My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1226 หลิวหรูหยานตกอยู่ในสภาพโคม่า
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1226 หลิวหรูหยานตกอยู่ในสภาพโคม่า
ตอนที่ 1226 หลิวหรูหยานตกอยู่ในสภาพโคม่า
ว่าไงนะ! หรูหยานกับทารกหมดสติไป !
สีหน้าของหลี่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความกังวลต่อคำพูดของหลิวเจียวเจียว
นับตั้งแต่ที่เขากลับมาถึงเมืองตงไห่เขาง่วนอยู่กับการช่วยชีวิตหลินเสวี่ยจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปเยี่ยมหลิวหรูหยานกับลูกเลย
แต่ตอนนี้เขายิ่งกังวลมากขึ้นเมื่อได้ทราบข่าวร้ายว่าจู่ๆทั้งคู่ก็หมดสติไป
“เจียวเจียวแล้วเธอไม่พาหรูหยานไปหาหมอหรือไง ”
หลี่ฉิงเฟิงถามด้วยความร้อนรน
หลิวเจียวเจียวตอบว่า“พี่เขย หนูตามหมอมาแล้วแต่หมอก็ยังหาวิธีรักษาไม่ได้”
“พวกงี่เง่าเอ้ย!”
หลี่ฉิงเฟิงสบถออกมาอย่างไม่พอใจ เขาสูดหายใจลึกแล้วตอบกลับไปว่า“เธออยู่ที่นั่นล่ะ ฉันจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้”
พูดจบเขาก็รีบมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลพร้อมกับลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้า
สำหรับคนอื่นๆในบ้านหลี่ฉิงเฟิงขอให้คอยปกป้องหลินเสวี่ยต่อไป
ด้วยความเป็นห่วงหลิวหรูหยานเขาจึงรีบไปที่โรงพยาบาลโดยเร็ว
ที่ทางเข้าโรงพยาบาลมีฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อรออยู่หลี่ฉิงเฟิงเคยขอให้พวกเธอทั้งสองคอยปกป้องหลิวหรูหยานเอาไว้
“พี่หลี่คุณกลับมาแล้ว” เมื่อได้เห็นหน้าหลี่ฉิงเฟิงอีกครั้ง ร่องรอยแห่งความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามของฮวาเซียนจือ
หลี่ฉิงเฟิงเพียงแค่พยักหน้าให้เธอถ้าเป็นครั้งอื่นและเวลาอื่นเขาคงจะหยุดสนทนากับเธอเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เขาไม่อยู่ในอารมณ์นั้นเพราะหลิวหรูหยานยังคงไม่ได้สติ
เขาพยักหน้าให้ผู้หญิงทั้งสองก่อนที่จะเข้าไปในโรงพยาบาล
จากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงวอร์ดที่หลิวหรูหยานนอนอยู่
ภายในห้องทั้งหลิวหรูหยานและทารกต่างก็นอนอยู่บนเตียงด้วยอาการโคม่า
ใบหน้าของพวกเธอซีดขาวและหัวใจเต้นอ่อนมากแทบจะไม่เต้นแล้วก็ว่าได้
อีกทั้งชีพจรของพวกเธอก็อ่อนแอมากจนยากที่จะรู้สึก
หลิวเจียวเจียวกำลังใช้ผ้าซับน้ำอุ่นเช็ดบนใบหน้าของพี่สาวเธอด้วยความเป็นห่วงส่วนรอบๆเตียงเต็มไปด้วยหมอหลายคนที่กำลังตรวจดูอาการของหลิวหรูหยานด้วยเครื่องมือสมัยใหม่แทบทุกชนิด
แต่ทว่าพวกเขาก็ยังไม่สามารถระบุอาการป่วยของเธอได้ หลิวหรูหยานไม่ได้มีอาการหัวใจวาย, โรคหัวใจและหลอดเลือดหรือแม้แต่ปัญหาโรคทางสมอง เธออยู่ในอาการโคม่าโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ ถึงแม้บรรดาทีมแพทย์จะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดแต่ก็ยังไม่พบอะไรเลย
“พวกคุณทุกคนออกไปก่อน”
หลี่ฉิงเฟิงบอกกับทีมแพทย์และพยาบาล
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาทีมแพทย์ก็หันหน้ามาและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “คุณเป็นใคร ผมเป็นแพทย์เจ้าของไข้ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม”
“ผมเป็นแฟนของหลิวหรูหยาน”
หลี่ฉิงเฟิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
แฟน
บรรดาแพทย์ที่ให้การรักษาต่างพากันส่ายหัวและพูดเสียงดังว่า“ถึงแม้คุณจะเป็นแฟนของเธอแต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ขอให้พวกผมออกไป เธอเป็นคนไข้ของผม หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในระหว่างที่ผมไม่อยู่จะทำอย่างไร คุณไม่ใช่หมอนี่ คุณรู้วิธีการรักษาโรคหรือไงครับ ?“
หลี่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วสายตาของเขาเริ่มปรากฏอาการไม่พอใจและไม่อยากเสียเวลาพร่ำเพ้ออีกแล้ว
บรรดาหมอที่นี่ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาพูดกับเขาเรื่องการรักษาโรค
หมอพวกนี้ไม่รู้หรือไงว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นหมอเทวะในหัวเซี่ย แม้แต่ประธานสมาคมการแพทย์ของหัวเซี่ยก็ยังไม่ได้ขี้เล็บเขา ไม่ต้องพูดถึงพวกหมอนี้เลย
เห็นได้ชัดว่าทุกคนในที่นี้ต่างก็ไม่รู้ตัวตนของเขา
“งั้นพวกคุณให้การรักษาเธอมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ทำไมป่านนี้เธอยังไม่ถึงฟื้น ? เห็นชัดๆว่าพวกคุณไร้น้ำยาและความสามารถ พอกันที ออกไปจากวอร์ดได้แล้ว”
หลี่ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
เขาไม่พอใจมากที่จนป่านนี้แล้วหลิวหรูหยานกับลูกน้อยยังไม่ได้สติ
เขาค่อนข้างหงุดหงิดและต้องการระบายความอึดอัดใจกับใครบางคนแพทย์ที่เข้ามาให้การรักษายื้ออยู่นานก็ยังไม่ให้ความร่วมมือ
“คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร ผมเป็นหมอประจำที่นี่และลุงของผมก็เป็นรองประธานของโรงพยาบาลนี้ คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้ามาสั่งให้ผมออกไป ?“
หมอคนนี้ทำตัวเสมือนเป็นราชาของโรงพยาบาลเพียงเพราะลุงของเขาเป็นรองประธาน
หลี่ฉิงเฟิงหรี่ตาและเดินตรงไปหาหมอคนนั้นและตบหน้าเขาทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นบวมเป่งและมีรอยนิ้วมือสีแดงห้ารอยปรากฏขึ้น
หมอที่ดูภูมิฐานสง่างามเมื่อครู่นี้กลับกลายเป็นเหมือนหัวหมูในพริบตา
ผู้คนโดยรอบต่างก็ตกตะลึงที่ได้เห็นพวกเขาไม่คาดคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงจะก้าวร้าวมากถึงขนาดกล้าที่จะลงมือกับหมอในโรงพยาบาล นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย !
หลี่ฉิงเฟิงยังคงไม่หายโกรธหลังจากการตบหน้าหมอคนนั้นเขาทั้งเตะอีกฝ่ายให้ออกจากวอร์ดไป
เขาจำเป็นต้องให้การรักษาหลิวหรูหยานโดยด่วนซึ่งทีมแพทย์ก็เอาแต่ขวางทางเขา
เมื่อได้เห็นความดุร้ายของหลี่ฉิงเฟิงพยาบาลก็หน้าขาวซีดและรีบออกจากวอร์ดไปเพราะกลัวว่าหลี่ฉิงเฟิงจะตบและเตะพวกเธอด้วย
พยาบาลเหล่านี้ต่างก็เป็นสาวสวยทุกคนถ้าหากพวกเธอถูกทำร้ายจนเสียโฉมแล้วจะหาสามีได้อย่างไร
ภายในพริบตาแพทย์และพยาบาลทั้งหมดก็ออกจากห้องไปและมีเพียงหลี่ฉิงเฟิงกับคนของเขาเท่านั้นที่ยังคงอยู่
เขาหันหน้าไปถามหลิวเจียวเจียวว่า“เจียวเจียว บอกฉันทีว่าเกิดขึ้นอะไรกับหรูหยาน เธอหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่และนานแค่ไหนแล้ว ก่อนที่เธอจะหมดสติได้มีอาการแปลกๆอะไรหรือเปล่า ” หลิวเจียวเจียวตอบว่า
“พี่หมดสติไปเมื่อวานนี้และพวกหมอใช้เวลาทั้งวันเพื่อพยายามหาสาเหตุแต่สุดท้ายก็ไม่พบอะไรเธอตื่นขึ้นมาอยู่สองครั้งและตะโกนคล้ายคนละเมอว่า “ข้าคือผู้อมตะ !” และยังมีเรื่องอื่นๆที่หนูไม่เข้าใจเช่นวรยุทธ์, เคล็ดวิชากระบี่นางฟ้า รวมไปถึงเรื่องไร้สาระอื่นๆพวกนี้”
เมื่อรู้สึกถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์หลิวเจียวเจียวจึงไม่ลังเลและบอกหลี่ฉิงเฟิงในทุกสิ่งที่เธอรู้
ตัวตนอมตะเคล็ดวิชากระบี่นางฟ้า ?
สีหน้าของหลี่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงหลังจากได้ยินเรื่องราวเหล่านี้
เขารู้ว่าคำศัพท์เหล่านี้มีความหมายต่อผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเท่านั้นแม้แต่ผู้ฝึกตนทั่วไปก็ใช่ว่าจะเจ้าใจได้
สำหรับเคล็ดวิชากระบี่นางฟ้ามีเพียงผู้ที่เป็นอมตะเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้แม้แต่หลี่ฉิงเฟิงที่เป็นยอดฝีมือในขอบเขตจิตราชันก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะฝึกฝน
เป็นไปได้ไหมว่าเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับหลินเสวี่ยหลิวหรูหยานก็ปลุกความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้และเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ที่กลับชาติมาเกิดที่เป็นตัวตนระดับอมตะเช่นกัน
หลี่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและจมอยู่ในภวังค์
กล่าวจากใจจริงเขาเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน ยามที่มีสิ่งแปลกประหลาดปรากฏขึ้นทั่วโลก, วัตถุโบราณจากยุคโบราณเริ่มแสดงตัวตน ทำนองเดียวกันกับจำนวนผู้ฝึกตนฝั่งตะวันออกและตะวันตกที่เริ่มปรากฏตัวขึ้นบนโลกอย่างไม่มีมีปี่มีขลุ่ย
หากตัวตนในตำนานและเทพนิยายมีอยู่จริงเช่นนั้นการกลับชาติมาเกิดของผู้เป็นอมตะและสัตว์อสูรเทวะก็ย่อมมีอยู่จริงเช่นกัน
ยกตัวอย่างใกล้เคียงกับหลี่ฉิงเฟิงลูกหมาสีดำก็เป็นการกลับชาติมาเกิดของสุนัขตัวแรกในโลก ในขณะที่งูกลืนฟ้าก็เป็นการกลับชาติมาเกิดของงูตัวแรก
ทั้งหมดนี้กำลังเป็นการบอกใบ้ต่อเขาว่าหลิวหรูหยานก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นเดียวกัน!