My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 503
ตอนที่ 503 นายท่าน…ถ้าคุณต้องการคุณทำกับชั้นก็ได้นะ..
แปล Tarhai
ใบหน้าของนักบวชชราดูกระอักกระอ่วนโดยไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของซวนเหมียวอย่างไร เขาอับอายแทนลูกศิษย์ของตัวเองที่ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ว่าการมีเซ็กส์คืออะไร
อืม..ไม่ใช่สิ เรื่องนี้ควรจะตำหนิที่ตัวข้าเอง ข้าควรจะให้เขาดูหนังโป๊ญี่ปุ่นบ้าง
(นักบวชบางศาสนาหรือพระในบางศาสนาสามารถยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ได้นะครับอย่าคิดว่าเสื่อม)
นักบวชชราตัดบทด้วยการโบกมือให้ซวนเหมียวเป็นสัญญาณนัยๆว่า “เจ้าไม่ต้องถามอีกต่อไป ข้าจะไม่ตอบคำถามเจ้า”
เขาต้องรักษาภาพพจน์ที่เคร่งครึมสำรวมต่อหน้าซวนเหมียว เขาไม่อาจทำลายชื่อเสียงของตัวเองได้
ซวนเหมียวมองไปที่อาจารย์ของเขาและการเป็นพูดไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ที่เคารพของเขาถึงไม่อยากตอบคำถามของเขา ทั้งๆที่โดยปกติแล้วอาจารย์จะต้องทุกคำถาม
“ฉิงเฟิง เจ้าจงอย่าลืมว่าต้องมีเซ็กส์กับสตรีให้บ่อยครั้ง แล้วปราณสังหารของเจ้าก็จะบรรเทาลง” นักบวชชรากล่าวอย่างจริงจัง
ฉิงเฟิงเอามือลูบหน้าของและรู้สึกพูดไม่ออก เขารู้ว่าเขาปราณสังหารกับสุขภาพร่างกายของเขานั้นเกี่ยวโยงกันและได้รับผลกระทบจากสิ่งนั้น แต่ว่าการจะให้เขามีเซ็กส์กับผู้หญิงบ่อยๆไม่ใช่ว่าจะทำให้เขากลายเป็นพวกล่าแต้มจากผู้หญิงหรอกหรือ ?
“ท่านเจ้าอาวาส มีทางแก้ไขที่ดีกว่าการเชือดหญิงหรือไม่ ?” ฉิงเฟิงถาม
นักบวชชรายังคงส่ายหน้าของเขาด้วยใบหน้าที่แดงอยู่ “ไม่มีทางอื่นแล้ว”
ฉิงเฟิงกลอกตาและรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขาต้องมีต้องมีเซ็กส์ แต่เขาควรจะทำกับใครละ ? หลินเสวี่ยได้รับบาดเจ็บอยู่ตัดเธอออกไปได้เลย อลิซดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่ดีแต่เธอก็ไปปฏิบัติภารกิจที่อื่น ดังนั้นตอนนี้ตัวเลือกเหลือเพียงหลิวหรูหยานเสียแล้ว
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของท่าน ผมจะลองกลับไปคิดดูเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ฉิงเฟิงแสดงความเคารพ หันหลังกลับและออกจากวัดพร้อมกับเหมียวซิยี้
“ฮี่ๆ บอสครับ คุณควรจะคิดถึงคำแนะนำจากอาจารย์ของผมเสียหน่อยนะครับ”
ลู่ซวนจี๋กล่าวขณะที่เดินลงจากเขาพร้อมกับฉิงเฟิง เขาหัวเราะคิกคัก มีเพียงคนที่สนิทกับฉิงเฟิงเช่นเขาถึงกล้าหยอกล้อเล่นหัวเขาเช่นนี้ โดยปกติแล้วไม่มีใครกล้า
ฉิงเฟิงเหยียดขาขวาออกมาและเตะลู่ซวนจี๋เขากล่าวว่า “ไปไกลเลย นายคิดว่าบอสของนายเป็นโจรล่าสวาทรึไง ?”
“แน่นอนว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้นครับบอส คุณเป็นคนที่แข็งแกร่งและเฉลียวฉลาดที่ซู้ดดด”
“หึ ดีที่นายรู้”
“ไม่ต้องกังวลครับบอส แม้แต่คนฉลาดที่สุดก็ยังทำผิดพลาดได้ เอาเลยครับ ! ไปเชือดสาวๆเลย ผมสาบานว่าผมจะไม่บอกหลินเสวี่ยและพี่สะใภ้หรูหยาน” ลู่ซวนจี๋พูดอย่างชาญฉลาดและไม่อาจหยุดขำได้
โดยปกติบอสมักจะแซวเขาเป็นประจำ ในเมื่อตอนนี้เป็นโอกาสของเขาแล้ว แน่นอนว่าลู่ซวนจี๋ต้องไม่ยอมพลาด
และเมื่อลู่ซวนจี๋เห็นฉิงเฟิงขยับขาเตรียมจะเตะเขาอีกครั้ง ลู่ซวนจี๋ก็รีบขยับตัวหลบ
“นายท่าน ถ้าคุณมีความต้องการ คุณทำกับชั้นก็ได้นะคะ” เหมียวซิยี้พูดออกมาทันที
ใบหน้าที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเหมียวซิยี้เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีหลังจากพูดคำนี้ออกมา หัวใจของเธอเต้นรัว ถึงแม้ว่าหลี่ฉิงเฟิงจะเป็นเจ้านายของเธอ แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกเอียงอายหากจะต้องมีอะไรกับเขา
ใบหน้าของลู่ซวนจี๋สว่างขึ้น เขารีบเดินเข้าไปใกล้ฉิงเฟิงและพูดด้วยเสียงต่ำว่า
“บอสครับ คุณลองคิดดูไหม เหมียวซิยี้เป็นถึงนักบุญแห่งเหมียวเจียงเชียวนา การได้ขึ้นค่อมเธอต้องทำให้รู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์แน่นอน !”
ฉิงเฟิงกลอกตาและกล่าวอย่างเย็นชาว่า
“นายไป f * ck ตัวเองไป บอสของนายเป็นคนดี !”
ลู่ซวนจี๋เบ้ปากและชูนิ้วกลางให้ด้วยท่าทางกวนประสาท เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉิงเฟิงดี เมื่อตอนที่อยู่ต่างประเทศ เขาคือหายนะของผู้หญิงสาวสวยหลายต่อหลายคน
อย่างไรก็ตาม จะเรียกว่าความหายนะก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เนื่องจากสาวงามเหล่านั้นทุกคนต่างก็เต็มใจและชอบฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงเหลือบมองเหมียวซิยี้ มันจะเป็นการโกหกหากจะพูดว่าเขาไม่ได้สงสัยในตัวเธอเพราะเธอคือสาวงามในระดับเดียวกับหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยาน แต่เขาก็ยังคงนึกถึงหัวอกของหลินเสวี่ยที่รออยู่ที่บ้าน
“ซิยี้ ฉันเป็นเจ้านายของเธอ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับเธอหรอก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ความรู้สึกผิดหวังได้แสดงออกบนใบหน้าของเหมียวซิยี้ หลังจากเธอได้ยินคำพูดของฉิงเฟิง แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นมัน
ลู่ซวนจี๋จากไปหลังจากส่งฉิงเฟิงลงเขา ก่อนที่เขาจะจากไปเขายังคงกล่าวเตือนให้ฉิงเฟิงปลดปล่อยปราณสังหารในร่างของเขาออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายในอนาคต
ฉิงเฟิงกล่าวอำลากับลู่ซวนจี๋แล้วพาเหมียวซิยี้กลับไปที่เมืองทะเลตะวันออก
ฉิงเฟิงชะงักและรู้สึกว่าเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ตอนนี้เหมียวซิยี้เป็นสาวใช้ของเขาเพราะอิทธิพลจากพลังของเนตรแห่งราชันหมาป่า และเห็นได้ชัดว่าเธอจะตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง คำถามคือ……. จะให้เธอไปอยู่ที่ไหน ??
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเป็นปมและเริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพาเหมียวซิยี้เดินดุ่ยๆเข้าบ้านหลินเสวี่ยเพราะเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้หลินเสวี่ยเข้าใจได้อย่างไร หากจะให้เหมียวซิยี้ไปอยู่กับหรูหยาน เรื่องนี้ก็ยิ่งไม่เข้าท่า เพราะหรูหยานจะต้องหึงหวงแน่นอน
โอ้ใช่สิ ! เจ้าคิงคองไง !
ดวงตาฉิงเฟิงสว่างวาบด้วยการคิดออก มันความคิดที่ดีที่จะให้เหมียวซิยี้ไปอาศัยอยู่กับคิงคองที่พันธมิตรฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคิงคองในทันที อย่างไรตาม มันเป็นเวลานานพอสมควรกว่าที่คิงคองจะรับสาย
แค่ก แค่ก !
คิงคองเริ่มไอออกมาทันทีที่รับสาย
“คิงคอง นายได้รับบาดเจ็บหรือ?” ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและถามทางโทรศัพท์
เขาได้ยินเสียงไอของคิงคองผ่านทางสายโทรศัพท์และรู้สึกว่าลมหายใจของเขาอ่อนแอมาก บวกกับการที่คิงคองใช้เวลานานกว่าจะรับสาย เขาจึงบอกได้ว่าคิงคองกำลังได้รับบาดเจ็บ มิฉะนั้นเขาคงไม่ไอหนักขนาดนี้
“ผมสบายดีครับท่านปู่หลี่ แค่บาดเจ็บเล็กน้อย”
“เกิดอะไรขึ้นกับนาย ใครทำร้ายนาย ?”
“ท่านปู่หลี่ เขาคือเสือดำครับ (Black Panther)
(หวังว่าคงไม่ใช่ฝ่าบาททีชาล่าหรอกนะ…)”
คิงคองไอออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
เสือดำ ?
ฉิงเฟิงขมวดคิ้ว, ประกายวูบวาบปรากฏในสายตาของเขา เคยได้ยินเกี่ยวกับเสือดำมาก่อน เขาคือหนึ่งในสี่ทรราชย์ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของจังหวัดหูเจียง
มีทรราชย์ทั้งหมดสี่คนในพื้นที่ภาคตะวันออกของจังหวัดหูเจียง คนเหล่านั้นมี เสือนภา, เสือดำ, หมาป่าตาเดียวและสุนัขคลั่ง อย่างไรก็ตาม เสือนภาถูกฉิงเฟิงฆ่าไปแล้ว เขาไม่คิดว่าเสือดำจะปรากฏตัวขึ้นมาอีก
“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนคิงคอง เดี๋ยวฉันไปหา” ฉิงเฟิงถาม
เขารู้ว่าคิงคองได้รับบาดเจ็บและต้องการการรักษา นอกเหนือจากการรักษาคิงคองแล้ว เขายังต้องทำการตรวจสอบสาเหตุที่เสือดำทำร้ายคิงคองอีกด้วย เนื่องจากคิงคองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเสือดำเลย
“ท่านปู่หลี่ ผมอยู่ที่ฐานใหญ่ของพันธมิตรฉิงเฟิง โลนฮิลวิลล่าครับ” คิงคองตอบ น้ำเสียงของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาอ่อนแออย่างมาก
“รอฉันก่อน ฉันจะไปถึงที่นั่นเร็ว ๆ นี้” ฉิงเฟิงวางหูโทรศัพท์ทันทีที่พูดเสร็จ เขาโบกรถแท็กซี่และมุ่งหน้าไปยังโลนฮิลพร้อมกับเหมียวซิยี้
พวกเขามาถึงโลนฮิลโดยใช้เวลาไม่นาน มันเคยเป็นภูเขาที่แห้งแล้งและกันดาร สิ่งที่ทำให้มันพิเศษขึ้นในตอนนี้ก็คือคิงคองเริ่มสร้างเป็นฐานทัพหลังจากได้รับการยินยอมจากฉิงเฟิง คิงคองจึงจัดตั้งสำนักงานใหญ่ของพันธมิตรฉิงเฟิงที่นี่
มีวิลล่าห้าหลังในโลนฮิล มีเพียงเฉพาะสมาชิกที่สำคัญของพันธมิตรฉิงเฟิงเท่านั้นที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ วิลล่าเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีดำ ที่ประตูมีสิงโตที่ทำจากหินสีขาวเพื่อแสดงถึงความสง่าผ่าเผย