My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1225 รู้สึกเสียใจ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1225 รู้สึกเสียใจ
ตอนที่ 1225 รู้สึกเสียใจ
หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อหลินเสวี่ยเอ่ยปากขอให้เขาออกจากห้องไป
เมื่อได้เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของหลี่ฉิงเฟิงสีหน้าของหลินเสวี่ยก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นเดียวกัน เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากภายใน
เสวี่ยน้อยเธอ
จะขอให้สามีเธอเองออกไปจากห้องของเราได้อย่างไร
เขาเป็นคนที่รักเธอมากที่สุดและผ่านอะไรมามากมายทำทั้งหมดก็เพื่อช่วยชีวิตเธอมิใช่หรือ
หลินเสวี่ยรู้สึกผิดและและเจ็บปวดกับสิ่งที่เธอทำลงไป
เธอรู้ดีว่าคำพูดของเธอทำร้ายจิตใจสามี
เธอไม่อยากทำร้ายเขาแต่เธอก็ยังไม่สบายใจกับความทรงจำที่เพิ่งตื่นจากช่วงชีวิตก่อนหน้านี้
“ที่รักขอโทษนะ ตอนที่ขอให้คุณออกจากห้องไปฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉัน…อดไม่ได้จริงๆ” หลินเสวี่ยผุดลุกขึ้นและกล่าวขอโทษ
“ไม่เป็นไรงั้นคุณพักผ่อนเถอะ ผมจะออกไปดื่มชา” หลี่ฉิงเฟิงปลอบใจหลินเสวี่ยก็จะเดินออกจากห้องไป
เขารู้ว่าหลินเสวี่ยต้องการพักผ่อนเงียบๆ
………
ในห้องนั่งเล่นชั้นล่างหลี่ฉิงเฟิง ลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้านั่งอยู่ด้วยกัน
สำหรับคนอื่นๆเขาขอให้คนเหล่านั้นอยู่ข้างนอกเพื่อที่พวกเขาจะไม่ได้ยินการสนทนานี้
หลี่ฉิงเฟิงรู้ว่าลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในฐานะสุนัขและงูตัวแรกในโลก พวกมันรู้หลายสิ่งหลายอย่างและสามารถหาสาเหตุของพฤติกรรมแปลกๆของหลินเสวี่ยได้
“เจ้าหมานับตั้งแต่ที่แกอยู่กับหลินเสวี่ยมาระยะหนึ่ง แกพบว่าพฤติกรรมของเธอเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม หลี่ฉิงเฟิงเอ่ยปากถามลูกหมาสีดำ
มันเคยอาศัยอยู่ในบ้านของหลี่ฉิงเฟิงมาก่อนและเคยเห็นหลินเสวี่ยหลายครั้งเธอก็เคยทำอาหารให้มันกินและเป็นที่ชื่นชอบของมันมาก
ลูกหมาสีดำขมวดคิ้วและตอบว่า“เมื่อก่อนหลินเสวี่ยนับว่าเป็นผู้หญิงธรรมดาสำหรับฉัน แต่ตอนนี้เธอกลับให้ความรู้สึกแปลกๆและดูเก่าแก่แก่ฉันมาก ฉันยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายวิถีแห่งสวรรค์ในตัวของเธอด้วย”
หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของลูกหมาสีดำเขาคิดว่ามีเพียงตนเองเท่านั้นที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวหลินเสวี่ย แต่คาดไม่ถึงว่าลูกหมาสีดำก็จะสัมผัสได้เช่นกัน
“เจ้าหมาแล้วแกคิดว่าหลินเสวี่ยตอนนี้เป็นคนๆเดียวกับเมื่อก่อนหรือไม่ ฉันหมายถึง…..ก่อนที่เธอจะหมดสติไป”
หลี่ฉิงเฟิงถามด้วยความกังวลใจ
หากให้พูดจากใจจริงเขากลัวมากถึงการเปลี่ยนแปลงภายในของหลินเสวี่ย เขารับไม่ได้ถ้ามันเป็นเรื่องจริง
ลูกหมาสีดำพยักหน้าและกล่าวตอบว่า“แน่นอนว่าเธอก็ยังคงเป็นหลินเสวี่ยที่พวกเรารู้จัก แต่เป็นไปได้ที่เธอจะฟื้นพลังบางอย่างหรืออาจจะฟื้นความทรงจำในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ ไม่ก็เธออาจจะปลุกสายเลือดขึ้นมา ฉันเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกันเช่นนี้”
หลี่ฉิงเฟิงตกใจกับคำพูดของลูกหมาสีดำไม่น้อยเขารู้ว่าในอดีตนั้นลูกหมาสีดำก็เป็นเพียงสัตว์อสูรพูดได้ธรรมดาๆ
แต่ด้วยความทรงจำที่ฟื้นคืนกลับมาทำให้มันก็ฟื้นคืนบุคลิกในฐานะสุนัขตัวแรกของโลกและมีความสามารถพิเศษรวมไปถึงถึงเทคนิคการต่อสู้ที่สืบทอดมาจากสายเลือด ดังนั้นการที่จู่ๆลูกหมาสีดำมีพลังมากขึ้นก็สืบเนื่องจากเทคนิคการต่อสู้และพลังพิเศษเหล่านั้นนั่นเอง
ในบรรดาคนทั้งหมดในกลุ่มหลี่ฉิงเฟิงมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่น่าจะเอาชนะลูกหมาสีดำในตอนนี้ได้ คนๆอื่นไม่มีใครทำอะไรมันได้เลย
เป็นไปได้ไหมที่หลินเสวี่ยได้ฟื้นความทรงจำในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้
หลี่ฉิงเฟิงเดาว่าการที่หลินเสวี่ยเปลี่ยนไปก็เพราะเธอได้ปลุกบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาซึ่งก็น่าจะเป็นความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ
เขารู้ว่าชีวิตที่แล้วของเธอต้องไม่ธรรมดาสามัญแน่นอน
เขาจำได้ว่าปู่ของเขาเคยขอร้องให้เขาแต่งงานกับหลินเสวี่ยให้ได้ทันทีที่เขากลับมาอีกทั้งยังบอกมากกว่าหนึ่งครั้งว่า ผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยโอกาสที่ไร้ขอบเขต ในเวลานั้นหลี่ฉิงเฟิงไม่เข้าใจความคิดและแผนการของปู่เขาเลยเนื่องจากว่าตระกูลหลี่ในเมืองหลวงจิงนั้นเต็มไปด้วยทรัพย์สินหลายแสนล้าน มีทั้งอำนาจบารมีและอิทธิพลมากมาย
ส่วนหลินเสวี่ยเป็นเพียงประธานบริษัทในเมืองตงไห่และมีทรัพย์สินแค่หลักล้านร้อยเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมปู่ของเขาจึงยืนกรานหนักแน่นว่าให้เขาแต่งงานกับเธอให้จงได้”
แต่ณ ตอนนี้ เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าหลินเสวี่ยต้องเคยมีชีวิตและภูมิที่ไม่ธรรมดาอย่างที่ใครๆเข้าใจ
ปู่ของเขาชอบศึกษาเรื่องตรีโกณมิติทั้งแปดจักรวาลวิทยาและองค์ประกอบทั้งห้า เขาจึงมีความรอบรู้มากมายเกี่ยวกับความลึกลับของโลก
ปู่ของเขาได้ฝึกฝนคัมภีร์ผู้พยากรณ์กระดูก,ซานไห่เจียง, ภาษาพิภพโบราณ, คัมภีร์ทางพุทธศาสนาและคัมภีร์เต๋า
ในระยะเวลาอันสั้นปู่ของเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับยุคโบราณและสามารถมองเห็นอดีต-ปัจจุบันและอนาคตของโลกใบนี้ได้
หลี่ฉิงเฟิงถอนหายใจอย่างเงียบงันถ้าหากหลินเสวี่ยได้ปลุกความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ขึ้นมา เช่นนั้นแล้วก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นใครมาก่อน
บางทีเธออาจจะกลับชาติมาเกิดจากเซียนหรือตัวตนระดับอมตะซึ่งตัวตนระดับนั้นเป็นอะไรที่เขามิอาจเทียบเคียงได้เลย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหลินเสวี่ยเป็นเซียนที่กลับชาติมาเกิด
หลี่ฉิงเฟิงรู้ดีว่าคนๆหนึ่งจะได้รับอิทธิพลจากความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขาฟื้นความทรงจำขึ้นมา
เมื่อเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปบนใบหน้าของหลี่ฉิงเฟิงลูกหมาสีดำก็พูดขึ้นมาว่า
“นายไม่ต้องกังวลไปให้มากนักหรอกนายเป็นผู้ที่ฟ้าลิขิตไว้และจะขึ้นเป็นจักรพรรดิฟ้าแน่นอน ดังนั้นแม้หลินเสวี่ยจะเคยเป็นอะไรมาก่อนในชีวิตที่แล้วก็ตาม ต่อให้เป็นขั้นเซียน นายก็ยังจะมีพลังอำนาจมากกว่าเธออยู่ดี”
หลี่ฉิงเฟิงพยักหน้าและรู้สึกโล่งใจกับคำพูดของลูกหมาสีดำ
ใช่แล้วฉันคือผู้ที่ถูกลิขิตไว้และวันหนึ่งฉันอาจจะกลายเป็นจักรพรรดิฟ้าได้ ถึงตอนนั้นฉันจะไม่ดีพอสำหรับหลินเสวี่ยได้อย่างไร
!
ในตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะมีพลังอำนาจ
เขาสาบานว่าจะใช้ความพยายามมากขึ้นในการฝึกฝนเพื่อขึ้นเป็นจักรพรรดิฟ้าให้จงได้จากนั้นหลินเสวี่ยก็จะกลายเป็นจักรพรรดินีฟ้าและปกครองจักรวาลทั้งหมดร่วมกันกับเขา
งูกลืนฟ้าเงียบไปนานแต่ตอนนี้มันกล่าวแทรกด้วยเสียงต่ำว่า“แล้วนายเคยคิดไหมว่าถ้าหากหลินเสวี่ยเคยเป็นเซียนที่กลับชาติมาเกิดจริงๆ เธอจะต้องมีศัตรูที่ทรงพลังอำนาจมาก นี่คืออธิบายเกี่ยวกับคำสาปมรณะที่เธอต้องเผชิญได้พอดีเลย เนื่องจากมันเป็นคำสาปที่มีได้เพียงผู้ฝึกตนระดับเซียนขึ้นไป”
คำพูดของงูกลืนฟ้าทำให้ทั้งหลี่ฉิงเฟิงและลูกหมาสีดำก้มหน้าลง
เขาเห็นด้วยกับคำอธิบายของมันเพราะมีเพียงตัวตนระดับเซียนเท่านั้นที่สามารถปลูกฝังคำสาปมรณะไว้ในร่างหลินเสวี่ยได้
และนั่นย่อมหมายความว่าศัตรูคู่แค้นของหลินเสวี่ยก็คือเซียน!
จากนั้นเขาสามารถสรุปได้ว่าอย่างน้อยๆหลินเสวี่ยน่าจะเคยมีพลังพอๆกับเซียนในอดีต มิฉะนั้นเธอคงไม่ถูกตัวตนระดับนี้โจมตี
หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มบางแสงเย็นเยียบกระพริบผ่านในดวงตาของเขา กล่าวว่า
“ไม่ว่าเซียนผู้นั้นจะเป็นใครมันนับเป็นศัตรูของฉันเช่นกัน ในเมื่อมันกล้าที่จะฝังคำสาปมรณะใส่หลินเสวี่ย ฉันก็จะตัดหัวมันและเอามาเตะเล่นเป็นลูกบอล !” ทั้งลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าสั่นสะท้านไปกับคำพูดสังหารของหลี่ฉิงเฟิง
พวกมันมีความรู้สึกว่าคนที่ปลูกคำสาปมรณะบนร่างหลินเสวี่ยจะต้องตายอย่างน่าอนาถในอนาคตแน่นอน….
กริ๊ง……..!
ในขณะนี้เองโทรศัพท์มือถือของหลี่ฉิงเฟิงก็ดังขึ้นเขาหยิบมันออกมาและเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากหลิวเจียวเจียว
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลิวเจียวเจียวเป็นน้องสาวของหลิวหรูหยาน เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงโทรหาเขาในเวลานี้
“เจียวเจียวมีเรื่องอะไรหรือ” หลี่ฉิงเฟิงแตะปุ่มรับสายและถามขึ้น
จากอีกด้านหนึ่งของสายโทรศัพท์เขาได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายของหลินเจียวเจียวว่า
“พี่เขยพี่สาวของฉันและลูกน้อยของเธอหมดสติไปแล้ว คุณต้องมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ !” น้ำเสียงของหลิวเจียวเจียวฟังดูตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูก