My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1215 พลังของเจดีย์มรกต
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1215 พลังของเจดีย์มรกต
ตอนที่ 1215 พลังของเจดีย์มรกต
นักพรตทองได้เตรียมตัวจะล้มงูกลืนฟ้าด้วยชามทองคำทำให้มันรู้สึกรำคาญไม่น้อย
มันบุ้ยปากและกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า“ดูตัวเองก่อนเถอะเจ้าอัปลักษณ์ หัวก็โล้นยังมีหน้ามาพูดว่าจะล้มข้า ตลกสิ้นดี”
งูกลืนฟ้าจ้องมองนักพรตทองด้วยความเย่อหยิ่งมันไม่ได้เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา ราวกับอีกฝ่ายเป็นมด
นักพรตทองโกรธเมื่อเห็นงูกลืนฟ้าดูถูกเขาเช่นนั้นเขาถ่ายโอนพลังงานสีทองของลงไปในชามทองคำ ก่อตัวเป็นม่านแสงสีทองขนาดยักษ์ที่ปกคลุมทั่วร่างของงูกลืนฟ้า
มันไม่ง่ายที่จะจัดการในฐานะที่เป็นงูตัวแรกแห่งฟ้าดิน เมื่อมันได้ปลุกความทรงจำและพลังในอดีตชาติ มันไม่กลัวชามทองคำใบนี้แม้แต่น้อย
ชูว! งูกลืนฟ้าเปิดปากยิงแสงสีดำออกมา
แสงสีดำนี้ทรงพลังและคมกล้ายิ่งมันแทงทะลุอากาศในขณะที่มันถูกยิงไปกระทบม่านแสงสีทอง เจาะเป็นรูขนาดใหญ่และทำลายมันลงในทันที
งูกลืนฟ้าหัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยันกล่าวสำทับไปว่า“เหอะ ไอ้โล้น แกมันอ่อนแอชิบหายเลย”
นักพรตทองรู้สึกโกรธเกรี้ยวจนถึงจุดที่ตบะแตกจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วดวงตาของเขา เขาหงุดหงิดอย่างมากกับงูกลืนฟ้าที่เรียกเขาว่า ‘โล้น’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ตาย!”
นักพรตทองคำรามกึกก้องและยกชามทองคำขึ้นอีกครั้งยิงลำแสงสีทองออกไปหางูกลืนฟ้า
“ก็มาดิวะ!”
งูกลืนฟ้าตอบโต้กลับและยิงลำแสงสีดำเข้าปะทะทั้งสองฝ่ายต่อสู้พัวพันกันอย่างดุเดือด
อีกด้านหนึ่งหลี่ฉิงเฟิงรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้ารับมือศัตรูได้อย่างสูสี
จริงๆแล้วเขากังวลอยู่บ้างเล็กน้อยโดยคิดว่าพวกมันอาจจะไม่สามารถจัดการกับยอดฝีมือต่างโลกสองคนนี้ได้
มันกลายเป็นว่าความกังวลของเขานั้นไม่จำเป็นเลยสองตัวนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญของดาวเคราะห์สีทอง
หลี่ฉิงเฟิงเดินไปหาเจียงซีเยวี่ยเพราะนางกำลังเดินเข้าไปหาเลือดมังกรน้ำแข็ง
“เจียงซีเยวี่ยเธอแพ้ฉันไปแล้วรอบหนึ่ง ยังคิดจะสู้อีกหรือไง ”
หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มพลางกล่าวอย่างเย้ยหยันด้วยเสียงเย็นชา
เขาเคยสู้กับนางมาก่อนหน้านี้และล้มนางได้ด้วยวิชาราชสีห์คำราม เจียงซีเยวี่ยตอบกลับว่า“ยังไงข้าก็ต้องได้เลือดมังกรน้ำแข็ง ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าได้มันไปหรอก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็มาสู้กันอีกครั้ง ผู้ใดชนะก็ได้เลือดมังกรน้ำแข็งไป”
สิ้นเสียงหลี่ฉิงเฟิงก็ชักกระบี่แสงสีทองออกมาพุ่งผ่านอากาศตรงเข้าหานาง
เจียงซีเยวี่ยเป็นคนระมัดระวังตัวนางรีบชักกระบี่คู่กายออกมาเช่นกัน
มันเป็นกระบี่ยาวสีเงินที่นางเหวี่ยงออกมาปะทะกับกระบี่แสงสีทองของหลี่ฉิงเฟิง
ผลกระทบดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนไปรอบๆและบีบให้ทั้งสองฝ่ายต้องถอยห่างออกจากกัน
หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจพลางถามว่า“เธอฟื้นพลังกลับคืนมาแล้วหรือไง ”
เจียงซีเยวี่ยและโม่อู๋เทียนต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้และสูญเสียพลังการต่อสู้บางส่วนไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงซีเยวี่ยจะฟื้นฟูพลังกลับมาแล้ว
นางผุดยิ้มบางและกล่าวว่า“ข้ามาจากดาวเคราะห์ชั้นสูงและมีน้ำอมฤตหลายชนิด แค่เพียงกินเม็ดยาวิญญาณเข้าไป พลังของข้าก็ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์แล้ว ส่วนระดับพลังของข้าก็มากกว่าเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ใช่คู่มือข้า”
เจียงซีเยวี่ยมีความมั่นใจมากตอนแรกนางมีพลังในระดับจิตราชันขั้นที่แปด แต่ตกลงไปอยู่ที่ขั้นสี่หลังได้รับบาดเจ็บ
แต่หลังจากได้กินโอสถนางก็ฟื้นคืนพลังกลับมาสู่จิตราชันขั้นที่หก
นางสะบัดข้อมือไปรอบๆโบกกระบี่ของนางเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอย่างดุเดือด
กระบี่ของนางกลายเป็นพระจันทร์สีเงินที่เปล่งแสงสว่างสดใสและเปล่งแสงอันทรงพลังซึ่งราวกับจะดักจับหลี่ฉิงเฟิง
เขารู้ว่าพลังของตนยังมิอาจเทียบเท่านางได้การจะล้มนางด้วยวิชากระบี่ดูเหมือนจะเป็นการยาก ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น
หลี่ฉิงเฟิงคิดว่าพลังของเขตแดนทั้งสามชนิดนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ฉิงเฟิงเพิ่งจะสังหารโม่อู๋เทียนและชิงความได้เปรียบจากการใช้เขตแดนพลังต่อให้เจียงซีเยวี่ยฟื้นฟูพลังกลับมาบางส่วนแล้ว เขาก็ยังมั่นใจว่ารับมือนางไหว
เขารู้ว่าการจะทำให้ตนเองไร้เทียมทานก็มีเพียงต้องสร้างศรัทธาในการทำลายศัตรูทั้งหมดที่กล้ายืนขวางทาง
หลี่ฉิงเฟิงยังคงต่อสู้กับเจียงซีเยวี่ยอย่างต่อเนื่องโดยใช้กระบวนท่าที่สี่ของกระบี่แสงสีทอง‘ไอกระบี่ขุนเขาสารี’ มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดโดยไม่มีใครยอมถอย
ในเวลาเดียวกันเพื่อจบการต่อสู้ให้เร็วขึ้น หลี่ฉิงเฟิงก็ใช้เขตแดนพายุและเปิดฝาน้ำเต้าทองคำเพื่อยิงพลังงานทองคำไปยังเจียงซีเยวี่ย
เจียงซีเยวี่ยสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังของน้ำเต้าทองคำนางไม่กล้าทำตัวบุ่มบ่ามและนำอุปกรณ์วิญญาณออกมารับมือ
มันเป็นขวดวิเศษที่สามารถต้านทานลำแสงจากน้ำเต้าสีทองได้
จำเป็นต้องพูดว่าในฐานะยอดฝีมือรุ่นเยาว์จากดาวเคราะห์เยวี่ย เจียงซีเยวี่ยนั้นเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย
หลี่ฉิงเฟิงยังไม่ท้อแท้เมื่อได้เห็นพลังของน้ำเต้าทองคำไร้ผลต่อนางเพราะเขาก็ยังมีสมบัติวิเศษอีกหลายชิ้น
คราวนี้หลี่ฉิงเฟิงจริงหยิบเจดีย์มรกตออกมาแทน
โดยปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยใช้สมบัติชิ้นนี้แต่คราวนี้แตกต่างกันเขาเสียเวลาที่นี่ไปมากเกินไปแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้เจดีย์มรกตเพื่อจัดการกับเจียงซีเยวี่ยโดยด่วน แม้ว่ามันจะเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยความสามารถ
“สรรพชีวิตล้วนเท่าเทียมเขตแดนยับยั้ง !” เขากระซิบแผ่วเบาหลังจากหยิบเจดีย์ออกมา
เจดีย์มรกตยิงลำแสงสีเขียวสองสายออกไปปกคลุมทั่วร่างเจียงซีเยวี่ยและตนเองให้อยู่ภายในนั้น
ภายใต้แสงสีเขียวนี้ระดับพลังของนางจะถูกลดลงจนอยู่ในขอบเขตจิตราชันขั้นที่สี่เท่ากับหลี่ฉิงเฟิง
เจดีย์มรกตนี้สามารถทำให้ระดับการบ่มเพาะของทั้งสองฝ่ายอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ใช้ตราบใดที่สองฝ่ายระดับพลังไม่ต่างกันเกินสามขั้น
นอกจากนี้หลี่ฉิงเฟิงก็ไร้เทียนทานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตพลังเดียวกันในขอบเขตนี้ไม่มีใครสามารถล้มเขาได้ !
เมื่อเตรียมการเสร็จสรรพหลี่ฉิงเฟิงเก็บกระบี่แสงสีทองและน้ำเต้าทองคำกลับไป เขาตัดสินใจจะใช้พลังกายล้มเจียงซีเยวี่ย “ฮ่าห์!“
ชายหนุ่มคำรามลั่นพลันปะทุพลังแท้เหวี่ยงกำปั้นขวาออกมาก่อเกิดเป็นกำปั้นขนาดยักษ์ที่ทุบเข้าหาอีกฝ่าย
เจียงซีเยวี่ยตกตะลึงภายใต้แสงสว่างของเจดีย์มรกต พลังของนางถูกจำกัดจริงๆซึ่งทำให้นางค่อนข้างกระวนกระวายมาก
“เจดีย์เล็กๆสีเขียวในมือของหลี่ฉิงเฟิงคือสมบัติอะไร เหตุใดถึงได้ทรงพลังเยี่ยงนี้ ?!”
เมื่อเห็นว่ากำปั้นของอีกฝ่ายกำลังพุ่งเข้าหาเจียงซีเยวี่ยพลันพุ่งไปข้างหน้าและแทงกระบี่ยาวออกไป
นางต้องการที่จะป้องกันการโจมตีด้วยกระบี่ของนาง
กระบี่ยาวนี้เป็นสมบัติที่ทรงพลังดังนั้นนางคิดว่ามันจะสามารถสร้างบาดแผลบนกำปั้นของหลี่ฉิงเฟิงหรือไม่ก็สามารถสะบั้นมันให้ขาดได้ แต่ทว่าสิ่งที่เจียงซีเยวี่ยไม่ทราบก็คือหากอยู่ในระดับพลังที่เท่ากัน อาวุธที่อันตรายที่สุดของหลี่ฉิงเฟิงก็คือร่างกายที่อยู่ยงคงกระพันของเขา !
เปรี้ยง!!
กำปั้นของหลี่ฉิงเฟิงทุบเข้าใส่กระบี่ยาวของเจียงซีเยวี่ยอย่างจังจนมันโค้งงอไปข้างหลัง จนเกือบจะถึงจุดที่มันเกือบจะแทงตัวของนางเอง