My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1209 เหล่าสุดยอดฝีมือจากนอกโลก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1209 เหล่าสุดยอดฝีมือจากนอกโลก
ตอนที่ 1209 เหล่าสุดยอดฝีมือจากนอกโลก
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฉิงเฟิงดวงตาของชายหนุ่มเขาเดียวเย็นลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขามีชีวิตอยู่เพื่อเป็นจ้าว แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมอยู่ในโลกที่ผู้อื่นนำเขาไปเป็นข้ารับใช้
ในฐานะที่เป็นมนุษย์จากดาวชั้นต่ำคำพูดของหลี่ฉิงเฟิงดูบ้าบิ่นมากและไม่กลัวความตาย ดังนั้นชายหนุ่มเขาเดียวจึงตัดสินใจที่สอนบทเรียนที่ยากจะลืมเลือน
“สารเลวเอ้ยเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร เหตุใดเจ้าถึงกล้าพูดอุกอาจเช่นนี้ ! คิดจะให้ข้าเป็นข้ารับใช้ ? เหอะรนหาที่ตาย !” ชายหนุ่มมีเขาสบถออกมาด้วยความโกธ
“อ้อ แล้วแกเป็นใครเล่า ไหนว่ามาซิ ?” หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและกล่าวอย่างไม่แยแส
ชายหนุ่มเขาเดียวเงยหน้าขึ้นฟ้าและกล่าวอย่างอาจหาญว่า“ข้ามีนามว่าโม่อู๋เทียนจากดาวเคราะห์ปีศาจ ตระกูลของข้าเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของดาว นอกจากนี้ดาวของข้าก็ยังเป็นดาวเคราะห์ชั้นสูง ดังนั้นบุรุษที่เกิดในดาวเคราะห์ชั้นต่ำอย่างเจ้าสมควรจะต้องคุกเข่าต่อหน้าข้า !“
หลี่ฉิงเฟิงไม่ใส่ใจจะตอบอีกฝ่ายเขากลอกตามองไปที่ชายหนุ่มเขาเดียว
ผู้คนจากดาวเคราะห์ชั้นสูงมักจะทำตัวเหมือนว่าพวกเขาเหนือกว่านึกถึงว่าตนเองเป็นขาใหญ่และยอดฝีมือที่ไร้เทียมทาน แต่ในสายตาของหลี่ฉิงเฟิงแล้ว พวกมันไม่มีค่าอะไรเลย
พวกมันเพียงแค่โชคดีที่เกิดมาในตระกูลที่เพียบพร้อมและเกิดบนดาวเคราะห์ระดับสูงนี่คือทั้งหมดที่พวกมันเป็น ดังนั้นหลี่ฉิงเฟิงจึงมองพวกมันเป็นเหมือนทายาทเศรษฐีที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเท่านั้น
ส่วนตัวเขาความสามารถและพลังอำนาจทั้งหลายล้วนได้มาผ่านความพยายามและการทำงานอย่างหนัก เขาฝึกฝนบ่มเพาะและเสี่ยงอันตรายหลายครั้งหลายครากว่าจะมาถึงวันนี้ เขาได้รับรู้ถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาลเมื่อเขาอยู่ในเขตต้องห้ามของภูเขาคุนหลุน
จักรวาลอันกว้างใหญ่นั้นมีดวงดาวอยู่นับ100 ล้านดวง ในบรรดาเหล่านี้มีพิภพใหญ่ถึง 3000 พิภพระดับกลางนับ 10,000 และพิภพขนาดเล็กนับ 100,000 แห่งและยังมีชั้นมิติระดับสูงกลางและระดับต่ำอีกนับไม่ถ้วน
โลกมนุษย์อยู่มิติชั้นต่ำที่ทั้งเล็กสุดและอ่อนแอที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ของชั้นมิตินี้
แต่ถึงแม้ว่าโลกจะดูอ่อนแอแต่หลี่ฉิงเฟิงก็ยังคงชื่นชอบมัน เขารู้ว่าโลกมนุษย์เคยยิ่งใหญ่งดงามมาก่อน มันล่มสลายลงเพราะถูกจู่โจมจากผู้รุกราน
เขาเชื่อว่าวันหนึ่งโลกจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อรับเกียรติเดิมกลับคืนเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง ทั่วทั้งจักรวาลจะต้องตกตะลึงและไม่คิดยึดครองโลกอีกต่อไป
ในความเป็นจริงแล้วหลี่ฉิงเฟิงภาคภูมิใจในการเกิดเป็นมนุษย์บนดาวดวงนี้เขาภูมิใจในบ้านของเขามากที่สุด หลี่ฉิงเฟิงหรี่ตามองไปที่ชายหนุ่มเขาเดียวด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยามพลางพูดว่า
“แกบอกว่ามาจากดาวเคราะห์ชั้นสูงงั้นหรือ มันช่างน่าละอายขนาดไหนที่แกยังไม่สามารถเอาชนะฉันได้เลย” หลังจากพูดจบหลี่ฉิงเฟิงก็ไม่สนใจชายหนุ่มเขาเดียวและเดินหน้าต่อไป
ทิศทางที่เขามุ่งหน้าไปก็คือเป้าหมายของชายหนุ่มเขาเดียวเช่นกัน
ความโกรธเริ่มไหลล้นออกมาจากดวงตาของชายหนุ่มเขาเดียวเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลี่ฉิงเฟิง
เจ้ามนุษย์บัดซบเจ้ากล้าล้อเลียนข้าได้อย่างไรกัน ! นี่คือสิ่งที่เขาคิดในใจ
ย้ากกกกก
!!
ชายหนุ่มเขาเดียวส่งเสียงคำรามในขณะที่เหวี่ยงกำปั้นปีศาจที่น่ากลัวออกมามันบดบังท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอย่างดุดัน “หมัดที่สี่
–
ทะลวงชั้นฟ้า
!!
“
หลี่ฉิงเฟิงคำรามลั่นและโคจรพลังแท้ทั่วร่างส่งผ่านไปยังกำปั้นและใช้ออกด้วยหมัดที่สี่ของหมัดทลายนรกานต์มันแข็งแกร่งมากจนทำลายพื้นดินโดยตรงและก่อให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน
การโจมตีของทั้งคู่เป็นการทำลายล้างที่รุนแรงขณะที่พวกมันเคลื่อนไหว ขุมพลังงานมหาศาลก็บัดบังท้องฟ้าจนมืดมิด ตามมาด้วยก้อนหินดินทรายที่ลอยขึ้นไปในอากาศ
ทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขาเริ่มถอยออกห่างเพราะกลัวจะโดนลูกหลง
ในเวลาเดียวกัน, ผ่านช่องว่างอวกาศ ผู้เชี่ยวชาญจากมิติและดาวเคราะห์อื่นๆก็กำลังสำรวจก้นมหาสมุทรโดยใช้อุปกรณ์วิญญาณของพวกเขา
คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากดาวเคราะห์นอกโลกและพวกมันก็มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา
ในบรรดาคนเหล่านั้นที่แข็งแกร่งที่สุดมาจากดาวเคราะห์ทั้งสามดวง ดาวเคราะห์ปีศาจ, ดาวเคราะห์เยวี่ยและดาวเคราะห์ทองคำ พวกเขาทั้งหมดมาจากมิติระดับสูง
ในเวลานี้เองบนดาวเคราะห์ปีศาจปีศาจสูงสุดกำลังถือจานใบหนึ่ง มองจากรูปลักษณ์ของมันก็เหมือนจานทั่วไป แต่จริงๆแล้วมันเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่มีประสิทธิภาพ
ผ่านอุโมงค์อวกาศโดยการส่องผ่านแผ่นจานวิญญาณที่ด้านล่างของมหาสมุทรเขาสามารถสังเกตเห็นการต่อสู้ระหว่างหลี่ฉิงเฟิงและโม่อู๋เทียนได้อย่างง่ายดายและชัดเจน
บนดาวปีศาจโม่อู่เทียนเป็นชายหนุ่มมากความสามารถซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างดี ในความเป็นจริงแล้วเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงเนื่องจากเป็นบุตรชายขององค์ปีศาจสูงสุด
เหตุผลสำหรับการมาเยือนโลกของชายหนุ่มเขาเดียวก็คือช่วงชิงเลือดมังกรน้ำแข็งมันเป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากปีศาจสูงสุดด้วยตัวเอง
หากเขาสามารถได้รับเลือดมังกรน้ำแข็งไม่เพียงแค่พลังของโม่อู๋เทียนที่จะพุ่งทะยานอย่างมาก แต่ยังรวมไปถึงองค์ปีศาจสูงสุดอีกด้วย
องค์ปีศาจสูงสุดผู้นี้เป็นชายวัยกลางคนที่สูงใหญ่กำยำเขาบนหัวของเขาเป็นสีทองและมีรอยหยักเก้ารอย
เขาเดียวเป็นเครื่องหมายที่โดดเด่นสำหรับสิ่งมีชีวิตจากดาวเคราะห์ปีศาจมันจะปรากฏเป็นสีดำเมื่อเจ้าของมีพลังในขอบเขตจิตราชัน สีน้ำเงินเมื่อมีพลังถึงจิตวิญญาณจักรพรรดิ และเป็นสีทองเมื่อสิ่งมีชีวิตนั้นเหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณสูงสุด !
ไม่มีใครคิดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้จะเป็นยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณสูงสุดนั่นก็หมายความว่าคนผู้นี้แข็งแกร่งที่สุดบนดาวเคราะห์ดวงนั้น !
สำหรับโลกมนุษย์ตัวตนที่มีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณสูงสุดนั้นหมดสิ้นไปแล้วนับตั้งแต่ยุคสงครามโบราณ
ภาพที่ปรากฏบนอุปกรณ์จิตวิญญาณในมือของปีศาจสูงสุดคือชายสองคนหนึ่งคือลูกชายของเขา ส่วนอีกคนคือมนุษย์คนหนึ่ง
ปีศาจสูงสุดรู้ดีว่าบุตรชายของเขาแข็งแกร่งมากและการมาปฏิบัติภารกิจบนโลกมนุษย์ชั้นต่ำก็นับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
แต่ทว่าภาพที่เขาเห็นก็คือมนุษย์ธรรมดาสามารถพัวพันกับบุตรชายของเขาได้อย่างสูบสี บัดนี้เขารู้แล้วว่าหลี่ฉิงเฟิงไม่ใช่มนุษย์กระจอกธรรมดา
ไม่ใช่เพียงแค่ปีศาจสูงสุดเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับกิจกรรมที่ก้นมหาสมุทรแต่ยังมีเหล่ายอดฝีมือบนดาวเคราะห์เยวี่ยและดาวเคราะห์ทองคำอีกด้วย บนดาวเคราะห์เยวี่ย
มีวังขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นกลางเวหา
วังแห่งนี้เป็นของนิกายวังจันทราซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดนิกายบนดาวเคราะห์เยวี่ยและยังเป็นกำลังสำคัญของดาวเคราะห์อีกด้วย
ประมุขนิกายเป็นสตรีเลอโฉมวัยกลางคนผู้หนึ่งนางมีวงหน้าหมดจดงดงามทรงเสน่ห์ ผิวขาวเนียนดุจเหมันต์ มีทรวดทรวงองเอวที่น่าดึงดูดใจและมีเกศายาวสลวย กาลเวลาไม่ได้ทำให้ความงามของนางลดทอนลงแม้แต่น้อย
สตรีกลางคนนางนี้ก็คือมารดาของเจียงซีเยวี่ยนั่นเองอีกทั้งนางก็ยังถืออุปกรณ์วิญญาณไว้ในมืออีกด้วย
มันเป็นขวดโหลใบหนึ่งนางสามารถมองผ่านขวดเพื่อดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นก้นมหาสมุทร แน่นอนว่านางย่อมได้เห็นการต่อสู้ระหว่างหลี่ฉิงเฟิงกับบุตรสาวของนางเช่นกัน สตรีกลางคนดูเหมือนจะอยากรู้อยากเห็นและประหลาดใจกับความสามารถของหลี่ฉิงเฟิงไม่น้อยนางคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับยอดฝีมือที่โดดเด่นเช่นนี้บนดาวเคราะห์ชั้นต่ำ
ถึงแม้ว่าตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงกับบุตรสาวของนางจะยังไม่ได้ต่อสู้กันแต่สตรีกลางคนก็ยังสนอกสนใจในการเคลื่อนไหวของหลี่ฉิงเฟิงอยู่ ดังนั้นนางจึงยังคงสังเกตการต่อสู้ของพวกเขาต่อไป
นอกเหนือจากดาวปีศาจและดาวเคราะห์เยวี่ยแล้วยังมีอีกที่หนึ่งที่มีบุคลผู้หนึ่งกำลังเฝ้ามองสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นใต้ก้นสมุทรอย่างตั้งใจ นอกจากนี้ บุคลผู้นี้ก็ยังเป็นชายวัยกลางคนที่มีผิวเป็นสีทองโดยสมบูรณ์
บุคคลผู้นี้มาจากนิกายขุนเขาทองซึ่งเป็นหนึ่งในนิกายไร้เทียมทานบนดาวเคราะห์ทอง
ชื่อของเขาก็คือทองคำไร้พ่ายเขาเป็นยอดฝีมืออันเหนือชั้นที่มีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณสูงสุดเช่นกัน
นักพรตทองเป็นลูกศิษย์ของเขาและถูกส่งไปยังแผ่นดินใหญ่ใต้ทะเลเพื่อแย่งชิงเลือดมังกรน้ำแข็ง
และในอีกที่หนึ่งบนดาวเคราะห์ทองคำหลวงจีนทองบรรพกาลก็เฝ้าดูพื้นมหาสมุทรเช่นกัน
ในตอนแรกสายตาของเขาเพียงจับจ้องอยู่ที่ลูกศิษย์ของเขา,หลวงจีนทอง แต่หลังจากนั้นไม่นานฝีไม้ลายมือของหลี่ฉิงเฟิงก็ได้ดึงดูดความสนใจจากเขา มนุษย์ผู้นี้ทำให้เขารู้สึกสนใจยิ่งนัก
หลี่ฉิงเฟิงไม่รู้เลยว่าในเวลานี้เขากำลังถูกสังเกตการณ์โดยเหล่าสุดยอดฝีมือจากดาวเคราะห์นอกโลก!
เนื่องจากมันมีความต่างของระนาบพลังที่ทำให้หลี่ฉิงเฟิงไม่สามารถรู้ตัวได้เลยว่ามีคนกำลังจับจ้องมองอยู่
เขามองไปที่โม่อู๋เทียนและกล่าวอย่างเย็นชาว่า“ไสหัวไปให้พ้นๆเลย ฉันจะรีบไปเอาเลือดมังกรน้ำแข็ง“ โม่อู๋เทียนตอบสนองต่อคำพูดของหลี่ฉิงเฟิงสั้นๆว่า“หากเลือดมังกรน้ำแข็งที่เจ้ากำลังพูดถึงคือสิ่งที่ข้าต้องการ งั้นก็จงอย่าได้ฝันเฝื่องไปเลยว่าจะมีโอกาสแตะต้องมัน !”
*ระดับจิตวิญญาณสูงสุดเกือบถึงขั้นสุดท้ายของเรื่องแล้วครับเหลืออีกสองขั้นก็คือเซียนแล้วขั้นสุดท้ายคืออมตะ*
มาไกลเนอะ…….หัวหน้ามาเฟียแอฟริกาตู……