงเฟิงพลางกล่าวว่า“พลังของเจ้าน่าประทับใจไม่น้อย เจ้าสามารถสกัดกั้นการโจมตีของข้าได้โดยไม่ตกตายทั้งที่มีพลังเพียงจิตราชันขั้นที่สาม เช่นนี้ก็แสดงว่าเคล็ดวิชาของเจ้าย่อมทรงพลังมาก”
สาวงามผู้นี้ฉลาดหลักแหลมมากนางสามารถบอกได้ทันทีว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นนักสู้ระดับจิตราชันขั้นที่สามที่ต่ำกว่านางถึงห้าระดับ
โดยตรรกะแล้วฝ่ามือของนางต้องสังหารนักสู้ที่อ่อนแอกว่าห้าระดับได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ตายก็มีเพียงเหตุผลเดียวนั่นก็คือคนผู้นั้นบ่มเพาะเคล็ดวิชาระดับอมตะ
ความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้างามของนางนางเริ่มสงสัยว่าหลี่ฉิงเฟิงมีเคล็ดวิชาระดับอมตะมากกว่าหนึ่ง ยิ่งคิดนางก็ยิ่งตื่นเต้นถึงความเป็นไปได้นี้
ถึงแม้ว่าสาวงามผู้นี้จะเป็นนักสู้ระดับจิตราชันขั้นแปดแต่เคล็ดวิชาของนางก็ยังอยู่เพียงแค่ระดับจักรพรรดิ นางปรารถนาที่จะบ่มเพาะเคล็ดวิชาระดับอมตะมาโดยตลอด
คิดได้ดังนั้นสาวงามก็โบกฝ่ามือออกไปกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่และฟาดเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอีกครั้ง
ฝ่ามือนี้มีขนาดมหึมาอย่างน้อยก็ 200 เมตรและเกือบจะปกคลุมทั่วท้องฟ้า มันมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายมิติโดยรอบและกำลังตบเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
สีหน้าของหลี่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างเคร่งขรึมเขารู้ดีว่าสาวงามผู้นี้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเขาก็ต้องใช้พลังทั้งหมดในการต้านรับเช่นกัน
หลี่ฉิงเฟิงโคจรพลังแท้ในร่างกายและรวบรวมทั้งหมดอัดใส่ไว้ในกำปั้นจากนั้นก็เหวี่ยงออกไปก่อเกิดเป็นกำปั้นที่มีขนาดใหญ่ที่มีรัศร้อยเมตรที่พุ่งเข้าหาฝ่ามือของนาง
นอกจากนี้หลี่ฉิงเฟิงยังได้อัดพลังงานทองคำในร่างหลอมรวมกับกำปั้นนั้นเพื่อรับมือกับฝ่ามือสุดกำลังของนางอีกด้วย
ตูม!!
ฝ่ามือขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับกำปั้นสีทองจนเกิดเสียงดังกัมปนาทขึ้นพื้นดินสั่นสะเทือนและมวลมิติโดยรอบสนั่นหวั่นไหว
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆต่างถอยหนีอย่างรวดเร็วบางคนที่หนีได้ช้า ร่างกายจึงถูกบาดด้วยคมมีดที่เล็ดลอดจากแรงปะทะ ในขณะที่บางคนโชคร้ายถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยชิ้นส่วนมิติที่ปริแตกและยังมีบางส่วนถูกดูดหายไป
ปึงปึง ปึง ….
คราวนี้หลี่ฉิงเฟิงถอยกรูดนับสิบๆก้าวเขาถูกกระแทกถอยไปไกลยิ่งกว่าครั้งแรก
เขาได้ใช้พลังทั้งหมดแล้วอีกทั้งยังอัดพลังทองคำเสริมเข้าไปอีกแต่ทว่าความแตกต่างของขอบเขตพลังนั้นห่างกันมากเกินไป คราวนี้เขาไม่เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าวเท่านั้น แต่ใบหน้ากลับกลายเป็นซีดเผือดและมีรอยเลือดไหลจากริมฝีปาก เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ต้องยอมรับว่าการโจมตีของสาวงามผู้นี้รุนแรงเกินไปหลี่ฉิงเฟิงยังต้องตกตะลึงต่อพลังของนาง
โชคยังดีที่เขาบ่มเพาะกายาแดนชำระและมีท่วงทำนองสวรรค์อมตะหากมิใช่เพราะเคล็ดวิชาเหล่านี้ ป่านนี้เขาเละเป็นเนื้อบดไปแล้ว
เมื่อเหล่าสหายได้เห็นว่าหลี่ฉิงเฟิงบาดเจ็บพวกเขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าหมายจะยื่นมือเข้าช่วย
ทว่าหลี่ฉิงเฟิงกลับโบกมือและกล่าวว่า “อย่าเข้ามา พวกนายเทียบนางไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ“
หลี่ฉิงเฟิงพูดจากใจจริงหญิงสาวผู้นี้ทรงพลังมากและเคล็ดวิชาที่นางใช้ออกนั้นก็มีความพิเศษไม่น้อย
ถึงแม้ว่านางจะใช้การโจมตีเพียงจากฝ่ามือเท่านั้นแต่พลังที่แฝงมาแตกต่างจากแก่นพลังของโลก มันราวกับว่าเป็นพลังงานชนิดอื่นที่ไม่มีบนโลกและยากต่อการรับมือ
“มอบเคล็ดวิชาบ่มเพาะของเจ้ามาเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
สาวงามกล่าวข่มขู่หลี่ฉิงเฟิง
หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มอย่างเย็นชาด้วยความรังเกียจเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเขาพูดได้เต็มปากว่าผู้หญิงคนนี้มีเจตนาไม่ดีแต่แรก แต่ก็คาดไม่ถึงว่านางคิดจะฮุบเคล็ดวิชาบ่มเพาะของเขาอีก
ในเมื่อตอนนี้สุนัขจิ้งจอกได้เผยหางของมันออกมาแล้วแน่นอนว่าหลี่ฉิงเฟิงก็ไม่ยอมมอบเคล็ดวิชาของตนเองให้อีกฝ่ายง่ายๆเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนขึ้นอยู่กับเคล็ดวิชาที่คนผู้นั้นบ่มเพาะมันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่เคยสอนเคล็ดวิชาระดับอมตะของตนเองให้กับลูกหมาสีดำหรือปิงหยาเฟย
“ฉันไม่ให้เธอหรอก”
หลี่ฉิงเฟิงส่ายหัวปฏิเสธคำข่มขู่ของนาง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแข็งขืนและปฏิเสธข้อเสนอสาวงามก็เผยสีหน้าเย็นชาอย่างโกรธแค้นขึ้น บนดาวเคราะห์เยวี่ยไม่เคยมีใครหน้าไหนปฏิเสธความปรารถนาของนาง !
สาวงามเหวี่ยงฝ่ามือเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอีกครั้งอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงฝ่ามือนี้ยังคงแข็งแกร่งและทำให้หลี่ฉิงเฟิงต้องถอยหลังไปอีกหลายก้าว
ถึงแม้จะต้องถอยแล้วถอยเล่าแต่หลี่ฉิงเฟิงก็ไม่กังวลมากนัก เพราะเขาค้นพบว่ากล้ามเนื้อของตนเองแข็งแกร่งขึ้นจากการโจมตีที่กระทบร่าง นี่นับเป็นข่าวดี
เขารู้ว่ากายาแดนชำระเป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังที่สามารถสะกดข่มขุมนรกได้แต่วิชานี้ค่อนข้างพิเศษมาก การฝึกฝนมันต้องทนต่อไฟ สายฟ้าและแม็กม่าจากภูเขาไฟ
นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีวิธีการอื่นที่จำเป็นในการปรับสภาพของกายาแดนชำระนั่นก็คือการรับการโจมตีอย่างรุนแรง !
ใช่แล้วเขาจำเป็นต้องทนรับการโจมตี