My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 540
“ลูกพี่พวกเราไม่มีเงินถึง 200,000 หยวนหรอก…” อันธพาลกล่าวอย่างหวาดกลัว
ตอนนี้เขาหวาดกลัวฉิงเฟิงมาก ชายคนนี้แข็งแรงเกินไป เขาไม่ใช่คู่มือของชายคนนี้
“นายไม่มีเงินงั้นหรือ? ดี งั้นฉันจะหักขาทั้ง 2 ข้างของนายซะ นายจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็น” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหนาวเย็น
“ลูกพี่ ได้โปรดอย่าหักขาผมเลย ผมจะจ่ายๆ” อันธพาลพูดอย่างหวาดกลัว เขารู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้พูดล้อเล่น ถ้าเขาไม่จ่ายขาเขาต้องหักแน่
นักเลงเอาเงินทั้งหมดที่เขามีออกมาแต่เขามีเพียงไม่กี่พันหยวน จากนั้นเขาจึงไปเอาเงินที่สาวผมทอง เธอมีทั้งหมด 10000 หยวน แต่ก็ยังขาดอีก
“ลูกพี่ พวกเรามีแค่ประมาณ 10000 กว่าหยวนเท่านั้นเองครับ” นักเลงกล่าวด้วยความหวาดกลัวและยื่นเงินให้ฉิงเฟิง
“ฉันกำลังจะหักขาทั้งสองขาของนาย แต่ในเมื่อนายมีหมื่นหยวนงั้นฉันจะหักแค่ข้างเดียวก็แล้วกัน” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาเตะอย่างโหดเหี้ยมไปที่ขานักเลง
กร๊อบ !
นักเลงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่ขาหัก จากนั้นเขาก็สลบไปจากความเจ็บปวด ผู้หญิงผมทองแข็งค้างไปด้วยความกลัว เธอหวาดกลัวจนแทบจะสิ้นสติ
ฉิงเฟิงคว้าเงินหมื่นหยวน จากนั้นเขาก็เดินออกจากโรงแรมพร้อมกับหลินเสวี่ยและซูหยุนชาง
ความจริงแล้วฉิงเฟิงมีเงินมหาศาล เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเงินแค่หมื่นหยวน อย่างไรก็ตาม เขาต้องการมอบบทเรียนที่โหดร้ายให้คนประเภทนี้ เพราะพวกเขาพยายามจะรีดไถซูหยุนชางที่เขาเคารพ
“ฉิงเฟิง เรื่องในวันนี้ต้องขอบคุณเธอมาก ถ้าเธอมาไม่ทันชื่อเสียงของฉันคงจะย่อยยับ” ซูหยุนชางกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
ถึงแม้ว่าซูหยุนชางจะแก่แล้ว แต่เขาก็ยังคงสติดี เขารู้ว่าอันธพาลพวกนี้ไม่เพียงแค่จะรีดไถเงินเท่านั้น แต่พวกเขาอาจจะแบล็คเมล์เพื่อทำลายชื่อเสียงของซูหยุนชางในภายหลังอีกด้วย
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานซู คนเหล่านี้เป็นพวกสวะสังคม คราวหน้าเมื่อคุณพักในโรงแรมต้องคอยระวังด้วยนะ”
ซูหยุนชางพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เขาจะไม่โทรตามเบอร์ที่หลังนามบัตรมั่วซั่วอีก
พวกฉิงเฟิงขึ้นรถแล้วขับรถกลับเมืองทะเลตะวันออก
พวกเขากลับถึงเวลาสองทุ่ม
เมืองทะเลตะวันออกคึกคักไปด้วยกิจกรรมในยามค่ำคืน เหล่าคนเที่ยวกลางคืนเริ่มออกมาหาเรื่องสนุกและท่องเที่ยวกัน
ฉิงเฟิงขับรถไปส่งที่บ้านของซูหยุนชางก่อน จากนั้นก็กลับไปที่Noble Palace พร้อมกับหลินเสวี่ย
เพราะมันมืดแล้วและหลินเสวี่ยก็ไม่อยากออกไปหาอะไรทานข้างนอก ดังนั้นฉิงเฟิงจึงเข้าครัวทำก๋วยเตี๋ยวผัดให้เธอ
“ฉิงเฟิง ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณบริษัทเราคงจะถูกหลิวเฟยเหยียนทำลายชื่อเสียงไปแล้ว” หลินเสวี่ยกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
“คุณเป็นภรรยาของฉัน การช่วยเหลือคุณมันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเสวี่ยยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิง
พวกเขาใช้เวลาตลอดทั้งวันเดินทางไปมาระหว่างสองเมือง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเพลีย หลังจากกินข้าวเสร็จหลินเสวี่ยก็ขึ้นไปนอนที่ห้องชั้นบน
ฉิงเฟิงล้างจานและทำความสะอาด จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาที่ชั้นแรก
ในห้องนอนชั้นแรกของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงเปิดคอมพิวเตอร์และเข้าสู่ห้องแชทลึกลับ ปรากฏหัวหมาป่าตัวใหญ่ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นใบหน้าที่งดงามของอลิซปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“อลิซ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ” ฉิงเฟิงกล่าวหลังจากทำการเชื่อมต่อวีดีโอคอลกับอลิซได้แล้ว
“บอสคะ, เดี๋ยวนี้บอสไม่ค่อยติดต่อหาฉันเลยนะตั้งแต่ที่บอสแต่งงานแล้ว บอสลืมฉันแล้วใช่ปะ ?” อลิซกล่าวอย่างขมขื่นขณะที่กระพริบตา
ฉิงเฟิงกลอกตาและไม่รู้จะพูดอะไร เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชอบเขามาก แต่เขาก็ไม่สามารถแต่งงานหรืออยู่กับเธอได้
“อลิซ เมื่อเร็วๆนี้ตระกูลเป่ยถูกทำลายล้าง เธอรู้มั้ยว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ?”
ฉิงเฟิงพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“บอสคะ ฉันก็ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่รู้มาว่าเฮลคิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่อง เขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งมาก จากการประเมินของฉันอย่างน้อยเขาต้องอยู่ใน SSS เกือบสูงสุด”
“แล้วเธอพอจะเดาได้ไหมว่าเฮลคิงคนนี้เป็นใคร ?”
“ฉันต้องขอโทษด้วยคะบอส เฮลคิงผู้นี้เป็นคนลึกลับมากที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา เราไม่สามารถหาเบาะแสถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาได้เลย” อลิซกล่าว
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของทีมเขี้ยวหมาป่ามีประสิทธิภาพมาก แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนของเฮลคิงได้ คนผู้นี้ช่างลึกลับและแข็งแกร่งมากนัก
ฉิงเฟิงจมลงสู่ความเงียบ เรื่องราวมันซับซ้อนมากขึ้นถ้าแม้แต่มันสมองในทีมของเขายังไม่สามารถรู้ตัวตนของเฮลคิงได้
ถึงแม้ว่าศัตรูก่อนๆนี้ของเขาจะเคี้ยวยาก แต่เขาก็สามารถที่จะระบุตัวตนของคนพวกนั้นได้เสมอจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรับมือ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถระบุตัวตนของเฮลคิงได้เลย
“บอสคะ ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าใครคือเฮลคิง แต่เราก็ได้ข่าวมาว่ามีราชันอีกผู้หนึ่งกำลังวางแผนจะสร้างปัญหาให้บอส” อลิซกล่าวด้วยความกังวล
“คิงคนไหน ?”
“เขาคือราชันเหยี่ยวแห่งทวีปอเมริกา เขาเป็นเพื่อนสนิทกับราชันคิง เขาจึงจะแก้แค้นให้เพื่อน”
“หมอนั่นเองหรือ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม้แต่ราชันเสือยังไม่ใช่คู่มือของฉัน ดังนั้นราชันเหยี่ยวก็ไม่เท่าไรหรอก” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ
แต่การแสดงออกของอลิซกลายเป็นจริงจังมากขึ้นเมื่อเธอเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของฉิงเฟิง
“บอสคะ บอสต้องระวังให้มาก จากข้อมูลของเราที่ได้รับแจ้งมา ดูเหมือนว่าราชันเหยี่ยวจะได้รับยาทางพันธุกรรมบางอย่างมาไว้ในมือ มันเป็นยาโคลนนิ่งที่จะทำให้เขาโคลนร่างกายของตัวเองออกมาได้” อลิซกล่าวด้วยความกังวล
ถ้ามีเพียงราชันเหยี่ยวคนเดียวอลิซก็จะไม่กังวลแน่นอนเพราะเธอมั่นใจในตัวของฉิงเฟิง แต่ครั้งนี้มันอาจจะเป็นราชันเหยี่ยวหลายคน !
ในวงการโลกใต้ดิน มีนักสู้บางคนอาศัยพลังจากแหล่งภายนอกเช่นยาโด๊บหรือยาชูกำลังบางประเภทเพื่อช่วยในการปรับปรุงสภาพร่างกายและได้รับพลังที่แข็งแกร่งเพิ่ม
ยาเหล่านี้หาได้ยากมากและมักจะอยู่ในครอบครองของกลุ่มกองกำลังลึกลับ เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าราชันเหยี่ยวจะได้มันมาในมือ
ฉิงเฟิงมีสีหน้าจริงจังมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของอลิซ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับยาตัดแต่งพันธุกรรมเหล่านี้มาก่อน จากความเข้าใจของเขามันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้มันและมีเพียงกองกำลังที่ทรงพลังที่แท้จริงเท่านั้นที่จะเข้าถึงมันได้
แม้แต่ฉิงเฟิงที่เป็นถึงราชันแห่งทวีปแอฟริกาก็ยังไม่สามารถเข้าถึงยาตัดแต่งทางพันธุกรรมพวกนี้ได้เลย นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความหายากของยาพวกนี้
ส่วนเรื่องราชันเหยี่ยวนั้น ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในราชันทั้ง 7 บนโลก
“อลิซ จับตามองราชันเหยี่ยวไว้ให้ดีและแจ้งให้ฉันรู้เกี่ยวกับทุกความเคลื่อนไหวของเขาด้วย” ฉิงเฟิงกล่าว
การที่เขาต้องคอยระวังราชันเหยี่ยวไม่ใช่เพราะฉิงเฟิงกลัว แต่เขากลัวว่าราชันเหยี่ยวจะลอบสังหารหลินเสวี่ย
อลิซพยักหน้ารับภารกิจจากฉิงเฟิงแต่ในขณะที่เธอกำลังจะปิดวิดีโอคอลฉิงเฟิงก็กล่าวว่า “รอเดี๋ยว”
“มีอะไรคะบอส ?” อลิซถาม
ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “นอกเหนือจากราชันเหยี่ยวแล้ว ให้ลองพยายามค้นหาตัวตนของเฮลคิงด้วยนะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบหมอนี่ยังไงก็ไม่รู้”
“โอเคค่าบอส คิดถึงนะ” อลิซกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะปิดวิดีโอคอลไป
จากนั้นฉิงเฟิงก็ขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างกระสับกระส่าย เขานอนไม่หลับและรู้สึกได้ว่าภยันตรายกำลังย่างกรายเข้ามาหาเขาและคนรอบตัว