My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1214 สองสัตว์อสูรเทวะร่วมสัประยุทธ์
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1214 สองสัตว์อสูรเทวะร่วมสัประยุทธ์
ตอนที่ 1214 สองสัตว์อสูรเทวะร่วมสัประยุทธ์
หลี่ฉิงเฟิงกลายเป็นผู้ทรงอำนาจนับตั้งแต่ที่เขาทะลวงจิตราชันขั้นที่สี่และได้เรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่ที่สี่ของกระบี่แสงสีทอง
“เสด็จพี่แพ้หลี่ฉิงเฟิงได้อย่างไร” องค์หญิงสามอุทานด้วยความตกใจ
เมื่อได้เห็นเจ้าชายแห่งทะเลตะวันออกพ่ายแพ้อย่างง่ายดายองค์หญิงสามก็เผยสีหน้าตกตะลึง
นางคุ้นเคยกับพลังและความแข็งแกร่งของพี่ชายของนางเขาเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
แต่เขาก็พ่ายแพ้หลี่ฉิงเฟิงอย่างง่ายดาย
ส่วนเจ้าหญิงแห่งทะเลใต้ที่เคยคิดจะหยุดหลี่ฉิงเฟิงแต่สุดท้ายนางก็ก้าวถอยหลัง หลังจากที่ได้เห็นเจ้าชายแห่งทะเลตะวันออกพ่ายแพ้หลังจากปะทะกันเพียงครั้งเดียว นางรู้ตัวดีว่าตนเองมิได้เหนือกว่าเจ้าชายแห่งทะเลตะวันออกมากนักหากต้องเผชิญหน้ากับหลี่ฉิงเฟิงขึ้นมาจริงๆ นางคงมีสภาพไม่ต่างกัน
หลี่ฉิงเฟิงสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนโดยการฆ่าโมอู๋เทียนและล้มเจ้าชายแห่งทะเลตะวันออก
ผู้ฝึกตนทั้งหมดจากโลกมนุษย์ไม่มีคนใดกล้าหยุดหลี่ฉิงเฟิงอีกแล้วในขณะที่เขาเดินไปที่เลือดมังกรน้ำแข็งอย่างเย็นใจ
ทว่ายังมีบางส่วนที่กล้าพอและไม่กลัวหลี่ฉิงเฟิง ซึ่งเป็นยอดฝีมือจากดาวเคราะห์ดวงอื่น
เจียงซีเยวี่ยนักพรตทองและหลวงจีนทองคำต่างก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสกัดกั้นเขา ไม่ยอมให้เขาได้เลือดมังกรน้ำแข็งไปง่ายๆ
เจียงซีเยวี่ยเคยต่อสู้กับหลี่ฉิงเฟิงมาก่อนและรู้ซึ้งถึงพลังของอีกฝ่ายดีดังนั้นนางจึงร่วมมือกับนักพรตทองคำในครั้งนี้ เตรียมที่จะโจมตีหลี่ฉิงเฟิงพร้อมๆกัน “เจียงซีเยวี่ยเธอคิดจะทำอะไรอีก ”
หลี่ฉิงเฟิงได้แต่ตกตะลึงและเอ่ยปากถาม
“เลือดมังกรน้ำแข็งนี้เป็นของพวกข้าเจ้าเอาไปไม่ได้ !”
นางจ้องมองหลี่ฉิงเฟิงพลางกล่าวอย่างหยิ่งยะโส
นักพรตทองคำและหลวงจีนทองก็พยักหน้าและยืนหยัดเคียงข้างนาง
เหล่ายอดฝีมือจากดาวเคราะห์ดวงอื่นคิดว่าเลือดมังกรน้ำแข็งเป็นของพวกมันไม่ใช่ของที่สิ่งมีชีวิตอ่อนแออย่างมนุษย์โลกจะเอาไปได้
เมื่อได้เห็นหลี่ฉิงเฟิงถูกรายล้อมไปด้วยสามยอดฝีมือจากดาวเคราะห์นอกโลกผู้ฝึกตนบนโลกก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจ
พวกเขาทั้งหมดเป็นมนุษย์โลกแม้จะมีเรื่องบาดหมางกันแต่ก็เป็นความขัดแย้งภายใน เมื่อตอนนี้พวกเขาถูกมองข้ามโดยยอดฝีมือนอกโลก พวกเขาทุกคนก็รู้สึกโกรธแค้นไปตามๆกัน
แต่ผู้ฝึกตนบนโลกก็ไม่สามารถทำอะไรไปได้นอกจากเก็บความโกรธไว้ภายในใจ
พวกเขารู้ว่ามิใช่คู่มือกับยอดฝีมืออย่างเจียงซีเยวี่ยหากก้าวไปขัดขวางก็คงจะต้องตายแน่นอน
ปิงหยาเฟยคิดจะเข้ามาช่วยแต่นางก็ถูกหลี่ฉิงเฟิงห้ามไว้
หลี่ฉิงเฟิงรู้ว่าปิงหยาเฟยแทบช่วยอะไรไม่ได้เพราะนางมีพลังในระดับจิตราชันขั้นที่ห้าเท่านั้นแต่คนทั้งสามเบื้องหน้านี้มีพลังระดับจิตราชันขั้นที่แปด
โชคดียังดีที่ยอดฝีมือทั้งสามนี้บาดเจ็บมาบ้างจากการปะทะกับโม่อู๋เทียนตอนนี้พลังของพวกมันจึงเทียบเท่ากับจิตราชันขั้นที่หกเป็นอย่างมาก ดังนั้นหลี่ฉิงเฟิงก็มีโอกาสชนะสูง
เขากวักมือเรียกลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าให้ขึ้นมา
พวกมันทั้งสองเป็นสัตว์อสูรเทวะบรรพกาลเป็นสุนัขและงูตัวแรกนับตั้งแต่ยุคก่อกำเนิด พวกมันดูเหมือนแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตาย ดังนั้นหลี่ฉิงเฟิงคิดว่าการที่มีพวกมันเคียงข้างอาจเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดวิกฤติครั้งนี้
“หึๆๆนี่เจ้าคิดจะให้สุนัขกับงูของเจ้ามาสู้กับพวกเรางั้นหรือ น่าขันสิ้นดี”
เจียงซีเยวี่ยหัวเราะเยาะหลี่ฉิงเฟิงอย่างดูแคลน
สำหรับนางนั้นศัตรูที่คู่ควรมีเพียงคนเดียวในโลกนั่นก็คือหลี่ฉิงเฟิง
นอกจากบุรุษหนุ่มผู้นี้แล้วนางไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา
หลี่ฉิงเฟิงส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายด้วยสีหน้าดูแคลนเขาทอดถอนใจกับความไร้เดียงสาของเจียงซีเยวี่ย
นางหยิ่งเกินไปและคิดว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่นเพียงเพราะนางมาจากดาวเคราะห์ชั้นสูง อย่างไรก็ตามนางไม่รู้เลยว่าเคยมีเซียนและตัวตนระดับอมตะมากมายบนโลกในยุคโบราณ
ยกตัวอย่างเช่นจักรพรรดินีนกยูงปีศาจจากภูเขาพยัคฆ์มังกรนางคือผู้ไร้เทียมทานที่สามารถทำลายทั้งดาวเคราะห์ได้เพียงฝ่ามือเดียว
ลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าต่างก็ชักสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากได้ยินคำพูดเย้ยหยันของเจียงซีเยวี่ย
พวกมันเป็นสัตว์อสูรระดับเทวะนับตั้งแต่สมัยโบราณและไม่เคยถูกดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อนสตรีนางนี้ถึงคราวเคราะห์แล้ว
ลูกหมาสีดำก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพลางจ้องมองอีกฝ่ายและกล่าวว่า
“อีหนูโอหังเข้ามาให้ข้าตบสักทีมา”
มันเชิดหน้าขึ้นสูงในขณะที่จ้องมองนางราวกับว่ามันนาย นางเป็นบ่าว
เจียงซีเยวี่ยชักสีหน้าบึ้งตึงและมีโทสะหลังจากได้ยินคำพูดของลูกหมาสีดำนางเป็นองค์หญิงและเป็นยอดฝีมือระดับสูงของดาวเคราะห์เยวี่ย นางไม่เคยถูกดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อนโดยเฉพาะสุนัขตัวหนึ่ง นางทนไม่ได้
แต่ช่วงเวลาต่อมากลับทำให้นางโกรธแค้นมากขึ้นเพราะงูกลืนฟ้าเริ่มเปล่งวาจาเยาะเย้ยถากถางนางอีกตัว…
มันสั่นหางพลางกล่าวว่า“ดูสิ สตรีดุร้ายเยี่ยงนี้มนุษย์ผู้ชายที่ไหนจะกล้าเอาไปทำเมีย เอางี้ มาเป็นเมียข้าแทนไหมเล่า ”
ใบหน้าของเจียงซีเยวี่ยกลายเป็นมืดมนเพราะนางเพิ่งเคยถูกล้อเลียนเช่นนี้จากงูตัวหนึ่งสัตว์อสูรสองตัวนี้ช่างบัดซบจริงๆ
เจียงซีเยวี่ยหันไปพูดกับแนวร่วมทั้งสองที่อยู่ข้างๆว่า“พวกเจ้าทั้งสองจัดการกับสัตว์นรกสองตัวนี้ที ข้าจะจัดการหลี่ฉิงเฟิงเอง”
นักพรตทองพยักหน้าและกล่าวว่า“ข้าจะรับผิดชอบจัดการความชั่วร้ายให้เจ้า”
หลวงจีนทองพยักหน้าตกลง“ส่วนข้าจะรับมือเจ้างูกลืนฟ้าเอง”
นักพรตทองก้าวเท้าเดินไปหาลูกหมาสีดำส่วนหลวงจีนทองเดินไปหางูกลืนฟ้า พวกเขาทั้งสองเตรียมที่จะกำจัดสัตว์อสูรทั้งสองตัวนี้ พวกเขาจดจำได้ว่าสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ธรรมดา พวกมันครอบครองสายเลือดสัตว์อสูรระดับเทวะ
นักพรตทองเหวี่ยงกระบี่ยาวของเขาสร้างม่านแสงพลังงานกระบี่เพื่อดักจับลูกหมาสีดำ
ทว่าลูกหมาสีดำก็มิใช่ไก่กาที่จะจัดการได้ง่ายๆ เมื่อมันได้ปลุกความทรงจำบางส่วนจากอดีตชาติก็ทำให้มันมีความเข้าใจเกี่ยวกับเคล็ดวิชาบางอย่างจากชีวิตที่ผ่านมา
ทันใดนั้นมันก็โบกอุ้งเท้าขวาไปข้างหน้าสร้างเป็นกรงเล็บสุนัขขนาดยักษ์ด้วยพลังงานโบราณและก่อให้เกิดรอยขีดข่วนที่ม่านแสงพลังงานกระบี่สีขาวของนักพรตทอง ทำให้มันแตกละเอียดและหายไปอย่างสมบูรณ์
นักพรตทองตกตะลึงเขาไม่เคยคิดเลยว่าการโจมตีของเขาจะถูกลูกหมาสีดำตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินสุนัขตัวนี้ต่ำเกินไป
จากนั้นเขาก็เริ่มใช้เคล็ดวิชากระบี่โจมตีลูกหมาสีดำต่อไป
ส่วนลูกหมาสีดำก็ยังคงแกว่งอุ้งเท้าสุนัขก่อเกิดเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่จากขุมพลังงานโบราณและตบฟาดไปที่นักพรตทอง
ตูม! ตูม ! ตูม !
การโจมตีของทั้งสองทำให้เกิดการระเบิดในอากาศและสั่นสะเทือนไปรอบๆอย่างรุนแรง
ส่วนอีกด้านหนึ่งหลวงจีนทองก็หยิบชามออกมาใบหนึ่ง
มันเป็นชามทองคำที่ดูปกติทั่วไปยกเว้นแต่เพียงความเก่าแก่ของมันและมีรอยแตกที่ด้านข้าง
“งูกลืนฟ้าข้าจะทำให้เจ้าเชื่องด้วยชามทองคำใบนี้” หลวงจีนทองถืออุปกรณ์วิญญาณพลางกล่าวอย่างหยิ่งผยอง