My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 542

“ฉันจะหาบอดี้การ์ดที่เหมาะสมให้คุณเอง” ฉิงเฟิงกล่าว

เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นเขาไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป เขาเรียกหาเหมียวซิยี้และขอให้เธอมาที่วิลล่าของเขา

เหมียวซิยี้มาถึงวิลล่าอย่างรวดเร็วเมื่อเธอได้ยินการเรียกของฉิงเฟิง

ฉิงเฟิงเปิดประตูเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะ เขาเปิดประตูและเห็นเหมียวซิยี้ยืนอยู่ที่ประตูพร้อมด้วยแส้หนังของเธอ เธอดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหล

“นายท่าน เรียกหาดิฉันทำไมคะ ?” เหมียวซิยี้ถาม

ฉิงเฟิงชี้ไปที่หลินเสวี่ยและกล่าวว่า “เธอเป็นภรรยาของฉัน ต่อไปนี้เธอมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของเธอ เข้าใจไหม ?”

“ได้ค่ะนายท่าน” เหมียวซิยี้พยักหน้า จากนั้นเธอก็เดินไปหาหลินเสวี่ย

หลินเสวี่ยกลายเป็นตื่นตัวเมื่อเธอเห็นความงดงามของเหมียวซิยี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินเหมียวซิยี้เรียกขานฉิงเฟิงว่า ‘นายท่าน’

อย่างไรก็ตามเธอทำได้เพียงข่มความรู้สึกที่ไม่สบายของเธอไว้ในใจ เพราะเหมียวซิยี้มาที่นี่ก็เพื่อปกป้องเธอ

ฉิงเฟิงเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเห็นเหมียวซิยี้อยู่เคียงข้างหลินเสวี่ย ฉิงเฟิงค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของเหมียวซิยี้ ทุกคนที่อยู่ระดับต่ำกว่าราชันไม่มีใครเป็นคู่มือของเหมียวซิยี้ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะต้องรับมือกับราชันก็ตาม เธอก็ยังพอจะรับมือได้

ฉิงเฟิงขับรถพาหลินเสวี่ยและเหมียวซิยี้ไปทำงาน ระหว่างเดินทางฉิงเฟิงได้อธิบายถึงกิจวัตรประจำวันของหลินเสวี่ยให้เหมียวซิยี้ฟัง

หลินเสวี่ยได้พนันกับหลินหรูยานไว้ว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในหัวเซี่ยภายในหนึ่งปี ผู้แพ้จะต้องไม่มาเจอฉิงเฟิงอีกต่อไป เพื่อที่จะเอาชนะหลิวหรูหยาน หลินเสวี่ยจึงต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ เธอหมกมุ่นอยู่กับการทำงานหลังจากที่เธอมาถึงออฟฟิศ ส่วนฉิงเฟิงก็พาเหมียวซิยี้ไปเดินดูรอบๆออฟฟิศเพื่อให้เธอชำนาญพื้นที่และปกป้องหลินเสวี่ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลังจากที่เหมียวซิยี้ทำความคุ้นเคยกับออฟฟิศแล้วฉิงเฟิงก็บอกให้เธออยู่รอบๆออฟฟิศของหลินเสวี่ย จากนั้นเขาก็กลับไปที่แผนกขาย

บริษัทกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีหลายบริษัทที่ให้ความร่วมมือกับบริษัท Ice Snow เครื่องประดับที่ผลิตออกมาถูกนำไปขายทั่วทั้งจักหวัดหูเจียงและแม้กระทั่งจังหวัดอื่นๆอีกด้วย

ฉิงเฟิงถือเอกสารไว้ในมือ มันเป็นเอกสารแฟกซ์จากบริษัทเชิงฉิงในเมืองเทียนจิง พวกเขาต้องการสั่งซื้อของอัญมณีมูลค่าหลายร้อยล้านหยวน

พวกเขายังระบุมาอีกด้วยว่าต้องการให้หลี่ฉิงเฟิงไปที่บริษัทเชิงฉิงด้วยตนเองเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้

ฉิงเฟิงรู้สึกงงงวย เขาไม่ได้รู้จักใครในบริษัทเชิงฉิงเลย ถ้าหากคำสั่งซื้อนี้มาจากบริษัทฟินิกซ์ก็ยังพอเป็นที่เข้าใจได้ง่ายกว่า เนื่องจากตอนนี้เป่ยเหยียนจื่อซึ่งเป็นเพื่อนของเขาได้กลับมาเป็นซีอีโอที่บริษัทฟินิกซ์อีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบริษัทเชิงฉิงในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย

ฉิงเฟิงยังได้พบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทเชิงฉิงจากทางโลกออนไลน์ เขารู้สึกอึ้งหลังจากรู้ว่าบริษัทนี้เป็นหนึ่งในบริษัทท็อบ 10 ของประเทศจีน บริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว ภาพยนตร์ ซึ่งมีมูลค่านับพันล้านหยวน

เทียนจิงเป็นเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศจีน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเมืองหลวงที่มีความสำคัญมากทางภาคเหนือ มันเป็นเมืองที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและมีความทันสมัยมาก มีมหาเศรษฐีหลายคนอาศัยอยู่ในเมืองนี้

เทียนจิงเป็นเมืองนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมากอาศัยอยู่ในเมืองเทียนจิง ที่เมืองเทียนจิงคุณสามารถเห็นคนหลายเชื้อชาติจากทั่วทุกมุมโลก

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉิงเฟิงรู้สึกไม่อาจสงบใจได้เมื่อเขาได้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเชิงฉิง เขารู้สึกโดยธรรมชาติว่าบริษัทนี้มาไม่ดีแน่

ฉิงเฟิงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเทียนจิงตลอดทั้งช่วงเช้า

เมื่อถึงเวลากินข้าวเที่ยงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น มันเป็นสายจากหลิวหรูหยาน

“หรูหยานมีเรื่องอะไรหรือ ?” ฉิงเฟิงถาม

“ชั้นอยากจะเปิดบริษัทยาจีน คุณแวะมาดูหน่อยได้ไหมคะ” หลิวหรูหยานกล่าว

ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ได้สิ เดี๋ยวฉันไปหา”

ฉิงเฟิงขอลาครึ่งวันกับจางเสี่ยวเยวี่ย จากนั้นเขาก็ออกจากออฟฟิศและมุ่งหน้าไปยัง บริษัทหลิว

เมื่อเขามาถึงเขาก็เห็นหลิวหรูหยานกำลังรอเขาอยู่ข้างนอก

หลิวหรูหยานสวมชุดสีขาวในวันนี้ เธอสวมชุดกระโปรงสีขาวหลวมๆเพราะมันให้ความรู้สึกสบายกว่าชุดสีแดงรัดรูปของเธอ

“นี่คุณน้ำหนักขึ้นหลังจากกินมากไปอีกแล้วเหรอ ?” ฉิงเฟิงถามหลิวหรูหยานด้วยรอยยิ้ม

ฉิงเฟิงค่อนข้างสับสน เมื่อก่อนหลิวหรูหยานเป็นผู้หญิงที่หุ่นดีและผอมเพรียวมาก แต่ช่วงนี้เธอน้ำหนักเพิ่มขึ้นตลอด แน่นอนว่าเธอยังคงงดงามเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะน้ำหนักเพิ่มขึ้นก็ตาม

“หยุดพูดเลย !” หลิวหรูหยานกล่าวขณะที่เธอหยิกข้อศอกของฉิงเฟิง

ผู้หญิงหลงใหลกับรูปลักษณ์ของพวกเธอ พวกเธอเกลียดมากเมื่อมีคนพูดว่าเธออ้วน

“ก็ได้ๆ คุณไม่ได้อ้วน คุณผอมเพรียวมาก” ฉิงเฟิงกล่าวชมเชยและคิดในใจว่า

“เฮ้อ… ผู้หญิงนี่นะไม่รู้เป็นโรคอะไรชอบฟังคำพูดโกหก แต่มักจะโกรธเวลาพูดความจริง”

“ฉิงเฟิง ชั้นจะลงทุน 500 ล้านหยวนในบริษัทยาจีนเพื่อที่จะแข่งขันกับหลินเสวี่ย”

การแสดงออกของฉิงเฟิงกลายเป็นขมขื่น

“หรูหยาน คุณจะญาติดีและอยู่อย่างสงบกับหลินเสวี่ยไม่ได้เลยหรือ ?” ฉิงเฟิงถามอย่างมีความหวัง

หลินหรูหยานส่ายหัวและพูดว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเราไม่สามารถญาติดีกันได้ ผู้หญิงทุกคนมักจะเห็นแก่ตัว ไม่มีใครอยากแบ่งปันผู้ชายของเธอให้กับผู้หญิงคนอื่น”

ฉิงเฟิงรู้สึกปวดหัวเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหรูหยาน ผู้หญิงสองคนนี้เป็นศัตรูกันตามธรรมชาติ พวกเธอมักจะสู้กันทุกที่ทุกเวลาเมื่อพวกเธอพบหน้ากัน แม้แต่ไม่เจอหน้ากันพวกเธอก็ยังจะสู้กัน (ตอน 1200+ จะรู้ว่าทำไมสองคนนี้เกลียดขี้หน้ากันขนาดนี้)

ฉิงเฟิงเป็นคนกลางระหว่างผู้หญิงทั้งสองคนนี้ มันไม่ได้เป็นความรู้สึกที่ดีเลยเพราะเขาชอบทั้งสองคน

เฮ้อ…… น่าปวดหัวแท้

“หรูหยาน, แล้วทำไมคุณถึงเลือกที่จะเปิดบริษัทยาจีน?” ฉิงเฟิงถาม

สังคมสมัยใหม่ในยุคนี้ผู้คนจำนวนมากเชื่อและเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากแพทย์แผนตะวันตก มีคนจำนวนไม่มากนักที่ไปหาหมอจีน

หลิวหรูหยานยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า “ยาแผนตะวันตกมีการแข่งขันที่สูงเกินไป มันถูกควบคุมโดยบริษัทใหญ่ๆ ที่ชั้นเลือกทำธุรกิจยาจีนเพราะคู่แข่งน้อย การแข่งขันน้อย ถ้าชั้นประสบความสำเร็จ ชั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในประเทศจีน”

ฉิงเฟิงพยักหน้าและเห็นด้วย ธุรกิจที่คู่แข่งน้อยการแข่งขันต่ำ มันถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีมาก

บริษัทหลิวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแพทย์แผนจีน บริษัทหลิวทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ เธอไม่ต้องการเลือกทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของเธอ เพราะไม่งั้นเธอจะได้รับอานิสงค์จากชื่อเสียงของตระกูล

หลิวหรูหยานเป็นผู้หญิงที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอเลือกทำธุรกิจที่ไม่คุ้นเคยและไม่ใช้เส้นสายของตระกูล เพื่อเอาชนะหลินเสวี่ยให้ได้อย่างหมดจด เพื่อให้หลินเสวี่ยตระหนักถึงความสามารถของเธอ และพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถยืนเคียงข้างหลี่ฉิงเฟิงได้

เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้พบกับศัตรูทางความรัก พวกเธอก็จะปลดปล่อยศักยภาพที่น่าทึ่งออกมา นี่เป็นเรื่องจริงระหว่างหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยาน