My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 544
ถึงแม้ว่าหลิวหรูหยานจะไม่มีความรู้เรื่องสมุนไพรจีนมากนัก แต่เธอก็เชื่อมั่นในตัวของฉิงเฟิง ถ้าฉิงเฟิงบอกว่ามันแพงไปก็ต้องเป็นไปตามนั้น
“ชั้นต้องการสมุนไพรเหล่านี้เป็นจำนวนมาก คุณลดราคามากกว่านี้ได้หรือเปล่า ?หลิวหรูหยานถาม
ชายหนุ่มขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณคนสวยครับ ผมก็อยากจะลดราคาให้อยู่ แต่ว่าราคานี้เป็นราคาที่ทางร้านตั้งไว้ ผมเป็นแค่ลูกจ้างผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงราคาได้”
เขาเป็นเพียงพนักงานขายที่ร้าน คนที่สามารถตัดสินใจได้ก็คือผู้จัดการร้านเท่านั้น
หลิวหรูหยานเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะเธอก็เป็นนักธุรกิจ เธอกล่าวว่า “เช่นนั้นรบกวนแจ้งผู้จัดการของคุณให้หน่อยได้ไหมคะ ? ชั้นจะคุยกับเขาเอง”
ชายหนุ่มพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องด้านหลัง จากนั้นชายวัยกลางคนร่างอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ชื่อชายอ้วนคนนี้คือซุนต้าไช่ เขาเป็นผู้จัดการร้าน
สวยอะไรขนาดนี้ !
แว๊บแรกที่ซุนต้าไช่ได้เห็นหลิวหรูหยานดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น เขาเป็นผู้จัดการที่นี่มาหลายปีและไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อน เธอเหมือนนางฟ้าที่เดินออกมาจากภาพวาด
“คุณคนสวย ผมได้ยินว่าคุณกำลังหาซื้อสมุนไพรจีนเหรอครับ ?” ซุนต้าไช่ถามหลิวหรูหยานด้วยรอยยิ้มกว้าง
หลิวหรูหยานพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ชั้นต้องการเมล็ดบัว น้ำผึ้ง ซานจาและซานาโกะในปริมาณมาก แต่ราคาของคุณแพงเกินไป คุณสามารถลดราคาให้ชั้นหน่อยได้ไหม ?”
ดวงตาของซุนต้าไช่เปล่งประกายขึ้นและเขาก็ตอบว่า “ได้อยู่แล้วครับ แต่คุณต้องสัญญากับผมบางอย่าง”
“เรื่อง ?” หลิวหรูหยานถามและขมวดคิ้ว
“ผมจะให้ราคาที่ถูกกว่านี้ถ้าคืนนี้คุณยอมออกไปทานข้าวกับผม” ซุนต้าไช่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซุนต้าไช่เป็นเจ้าอ้วนลามก เขามักจะรังแกลูกค้าผู้หญิงในร้านค้าเสมอ ลูกค้าหญิงบางคนยอมออกไปทานอาหารเย็นกับเขาและยอมให้เขาฉวยโอกาสเพื่อแลกกับส่วนลดพิเศษของสินค้าภายในร้าน
เนื่องจากการกระทำที่ผ่านมาของเขามักจะสำเร็จ ซุนต้าไช่จึงเหิมเกริมมากขึ้น เขามักจะพยายามหาฉวยโอกาสจากสาวงามที่เข้ามาในร้าน เขาจ้องหลิวหรูหยานตาเป็นมัน
อะไรนะ ? จะชวนแฟนฉันไปกินข้าว ?
ความโกรธของฉิงเฟิงปะทุขึ้น เขาตระหนักดีถึงเจตนาของซุนต้าไช่
“ซุนต้าไช่ เธอเป็นแฟนฉัน นายจะชวนเธอไปกินข้าว ?” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหนาวเย็น
ซุนต้าไช่เพิ่งจะสังเกตเห็นฉิงเฟิง เขาเหลือบมองฉิงเฟิงและพบว่าฉิงเฟิงแต่งกายสมถะมาก ฉิงเฟิงไม่ได้ดูเหมือนคนรวยหรือคนมีอำนาจ ดังนั้นซุนต้าไช่จึงกล่าวว่า “ถ้าคุณต้องการราคาที่ถูกกว่านี้ก็มีเพียงวิธีเดียวคือยอมให้แฟนของคุณไปกินข้าวเย็นกับผม ไม่งั้นผมจะไม่ลดราคาให้”
“ซุนต้าไช่ นายคิดว่านายเป็นใคร ?” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็นขณะที่เดินไปหาซุนต้าไช่
ในขณะนี้เขาโกรธมาก เขาตัดสินใจที่จะทุบตีซุนต้าไช่สักรอบหนึ่ง
“เฮ้ๆ สหาย ที่นี่คือถิ่นของฉัน ร้านของฉัน คุณคิดจะทำอะไร ?” ซุนต้าไช่กล่าวเสียงดังเมื่อเขาเห็นฉิงเฟิงกำลังเดินเข้ามาหา
“ฉันก็จะทุบตีนายไง ตัวบัดซบอย่างนายต้องฉวยโอกาสกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วนแล้ว วันนี้ฉันจะแก้แค้นให้พวกเธอเอง” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
สีหน้าของซุนต้าไช่เปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าฉิงเฟิงต้องการจะทุบตีเขา
“พ่อหนุ่ม ผมขอเตือนคุณก่อนนะ ที่นี่คือถิ่นของผม ถ้าคุณกล้าที่จะแตะต้องตัวผมวันนี้คุณจะไม่ได้ออกไปจากร้านนี้แน่” ซุนต้าไช่ขู่
เพ๊ยะ !
ฉิงเฟิงโบกมือเข้าหาใบหน้าของซุนต้าไช่ในทันที ใบหน้าของเขาบวมขึ้นฟันหลุดหลายซี่และมีเลือดกลบปาก
ฉิงเฟิงหนักมือด้วยความโกรธกริ้ว
“ไอ้ตัวบัดซบ ! แกกล้าทำร้ายฉัน ?” ซุนต้าไช่กล่าวด้วยความโกรธ
ฉิงเฟิงไม่ตอบ เขาเตะเข้าที่ท้องและขาของซุนต้าไช่จนกระเด็นออกไปหลายเมตรและล้มลงที่พื้น เขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ความวุ่นวายทำให้เกิดเสียงดังและดึงดูดความสนใจของทุกคนในร้าน ทุกคนมาชุมนุมกันรอบๆพวกเขาเพื่อเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์
ลูกค้าเหล่านี้ต่างก็มาจากเมืองอื่นๆหลายแห่งแตกต่างกันไป บางคนเป็นชาวเมืองทะเลตะวันออก บางคนก็มาจากเมืองอื่น พวกเขาทั้งหมดต่างก็ไม่ค่อยพอใจกับพฤติกรรมของซุนต้าไช่ที่มักจะฉวยโอกาสคุกคามลูกค้าหญิงหรือไม่ก็ขายแพงเกินราคา
อย่างไรก็ตาม ร้านนี้เป็นร้านค้าสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสมุนไพรแห่งนี้ ร้านนี้มีสินค้ามากมายและสมุนไพรบางชนิดที่ร้านอื่นไม่มี ลูกค้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมซื้อสมุนไพรจากร้านนี้
ลูกค้าโดยรอบต่างก็ชื่นชมความกล้าหาญของฉิงเฟิงในใจเมื่อพวกเขาเห็นฉิงเฟิงทุบตีซุนต้าไช่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็รู้สึกเป็นห่วงฉิงเฟิงเนื่องจากแถวนี้เป็นถิ่นของซุนต้าไช่
“ยาม ! ยาม ! หมอนี่มันกล้าทำร้ายฉัน เล่นมันเลย !” ซุนต้าไช่ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้าน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนรีบวิ่งเข้าไปหาฉิงเฟิงและล้อมรอบเขาไว้เมื่อได้ยินคำพูดของซุนต้าไช่
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นยามหลายสิบคนเดินเข้ามา พวกเขาสามารถทำนายชะตากรรมอันแสนเศร้าของชายหนุ่มได้ทันที
ชายฉกรรจ์หลายสิบคนกับชายหนุ่มเพียงคนเดียว ถึงแม้จะไม่ตายแต่เขาก็คงต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลสักสองสามเดือน
“ไอ้หนุ่มตอนนี้แกกลัวหรือยัง !? ถ้าแกยอมคุกเข่าขอขมาฉันและบอกให้แฟนของแกไปกินข้าวกับฉันคืนนี้ ฉันจะปล่อยแกไปแต่ฉันจะหักขาแกสักข้างหนึ่งก่อน” ซุนต้าไช่กล่าวเมื่อเขาเห็นฉิงเฟิงถูกล้อมรอบไปด้วยยามรักษาความปลอดภัยหลายสิบคน
“จะหักฉัน ? นายดูตัวเองให้ดีก่อนเถอะ นายอ้วนเป็นหมูแบบนี้ฉันอยากจะอ้วกเมื่อเห็นหน้านาย” ฉิงเฟิงกล่าวดูถูก
หมูอ้วน ? แกกล้าเรียกฉันว่าหมู !?
ซุนต้าไช่รู้สึกโกรธจนคลั่ง แม้ว่าเขาจะอ้วนจริงๆแต่เขาก็เกลียดมากเมื่อคนอื่นเรียกเขาว่าอ้วน
“ไป ! ไปหักขาไอ้หน้าหล่อนี่แม่งเลย !” ซุนต้าไช่กล่าวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“ครับ ผู้จัดการ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวตอบ พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากทางร้าน พวกเขาต้องปฏิบัติตามคำพูดของผู้จัดการ
ยามรักษาความปลอดภัยหลายสิบคนฟาดกระบองในมือเข้าหาฉิงเฟิงอย่างดุร้าย
สีหน้าของคนรอบข้างเต็มไปด้วยความสงสาร พวกเขาคิดว่าฉิงเฟิงคงจะน่วมในไม่ช้าอย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกสงสารฉิงเฟิงแต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากพวกเขาเป็นเพียงลูกค้าในร้าน พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยามรักษาความปลอดภัยที่ตัวสูงใหญ่และแข็งแรงเหล่านี้
“พวกนายกำลังหาเรื่องใส่ตัว” ดวงตาของฉิงเฟิงเป็นประกายอย่างเย็นชาขณะที่เขามองไปที่ยามรักษาความปลอดภัยหลายคนที่ฟาดกระบองเข้ามา
ร่างกายของฉิงเฟิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า ในชั่วพริบตาเขาก็มาอยู่ตรงหน้ายามคนแรก ท่ามกลางสายตาแห่งความตื่นตระหนกของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาคว้ากระบองจากมือของยามคนนั้นทันที