My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 550
เขาเป็นบาร์เทนเดอร์ที่มีประสบการณ์
หลิงเมิ่งเริ่มมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยเพราะเธอไม่ได้คาดคิดว่าเจียงเถาจะชงเหล้าเป็นจริงๆและอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน
เจียงเถายังคงเขย่าถ้วยไปทางซ้ายทีทางขวาที มันเร็วมากพอที่จะทิ้งภาพติดตาไว้ในอากาศได้
สามนาทีต่อมาเจียงเถาก็วางถ้วยลงบนโต๊ะและประกาศเสียงดังว่า
“โปรดลองดูมาร์ตินี่ค็อกเทลฝีมือผม”
หลิงเมิ่งและฝูงชนทั้งหมดต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาเห็นเพกาซัสสีขาวเชิดหัวขึ้นเล็กน้อยภายในถ้วย มันเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซที่น่าทึ่ง
“มีเพกาซัสอยู่ในค็อกเทล เป็นที่แน่นอนแล้วว่านี่คือมาร์ตินี่ค็อกเทล”
“เจียงเถาคนนี้ไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว เขาประสบความสำเร็จในการทำค็อกเทลที่ดีที่สุดในอันดับ 9 ของโลกได้อย่างไร?”
“อ่า……นั่นสิ ตอนแรกข้าคิดว่าหลิงเมิ่งน่าจะชนะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะแพ้”
ฝูงชนยังคงพูดคุยกันในขณะที่รู้สึกเห็นใจหลิงเมิ่ง พวกเขารู้ว่ามาร์ตินี่ค็อกเทลเป็นที่นิยมมากและยอดเยี่ยมกว่าค็อกเทลลูกศรกามเทพ เจียงเถาจะต้องเป็นผู้ชนะแน่นอนในการเดิมพันครั้งนี้
“มิสหลิงเมิ่ง คุณแพ้แล้ว” เจียงเถากล่าวในขณะที่มองหลิงเมิ่งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยตัณหา
ใบหน้าของหลิงเมิ่งกลายเป็นซีดเซียวเพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะแพ้ นอกจากนี้เธอยังแพ้การเดิมพนันที่ซูหลิวลี่รับคำไปแล้วเสียด้วย
ฉีหลางหัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “ซูหลิวลี่ บาร์เทนเดอร์ของเธอหลิงเมิ่งได้แพ้แล้ว เธอแพ้เดิมพันอีกด้วย ตอนนี้พวกเธอสองคนเป็นคนของข้าแล้ว !”
ซูหลิวลี่หน้าซีดและต้องการที่จะปฏิเสธ แต่เธอก็ทำไม่ได้เพราะเธอตกปากรับคำไปแล้ว มันสายเกินไปที่จะเปลี่ยนใจ
แต่เธอไม่กล้าที่จะไป Men’s Bar ของฉีหลางพร้อมกับหลิงเมิ่งด้วยเช่นกัน เธอรู้ว่ามันเป็นถิ่นของฉีหลาง ถ้าพวกเธอเข้าไปก็ไม่รู้ว่าจะโดนทำอะไรที่นั่นบ้าง
ฉิงเฟิงเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เขาขมวดคิ้วขณะที่รู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่เมื่อได้ยินเสียงเอ็ดตะโรจากผู้คน
เขาเห็นหลิวเจียวเจียวและหลิงเมิ่งยืนอยู่ท่ามกลางเหล่านักเลงเมื่อเขาเดินกลับมาที่โต๊ะ เขาถามว่า “เจียวเจียวเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
หลิวเจียวเจียวดูมีความหวังเมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงกลับมา เธออธิบายกับเขาว่า “พี่เขย !โปรดหาทางช่วยหลิงเมิ่งด้วย เรื่องมันเป็นแบบนี้ ……. ”
หลังจากได้ฟังหลิวเจียวเจียวเล่าเรื่องทั้งหมด ฉิงเฟิงดูท่าทางดุร้ายเพราะเขาไม่คาดคิดว่าฉีหลางและน้องชายของมันจะเลวทรามขนาดนี้ ถึงจะมาพาตัวหลิงเมิ่งไปบำเรอกลางสาธารณะเช่นนี้
“หลิงเมิ่ง เธอไม่ต้องกังวล ไม่มีใครพาเธอไปไหนได้ตราบที่ฉันยังอยู่ที่นี่” ฉิงเฟิงเดินไปยืนอยู่ข้างๆหลิงเมิ่งและกล่าว
หลิงเมิ่งพยักหน้าและมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความขอบคุณ เธอพยายามจะเตือนฉิงเฟิง เมื่อเธอตระหนักว่าฝ่ายตรงข้ามน่ากลัวแค่ไหน “อาจารย์คะ ฉีหลางเป็นนักเลงที่เกรงขามในย่านนี้ ส่วนเจียงเถาเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ได้รับการฝึกฝนเรื่องชงเหล้ามาอย่างเชี่ยวชาญ อาจารย์ต้องระวังตัวด้วย”
ฉิงเฟิงโบกมือราวกับจะบอกให้เธอไม่ต้องกังวล เขาไม่ได้จริงจังอะไรกับลูกกระจ๊อกเหล่านี้เลย
“ฉีหลาง ฉันจะให้โอกาสนายและพรรคพวก ออกไปจาก Dream Bar เดี๋ยวนี้”
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างใจเย็นขณะที่เอามือไขว้หลัง
“แกเป็นใครกันวะ ? ถึงเสนอหน้ามาพูดกับข้าเช่นนี้ ?” ฉีหลางตะโกนอย่างอุกอาจ
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ฉันเป็นอาจารย์ของหลิงเมิ่ง ฉันจะไม่ยอมให้นายพาตัวลูกศิษย์ของฉันไปหรอก”
“ไอ้หนุ่ม เธอแพ้ในการแข่งทำค็อกเทลกับน้องชายข้า เราสู้กันอย่างยุติธรรม ในเมื่อเธอแพ้ เธอก็ต้องไปกับพวกข้า !” ฉีหลางแสยะยิ้มและกล่าวอย่างดุร้าย
“น่าขัน มาร์ตินี่ค็อกเทลของน้องชายนายมันน้ำล้างถ้วยชัดๆ ฉันไม่ยอมให้นายพาพวกเธอไปหรอก” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเอาแต่ใจ
ฉีหลางรู้สึกหงุดหงิดและกล่าวว่า “ค็อกเทลที่ลูกพี่ลูกน้องของข้าทำขึ้นคือค็อกเทลที่โด่งดังอันดับ 9 ของโลก แกหมายความว่าไงวะ ว่ามันคือขยะ ?”
“เจียงฉีหลาง นายกล้าเดิมพันกับฉันไหมละ ฉันขอท้าลูกพี่ลูกน้องของนายเพื่อทำค็อกเทลแข่งกัน ถ้าเขาชนะก็พาหลิงหมิ่งไปได้เลยแต่ถ้าเขาแพ้พวกนายทั้งสองคนต้องคุกเข่าขอโทษฉัน ฟังเป็นไงละ หืม ?” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสงบราวกับว่าเขาไม่เห็นฉีหลางเป็นภัยคุกคามเลยแม้แต่น้อย
ฉีหลางแสยะยิ้มและตะโกนออกมาว่า “ทำไมจะไม่กล้าวะ ? ไอ้หนุ่ม ถ้าแกแพ้ข้าจะพาหลิงเมิ่งและซูหลิวลี่รวมทั้งผู้หญิงข้างๆแกไปบำเรอพวกข้าคืนนี้ นอกจากนี้แกต้องคุกเข่าขอขมาข้าอีกด้วย !”
“ตกลงตามนี้ หุบปากแล้วเริ่มได้เลย” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสงบขณะที่เอามือไขว้หลัง
“น้องพี่ ถ้านายชนะมัน พี่จะให้นาย 100,000 หยวน”
เจียงเถาพยักหน้าและตอบอย่างมั่นใจว่า “พี่วางใจ เดี๋ยวฉันจัดการไอ้หน้าหล่อนี่ให้หน้าแตกเอง”
เจียงเถามีความมั่นใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับทักษะการชงเหล้า เพราะเขาเพิ่งจะเอาชนะมือหนึ่งของเมืองทะเลตะวันออกมา
เจียงเถาหยิบวัตถุและเทลงในถ้วยเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็เขย่าถ้วยกลางอากาศ
ในไม่ช้าเจียงเถาก็ทำมาร์ตินี่ค็อกเทลเสร็จอีกแก้วหนึ่ง ปรากฏเพกาซัสสีขาวลอยอยู่ภายในเครื่องดื่มราวกับมันยังมีชีวิตอยู่
“สหาย ตาคุณแล้ว ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนนะ คุณยังไม่ใช่คู่มือของผมหรอกในเรื่องการชงเหล้า” เจียงเถากล่าวอย่างมั่นใจในขณะมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างดูหมิ่น
ฉิงเฟิงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ในขณะที่เขาไม่สนใจเจียงเถาแม้แต่น้อย เขาหยิบถ้วยมาและเพิ่มวัตถุดิบเป็นสองเท่าจากที่เจียงเถาทำ จากนั้นเขาก็เริ่มเขย่ามันขึ้นลง
“เฮ้ยๆ ไอ้หมอนี่มันรู้วิธีชงเหล้ารึเปล่าเนี่ย ทำไมเขาถึงเพิ่มส่วนผสมเป็นสองเท่า ?”
เจียงเถาแสยะยิ้มและกล่าวดูถูก
ความจริงแล้ว ส่วนผสมเพียงชุดเดียวก็เพียงพอสำหรับการทำมาร์ตินี่ค็อกเทลแล้ว
ฉิงเฟิงยังคงเขย่าถ้วยด้วยความเร็วราวกับแสงซึ่งเร็วกว่าเจียงเถา มันทำให้แทบทุกคนรู้สึกเวียนหัวเมื่อมองตามมือของเขา
ฉิงเฟิงยังเขย่าต่อไปจนเกือบถึง 5 นาทีซึ่งมากกว่าเจียงเถาสองนาที
ปัง !
ฉิงเฟิงวางถ้วยลงบนเคาน์เตอร์บาร์และกล่าวอย่างสงบว่า “ลองดูมาร์ตินี่ค็อกเทลของฉันดู”
ทุกคนมองไปในทิศทางเดียวกันและพวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพวกเขาเห็นในถ้วยปรากฏเพกาซัสสีขาวสองตัว !?
พะ เพกาซัสสองตัว !?
เจียงเถาตกใจมากเมื่อได้เห็นฉิงเฟิงสามารถทำเพกาซัสได้ถึงสองตัวในมาร์ตินี่ค็อกเทล ในขณะที่เขาทำได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝีมือการชงเหล้าของฉิงเฟิงเหนือกว่าเจียงเถามากนัก เขาคือผู้ชนะอย่างไม่มีข้อกังขาในการแข่งขันนี้
“เย้ ! อาจารย์ คุณสุดยอดมาก” หลิงเมิ่งกล่าวอย่างตื่นเต้นขณะที่เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฉิงเฟิงและจูบที่แก้มของเขา
“เดี๋ยวเหอะ ! พี่หลิงเมิ่ง พี่กล้าดียังไงมาจูบพี่เขยของฉัน” หลิวเจียวเจียวจ้องมองไปที่หลิงเมิ่งและบ่นออกมา
“เจียวเจียว เธออย่าคิดมากสิ นี่เป็นแค่รางวัลสำหรับชัยชนะของอาจารย์ของฉันเท่านั้นเอง” หลิงเมิ่งกล่าวอย่างกระวนกระวาย