My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1212 สยบโม่อู๋เทียน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1212 สยบโม่อู๋เทียน
ตอนที่ 1212 สยบโม่อู๋เทียน
หลี่ฉิงเฟิงรู้ถึงความแข็งแกร่งของกระบี่แสงสีทองมาตั้งแต่แรกเขารู้ว่ายิ่งสำเร็จกระบวนท่ามากขึ้นเท่าใด พลังทำลายและความงดงามของมันก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ถึงกระนั้นเขาก็ยังประหลาดใจกับความจริงที่ว่าเขาสามารถทำให้โม่อู๋เทียนผู้แข็งแกร่งต้องสยบที่ปลายเท้าทันทีที่เพิ่งฝึกฝนกระบี่ที่สี่สำเร็จหากปลดผนึกที่ห้าและบรรลุกระบี่ที่ห้า แน่นอนว่าย่อมสยบอีกฝ่ายจนแพ้พ่าย
แต่ทว่าผนึกของกระบี่แสงสีทองนั้นแข็งแกร่งมากและมั่นคงมีเพียงการที่เขายกระดับความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้นจึงจะสามารถปลดมันออกได้
ตอนนี้หลี่ฉฺงเฟิงมีพลังในขอบเขตจิตราชันขั้นที่สี่จึงทำได้เพียงปลดผนึกที่สี่เท่านั้นความสามารถของเขายังห่างไกลจากการปลดผนึกที่ห้า
แม้กระทั่งตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงก็สร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก เขากวาดต้านและทำให้ผู้คนโดยรอบต้องสั่นสะเทือนด้วยพลังของเขา
ในยุคบรรพกาลครั้งหนึ่งกระบี่แสงสีทองถูกใช้โดยจักรพรรดินีนกยูงปีศาจ มันสามารถสะกดทุกสรรพสิ่งโดยรอบและแม้กระทั่งสามารถเขย่าชั้นฟ้า แน่นอนว่ามันต้องสามารถรับมือกับศัตรูที่มีระดับสูงกว่าได้
ปัจจุบันนี้กระบี่แสงสีทองได้รับความเสียหายและถูกผนึกเอาไว้ในเวลาต่อมาดังนั้นพลังทำลายของมันจึงหายไปอย่างมหาศาล
แต่ยามที่มันอยู่ในมือของจักรพรรดินีนกยูงปีศาจในสมัยโบราณกระบี่เล่มนี้สามารถสะบั้นเศียรหมู่เซียนได้ด้วยกระบี่เดียว นับประสาอะไรกับโม๋อู่เทียน
ตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงปลดผนึกที่สี่กระบี่และคนรวมเป็นหนึ่งด้วยเจตน์กระบี่ ทำให้มันสำแดงพลังมหาศาลขึ้นมาได้อีกครั้ง ในไม่ช้าโม่อู่เทียนก็มิอาจขัดขวางการโจมตีของหลี่ฉิงเฟิงได้อีกต่อไปแม้จะมีหอกราชาปีศาจในมือ แต่มันก็ยังไม่สามารถรับมือหลี่ฉิงเฟิงในตอนนี้ได้
ส่วนอีกด้านหนึ่งน้ำเต้าสีดำของมันก็ถูกสะกดข่มไว้ด้วยน้ำเต้าทองคำของหลี่ฉิงเฟิง
“สวรรค์หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! เพิ่งผ่านไปไม่นานหลังจากที่มันเรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่ใหม่ มันก็กลับมามีอำนาจเหนือกว่า”
“ถูกต้องหลี่ฉิงเฟิงสามารถรู้แจ้งในระหว่างการต่อสู้ มันเป็นยอดฝีมือที่โดดเด่นยิ่งนัก !”
“ลางสังหรณ์บอกข้าว่าโม่อู๋เทียนจะแพ้การต่อสู้นี้และผู้ชนะจะเป็นหลี่ฉิงเฟิง“
คนอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็เริ่มถอนหายใจในขณะที่มองดู พวกมันตระหนักดีว่าโม่อู๋เทียนกำลังจะพ่ายแพ้
ด้วยกระบี่แสงสีทองในมือของหลี่ฉิงเฟิงมันปลดปล่อยเพลงกระบี่ที่สี่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ไอกระบี่ก่อตัวขึ้นเป็นขุนเขาและวารีอัดแน่นไปด้วยเจตน์กระบี่ที่นำมาซึ่งพลังหาคู่เปรียบ มันฟาดฟันเข้าหาโม่อู๋เทียนอย่างไร้ความปราณี
ใบหน้าของโม่อู๋เทียนเริ่มเต็มไปด้วยความกังวลอีกฝ่ายได้เรียนรู้และรับพลังของกระบี่แสงสีทอง ดังนั้นมันรู้ตัวว่าไม่ระวังไม่ได้แล้ว มันกำชับหอกราชาปีศาจในมือไว้แน่น พลันพุ่งไปข้างหน้าอย่างดุเดือด
บูม!
หอกราชาปีศาจกระแทกเข้ากับไอกระบี่ขุนเขาวารีพลังงานสองสายปะทะกันก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ผลออกมาก็เป็นอย่างที่คาดไว้ โม่อู๋เทียนถูกบีบให้ต้องถอยอีกครา
หอกราชาปีศาจไม่ได้เปรียบต่อกระบี่แสงสีทองอีกต่อไป
หลี่ฉิงเฟิงหัวเราะเยือกเย็นและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยเขาเหวี่ยงกระบี่แสงสีทองก่อเกิดเป็นพลังกระบี่อย่างต่อเนื่องหมายจะบดขยี้โม่อู๋เทียนอย่างไร้ความปราณี
หนึ่งกระบวนท่า
สองกระบวนท่า
สามกระบวนท่า… และอีกหลายๆครั้งตามมา !
หลังจากจู่โจมอย่างดุเดือดมากกว่าสิบครั้งหลี่ฉิงเฟิงก็กระแทกอีกฝ่ายกระเด็นไกลออกไปด้านหลังต้นไม้
อ้ากก!
เมื่อหลี่ฉิงเฟิงใช้กระบี่แสงสีทองโจมตีออกไปเป็นครั้งที่ยี่สิบในที่สุดมันก็ผ่านม่านคุ้มกายของโม่อู๋เทียน ทำลายแขนของมันได้รับเจ็บจนโลหิตไหลออกมาเป็นเป็นทาง
บนดาวปีศาจดวงตาของปีศาจสูงสุดหรี่ลงด้วยแสงเย็นเยียบในขณะที่จับจ้องโม่อู๋เทียนที่ได้รับบาดเจ็บ ปีศาจสูงสุดมีความคาดหวังสูงต่อโม่อู๋เทียนมันเชื่อมั่นว่าการส่งโม่อู๋เทียนลงไปยังพื้นมหาสมุทรบนโลกจะรับประกันการช่วงชิงเลือดมังกรน้ำแข็ง
อย่างไรก็ตามโม่อู๋เทียนยังไม่ทันได้แตะต้องเลือดมังกรน้ำแข็งก็ได้รับบาดเจ็บเข้าเสียแล้ว ปีศาจสูงสุดอดไม่ได้ที่จะก้นด่าสาบแช่งหลี่ฉิงเฟิง
ในเวลาเดียวกันบนดาวเคราะห์เยวี่ย ดาวเคราะห์ทองคำและดาวเคราะห์ชั้นสูงอื่นๆ ยอดฝีมือหลายคนต่างก็กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ผ่านอุปกรณ์วิญญาณนาๆชนิด
เมื่อได้เห็นว่ามนุษย์โลกอย่างหลี่ฉิงเฟิงสามารถทำร้ายโม่อู๋เทียนได้พวกมันก็เผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา
สำหรับดาวเคราะห์เยวี่ยและดาวเคราะห์ทองนั้นดาวปีศาจเป็นศัตรูที่ขัดแย้งกันมานาน ถึงกระนั้นก็ตามพวกมันก็ยังต้องยอมรับโม่อู๋เทียนในด้านพลังความสามารถ ในขณะที่ยังวัยเยาว์กลับสามารถบรรลุจิตราชันขั้นที่แปดได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงศักยภาพอันไร้เทียมทานของมัน
แต่ทว่า…..
ตอนนี้ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ไร้เทียมทานกลับได้รับบาดเจ็บจากมนุษย์โลกคนหนึ่ง
ความประหลาดใจถูกเขียนขึ้นทั่วดวงหน้างามของเจียงซีเยวี่ยนักพรตทองและหลวงจีนทอง พวกมันหันไปมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
พวกมันล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากดาวเคราะห์นอกโลกทันทีที่พวกมันเดินทางผ่านอุโมงค์อวกาศในตอนแรก บรรยากาศและกลิ่นอายอันต่ำต้อยของโลกมนุษย์ทำให้พวกมันเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจและความรู้สึกที่เหนือกว่า
พวกมันไม่เพียงแค่แข็งแกร่งในแง่ของพลังฝีมือในการบ่มเพาะแต่พวกมันยังครอบครองอุปกรณ์วิญญาณที่ล้ำค่ามากมาย เป็นที่คาดหวังว่าย่อมไม่มีมนุษย์โลกคนใดทำให้พวกมันต้องกังวลหรือรู้สึกตึงมือ แต่ตอนนี้ยอดฝีมือต่างดาวเหล่านี้ล้วนตระหนักได้แล้วว่าพวกมันคิดผิด! พวกมันประเมินมนุษย์โลกต่ำเกินไป
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์โลกมิได้อ่อนแอในทางกลับกัน พวกมันหลายคนแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง ตัวอย่างเช่นหลี่ฉิงเฟิงที่อยู่ตรงหน้าพวกมันนี้
เจียงซีเยวี่ยมองไปที่นักพรตทองพลางกล่าวในเชิงถามไถ่ว่า“เจ้ามนุษย์หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้ดูเหมือนยากที่จะจัดการ พวกเราควรร่วมมือกันเก็บมันก่อนดีหรือไม่ ”
นักพรตส่ายศีรษะพลางตอบว่า“โม่อู๋เทียนจากดาวปีศาจก็เป็นศัตรูของพวกเราเช่นกัน ข้ามิเห็นว่าพวกเราจำเป็นจะต้องช่วยมัน ปล่อยให้มันสู้กับหลี่ฉิงเฟิงไปจนจบ หากบาดเจ็บสาหัสกันทั้งสองฝ่ายจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา“
เจียงซีเยวี่ยพยักหน้ารับคำนางเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของนักพรตทอง
มันเป็นความจริงที่หลี่ฉิงเฟิงเป็นศัตรูขวางทางแต่โม่อู๋เทียนก็มีสถานะไม่ต่างกัน ในเมื่อเป็นนี้ การปล่อยให้ศัตรูทั้งสองฝ่ายกัดกันเองจนบาดเจ็บย่อมเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด
……….
ตูม! ตูม ! ตูม !
อีกด้านหนึ่งหลี่ฉิงเฟิงกระหน่ำจู่โจมโม่อู๋เทียนอย่างไม่หยุดยั้งด้วยวิชากระบี่ที่สี่ของกระบี่แสงสีทอง รอยเปื้อนเลือดใหม่จะปรากฏขึ้นบนร่างของโม่อู๋เทียนหลังจากหลี่ฉิงเฟิงลงมือในทุกๆครั้ง
ร่างของโม่อู๋เทียนไร้การป้องกันเนื่องจากตอนนี้มันมิใช่คู่มือของหลี่ฉิงเฟิงอีกแล้ว
หากเป็นก่อนหน้านี้หลี่ฉิงเฟิงอาจไม่สามารถเอาชนะโม่อู๋เทียนได้ แต่ตอนนี้โม่อู๋เทียนได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งหลี่ฉิงเฟิงได้บรรลุเพลงกระบี่ที่ทรงพลังขึ้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะล้มโม่อู๋เทียน
“มนุษย์บัดซบ” “เขตแดนพลังปีศาจ!”
โม่อู๋เทียนคำรามกึกก้องพลันปลดปล่อยเขตแดนพลังงานปีศาจออกไปที่ที่หลี่ฉิงเฟิงยืนอยู่ด้วยความหวังว่ามันจะสามารถกักขังอีกฝ่ายเอาไว้จนสบโอกาสสังหาร
ยอดฝีมือทุกคนสามารถรู้แจ้งในการบ่มเพาะเกี่ยวกับพลังของเขตแดนมันคือพลังไร้เทียมทานประเภทหนึ่งของผู้ฝึกตนแทบทุกคน
สิ่งที่โม่อู๋เทียนบ่มเพาะก็คือเขตแดนพลังปีศาจพลังเขตแดนนี้จะสร้างเขตสุญญากาศขนาดใหญ่ที่มีรัศมีร่วม 2,000 เมตรในบริเวณโดยรอบ
เขตสุญญากาศเต็มไปด้วยพลังงานปีศาจอันมืดมิดซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นภูตพรายนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้าใส่ที่หลี่ฉิงเฟิง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใช้พลังเขตแดนหลี่ฉิงเฟิงยกยิ้มมุมปาก เขาก็ครอบครองพลังแห่งเขตแดนเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้นเขายังบรรลุเขตแดนถึงสามประเภท มันเพียงแค่ว่าเขาไม่ได้ใช้พวกมันมาเป็นเวลานานจนแทบจะลืมไปแล้ว
ทางเลือกในการดิ้นรนของโม่อู๋เทียนกลับกลายเป็นการใช้พลังเขตแดนต่อหน้าหลี่ฉิงเฟิงเรื่องนี้นับเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ
“เขตแดนแห่งแรงโน้มถ่วง!”
หลี่ฉิงเฟิงคำรามลั่นพลันปลดปล่อยพลังแห่งเขตแดนแรงโน้มถ่วงของเขาออกมา
แรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์โลกเป็นแรงโน้มถ่วงพื้นฐานและดั้งเดิมที่สุดมันสามารถดึงดูดพลังงานชั่วร้ายได้ในทันที
หลังจากพลังงานอันชั่วร้ายถูกดูดเข้ามาหลี่ฉิงเฟิงก็โห่ร้องออกมาอีกครั้ง “เขตแดนเพลิงพินาศ !“
เขตแดนเพลิงพินาศเป็นหนึ่งในสามเขตแดนที่หลี่ฉิงเฟิงบรรลุในเชิงลึกมันคือเปลวไฟอันรุนแรงทรงพลัง
เปลวไฟสีแดงลอยอยู่เหนือบริเวณนั้นพวกมันแผดเผาพลังงานชั่วร้ายของโม่อู๋เทียนทันทีที่กระทบ
บรึ้ม! บรึ้ม !
ภายในเวลาไม่กี่นาทีพลังงานปีศาจทั้งหมดก็ถูกเผาผลาญด้วยเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงสีแดงชาดจากเขตแดนเพลิงพินาศของหลี่ฉิงเฟิง
พรู่ดดด!
โม่อู๋เทียนหน้าซีดเผือดศรโลหิตฉีดพุ่งออกมาเป็นเส้นรุ้งสีแดง