My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 535
“หลิวหมิง ฉันสามารถรักษาเสี่ยวเหมยได้ ส่วนนาย นายกำลังจะทำให้เธอมีอันตรายจากความไม่รู้จริง แถมนายยังพยายามทำตัวให้ดูเหมือนว่านายกำลังจะหาทางช่วยเธออยู่ !” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มขณะที่มองเขาอย่างดูหมิ่น
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่เคยเข้าโรงพยาบาลและไม่ได้หมอในโรงพยาบาลจริงๆแต่เขาก็มั่นใจในตัวเองว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอของการเป็นหมอในโรงพยาบาล
ตามหลักแล้วเด็กจบใหม่เช่นหลิวหมิง มีเพียงหน้าที่เดียวในโรงพยาบาลก็คือหมอฝึกหัด ซึ่งเป็นคนที่ต้องทำงานเป็นลูกมือหมอเพื่อเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ไปก่อน
อย่างไรก็ตาม หลิวหมิงกลับได้กลายเป็นหมอหลักของหวังเสี่ยวเหมยทั้งๆที่เพิ่งเรียนจบและเข้าทำงานในโรงพยาบาล เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตำแหน่งนี้มีผ่านเส้นสายแน่นอน
“หลิวหมิง ฉันสงสัยว่าใครเป็นคนมอบตำแหน่งหมอหลักให้นาย ?”
“นี่ไม่ใช่เรื่องคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรู้”
“เหอะ ถ้าฉันเดาไม่ผิด การที่นายได้เป็นหมอก็เป็นเพราะเส้นสายของนายใช่ไหม ? เพราะฉันคิดว่านายไม่มีคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญพอที่จะเป็นหลักไปได้”
หลิวหมิงสะดุ้งโหยงที่ฉิงเฟิงคาดเดาได้ถูกต้อง เขาได้ตำแหน่งนี้มาโดยการจ่ายใต้โต๊ะ มิฉะนั้นแล้วเด็กจบใหม่แบบเขาไม่มีทางได้ตำแหน่งไวขนาดนี้แน่นอน
“คุณหลี่ฉิงเฟิง เรื่องนี้ค่อยพูดกันทีหลัง ผมขอถามคุณหน่อย คุณมั่นใจหรือว่าคุณรักษาหวังเสี่ยวเหมยได้ ?”
ฉิงเฟิงพยักหน้าและตอบว่า “แน่นอนฉันทำได้”
อุ๊บ ! ฮ่าๆๆ
หลิวหมิงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า “หวังเสี่ยวเหมยเป็นโรคมะเร็ง คุณสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อย่างไรกัน ? คุณมันขี้โม้นัก ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะกล้าพูดออกมา”
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “หลิวหมิง ฉันบอกนายไปแล้วไงว่าหวังเสี่ยวเหมยไม่ได้เป็นโรคมะเร็งดูเหมือนว่านายจะยังไม่เชื่อฉัน แต่ไม่เป็นไร, ฉันจะทำให้นายหุบปากหลังจากฉันรักษาเธอเสร็จ”
ฉิงเฟิงไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับหลิวหมิงอีก เขาเดินไปหาหวังเสี่ยวเหมยและกล่าวว่า
“เสี่ยวเหมย ฉันจะรักษาให้เธอด้วยการฝังเข็ม เธอไว้ใจฉันไหม ?”
“อื้อ ฉันไว้ใจพี่ใหญ่หลี่” หวังเสี่ยวเหมยพยักหน้า
หวังเสี่ยวเหมยรู้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่เชื่อถือได้ยามที่เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและเห็นแววตาที่จริงใจ ผู้ชายคนนี้รักษาคำพูดของเขาเสมอ เช่นเดียวกับการที่เขาบอกว่าเขาจะชนะการแข่งขันวัตถุโบราณ
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ …
ฉิงเฟิงหยิบเข็มเก้าเล่มออกมาและปักลงในจุดทั้งเก้าของหวังเสี่ยวเหมยอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดเก้าจุดนี้เป็นจุดที่ช่วยกระตุ้นเลือดและขจัดภาวะเลือดอุดตัน
อาการป่วยของหวังเสี่ยวเหมยคือเนื้องอกในมดลูก (hysteromyoma) ซึ่งเป็นฟองอากาศขนาดใหญ่ที่เกิดจากภาวะเลือดอุดตัน ฟองอากาศนี้จะต้องถูกเจาะเพื่อให้เลือดไหลสะดวกและเนื้องอกจะได้ถูกล้างออกไป
การรักษาอาการป่วยนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีการผ่าตัดตามแบบแพทย์แผนตะวันตกได้เช่นกัน แพทย์จะผ่าเปิดร่างกายและตัดเนื้องอกที่ติดอยู่ภายในออก
เข็มเริ่มขยับทันทีที่ฉิงเฟิงปักพวกมันไว้บนร่างกายของหวังเสี่ยวเหมย ซึ่งมันทำให้ร่างกายของเธอเริ่มสั่น
ในไม่ช้า เนื้องอกก็หลุดออกไปเนื่องจากเลือดเสียถูกขับออกมาจากร่างกายของหวังเสี่ยวเหมยหมดแล้ว
ฉิงเฟิงทำความสะอาดรอยเลือดด้วยผ้าเช็ดและถ่ายพลังฉีเล็กน้อยเข้าไปในร่างกายของเธอผ่านทางปลายเข็มฉีดพลังจนใบหน้าของหวังเสี่ยวเหมยเริ่มมีสีเลือด
“เสี่ยวเหมยตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” ฉิงเฟิงถาม
หวังเสี่ยวเหมยพยักหน้าและกล่าวว่า “พี่ใหญ่หลี่ ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก ! ตอนนี้ร่างกายของฉันเต็มไปด้วยพลังงานและฉันก็รู้สึกว่าตัวเบาหวิวเลย !”
หลังจากนั้นหวังเสี่ยวเหมยก็ลุกออกจากเตียงและเดินไปรอบห้อง
เมื่อไม่นานมานี้เธอยังคงนอนอยู่บนเตียงและแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย แต่ตอนนี้เธอลุกออกจากเตียงและเดินไปเดินมารอบห้องได้แล้ว
“พี่ใหญ่หลี่ ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือพี่สาวของฉัน !” หวังเสี่ยวลี่เดินไปหาฉิงเฟิงและคำนับขอบคุณเขาด้วยความซาบซึ้ง
ก่อนหน้านี้เธอเรียกเขาว่า หลี่ฉิงเฟิง แต่ตอนนี้เธอเริ่มเรียกเขาว่าพี่ใหญ่หลี่เหมือนกับพี่สาว เพื่อแสดงออกถึงความเคารพในตัวเขา
ฉิงเฟิงโบกมือให้เธอด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “เสี่ยวเหมยถือเป็นเพื่อนของฉัน การได้ช่วยเธอถือเป็นความสุข”
หลังจากหวังเสี่ยวลี่ขอบคุณฉิงเฟิงเสร็จแล้วเธอก็หันไปมองหลิวหมิงและกล่าวว่า
“คุณหมอหลิว ไม่สิ คุณมันหมอเก๊ ! คุณวินิจฉัยอาการผิดๆให้กับพี่สาวของฉันและบอกว่าเธอเป็นโรคมะเร็ง ฉันจะเขียนข่าวรายงานการกระทำของคุณ !”
หลิวหมิงตกใจในทันที เขาดูเหมือนจะมีความมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วเขามักจะโดดเรียนสมัยเป็นนักศึกษาจนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย
หลิวหมิงรู้ว่าปริญญาของเขาเป็นของปลอมและเขาก็แทบจะไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการรักษาเลย ถ้าหากหวังเสี่ยวลี่รายงานเคสของเขา เขาจบสิ้นแน่ เขาไม่เพียงแต่จะถูกไล่ออก เขาก็จะต้องเสียเครดิตในวงการแพทย์ไปตลอดอีกด้วย
“หวังเสี่ยวลี่, ผมจะบอกคุณไว้ คุณควรจะปิดปากให้สนิทเสียดีกว่า เรื่องนี้มันมีผลกระทบต่อผม !” หลิวหมิงข่มขู่อย่างก้าวร้าว
นี่คุณกำลังขู่ชั้น ?
หวังเสี่ยวลี่โกรธมากจนตัวสั่น หลิวหมิงไม่เพียงแค่ไม่ขอโทษต่อความผิดพลาดของเขา แต่เขายังข่มขู่เธออีกด้วย ชายคนนี้แทบจะฆ่าพี่สาวของเธอทางอ้อมด้วยการวินิจฉัยโรคอย่างมั่วซั่ว
หวังเสี่ยวลี่เป็นนักข่าว เธอไม่มีทางกลัวต่อการข่มขู่ของเขา
ไม่หวาดหวั่นต่อความเจ็บปวด,ความเหนื่อยล้าและความตาย คือลักษณะของคนที่เป็นนักข่าว
“หลิวหมิง ชั้นไม่กลัวคำขู่ของคุณหรอก ชั้นจะไปกระจายความลับที่น่ารังเกียจทุกอย่างของคุณให้หมด !” หวังเสี่ยวลี่กล่าวอย่างเย็นชาด้วยความเกรี้ยวกราด
ใบหน้าของหลิวหมิงเปลี่ยนไป เขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่สนใจคำขู่ของเขา
ตึก ตึก ตึก !
หลิวหมิงก้าวเท้าหนักๆจนเสียงดังขณะที่เดินตรงเข้าหาหวังเสี่ยวลี่ราวกับกำลังจะลงโทษเธอ เขาเคยผ่านเรื่องชกต่อยมามากมายตอนที่เขาเป็นนักศึกษา ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกไล่ออก
“คุณจะทำอะไร คุณต้องการอะไร !?” หวังเสี่ยวลี่ตกใจเมื่อเธอเห็นหลิวหมิงกำลังเข้ามาใกล้เธอ
“ผมต้องการอะไร ? ผมจะตบคุณไง ! ผมจะตบคุณจนกว่าคุณจะรับปากว่าไม่รายงานเรื่องของผม !” หลิวหมิงเดินไปหาหวังเสี่ยวลี่และยกมือขึ้นเตรียมจะตบหน้าเธอ
ว้าย !
หวังเสี่ยวลี่หลับตาและกรีดร้องออกมาขณะที่เธอเห็นใบหน้าน่ากลัวที่น่าขนลุกของหลิวหมิงและมือของเขาที่กำลังจะตบหน้าของเธอ
เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆธรรมดา เธอจะไปสู้กับผู้ชายอย่างหลิวหมิงได้อย่างไร ?
หมับ !
ทันใดนั้นฉิงเฟิงก็จับมือของหลิวหมิงไว้ได้อย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างดุร้ายว่า
“นาย หน้าตัวเมีย ! นายกล้าทำร้ายผู้หญิงงั้นเหรอ ?”