My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 554
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! คนต่อไปเป็นไอ้หนุ่มหน้าหล่อคนนี้น่ะหรือ ? แตกเนื้อหนุ่มรึยังวะเนี่ยน้องชาย ? ข้าดีดนิ้วแกก็ปลิวแล้ว” ชายกล้ามใหญ่แสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันขณะที่เขาเห็นฉิงเฟิง
ชายกล้ามใหญ่คนนี้ชื่อลั่วเปียว เขาชนะติดต่อกันมา 3 ครั้งและได้รับ 30 คะแนน ปัจจุบันเขาอยู่ในอันดับที่ 658 ในฮีโร่ลิส
ฮีโร่ลิสคือการจัดอันดับพลังในการต่อสู้ การชนะคู่ต่อสู้คนหนึ่งจะได้รับ 10 คะแนน ยิ่งชนะมากเท่าไรคะแนนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ฉิงเฟิงยังไม่มีสักคะแนนบนบิลบอร์ดเพราะเขายังไม่เคยเอาชนะใคร
“สกายวูฟ หมายเลข 999” ผู้ตัดสินประกาศเสียงดังเมื่อเห็นฉิงเฟิงที่กำลังยืนอยู่นอกเวที
ผู้ตัดสินเป็นชายวัย 40 ปี เขามีร่างกายที่ดูแข็งแรงและผิวแทน ดูเหมือนเขาจะมีความแข็งแกร่งพอตัว
ความแข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการเป็นกรรมการบนเวที คนคนนั้นจะต้องเข้มแข็งและมีอำนาจพอที่จะหยุดการแข่งขันจากการฆ่าคู่ต่อสู้ในเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดสู้จนกันคลั่งเสียสติ ก่อนหน้านี้เคยมีกรรมการที่ถูกสังหารโดยผู้เข้าแข่งขันที่ป่าเถื่อน เนื่องจากเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะหยุดการต่อสู้
ฉิงเฟิงก้าวเบาๆบนพื้นและกระโดดขึ้นไปบนเวทีที่สูงเกือบ 2 สองเมตรในพริบตา
แรงกระโดดอะไรขนาดนี้ !
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็ส่งเสียงเชียร์ให้ฉิงเฟิง เนื่องจากชื่นชมในแรงกระโดดและความรวดเร็วของเขาถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่แข็งแกร่งเท่าลั่วเปียวก็ตาม
การพนันอยู่คู่กับการต่อสู้ประเภทนี้เสมอ ในตอนนี้ผู้คนเริ่มพนันขันต่อในการต่อสู้ระหว่างฉิงเฟิงและลั่วเปียวแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะแทงฝ่ายลั่วเปียว
“เสือดำ ไปแทงข้างท่านปู่หลี่กันเถอะ ถึงเวลารวยละวะ !” คิงคองหัวเราะและกล่าวกับเสือดำที่อยู่ข้างๆ
เสือดำพยักหน้าในขณะที่เขาก็คิดว่าลั่วเปียวไม่มีทางสู้ฉิงเฟิงได้อย่างแน่นอน แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ความจริงข้อนี้
ทั้งคู่เดินไปที่พื้นโซนพนัน คนที่รับผิดชอบเรื่องการพนันเป็นชายอ้วนวัยกลางคน อัตราต่อรองของคู่นี้คือ สกายวูฟ 10:1 ส่วนลั่วเปียว 1.5:1 นั่นหมายความว่าแทงข้างฉิงเฟิงเท่าไรจะได้ 10 เท่าหากเขาชนะ
“ฉันขอเดิมพันข้างสกายวูฟ 100,000 หยวน” คิงคองกล่าว
ชายอ้วนจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “น้องชาย นายแน่ใจเรื่องนี้นะ ? ไอ้กุ้งแห้งหน้าหล่อคนนั้นไม่เจ๋งพอจะสู้ลั่วเปียวได้หรอก หมดตัวซะเปล่าๆ”
คิงคองตอบกลับและจ้องมองชายอ้วน “หุบปากและทำตามนั้น”
“ก็ได้ๆ แล้วอย่ามาโทษฉันละว่าไม่เตือน” ชายอ้วนแสยะยิ้มออกมาหลังจากคว้าเงินปึกใหญ่ของคิงคองไป
“แล้วอีกคนละ ? แทงสักหน่อยไหม ?” ชายอ้วนยิ้มและพูดกับเสือดำ
เสือดำเหลือบมองเขาและตอบอย่างสงบ “แน่นอน แทงข้างสกายวูฟ 100000 หยวน”
“เยี่ยม !” ชายอ้วนหัวเราะคิกคักขณะที่เขากวาดเงินจากเสือดำเช่นกัน
ทุกคนในกลุ่มต่างก็หัวเราะล้อเลียนคิงคองและเสือดำ ตั้งแต่ที่เห็นพวกเขาแทงข้างสกายวูฟเป็นเงินก้อนโต พวกคิดว่าผู้ชนะในรอบนี้ต้องเป็นลั่วเปียวแน่นอน
คิงคองและเสือดำเดินจากฝูงชนที่กำลังหัวเราะเยาะเหล่านี้และเดินไปที่เวทีหลังจากแทงเสร็จ พวกเขาไม่อยากเสียเวลากับพวกตาไม่มีแววเหล่านี้
ขณะนั้น, บนเวที
ลั่วเปียวจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างดูหมิ่น เขาไม่ได้หวั่นไหวต่อความเร็วและพลังกระโดดของฉิงเฟิงแม้แต่น้อย เนื่องจากคู่ต่อสู้คนที่แล้วของเขาก็เร็วมากแต่สุดท้ายก็โดนเขาอัดจนหมดสภาพ
“ไอ้หนุ่ม ข้าแนะนำให้แกยอมแพ้และออกไปจากที่นี่ซะ ฉะนั้นอย่าตำหนิข้าหากลงมือหนักไปจนฉีกร่างแห้งๆของแกเป็นชิ้นๆ !” ลั่วเปียวข่มขู่ฉิงเฟิงขณะจ้องมองที่เขา
หือ ? ให้ยอมแพ้ ?
ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “พี่ชาย ฉันคิดว่าคนที่ควรจะยอมแพ้ก็คือนายมากกว่า ระหวังโดนฉันเตะตกเวทีในพริบตาก็แล้วกัน”
ลั่วเปียวเริ่มโกรธเมื่อได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าวและมองเขาด้วยแววตาที่ดุร้าย เขาชนะติดต่อกันมา 3 รอบแล้ว ไอ้เปี๊ยกนี่กล้าดียังไงมาพูดกับเขาเช่นนี้ ? เขาเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม ?
“ไอ้หนุ่ม งั้นนายระวังตัวให้ดี” ลั่วเปียวแสยะยิ้มและก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างดุร้ายขณะที่เดินไปหาฉิงเฟิง
ทุกคนเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพวกเขาเห็นโมเมนตั่มที่ลั่วเปียวปลดปล่อยออกมา สำหรับผู้ชมเหล่านี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการได้เห็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
“เฮ้ยๆ แกคิดว่าใครจะชนะวะ ?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นลั่วเปียว เขาชนะติดกัน 3 ยกแล้ว เขาโคตรเหนียวเลย”
“ส่วนข้าเดิมพันข้างลั่วเปียวไป 50000 หยวน เขาต้องชนะไม่งั้นข้าหมดตัวแน่!”
“ถุ้ย ! แกแทงแค่ 50,000 ทำคุย ข้าลงข้างลั่วเปียวไปแสนเลยเว้ย”
“ลั่วเปียว ขยี้สกายวูฟเลย !”
ผู้ชมรอบเวทีต่างก็ส่งเสียงเชียร์ให้กับลั่วเปียว เพราะพวกเขาได้แทงข้างลั่วเปียว
ลั่วเปียวเริ่มเลือดเดือดมากขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงเชียร์จากฝูงชน เขาพุ่งไปข้างหน้าราวกับสัตว์ร้ายและมาถึงหน้าฉิงเฟิงภายในไม่กี่วินาที เขากำลังจะฟาดฉิงเฟิงให้กระเด็นตกเวทีด้วยความอันแข็งแกร่งของเขา !
เมื่อเห็นลั่วเปียวที่พุ่งเข้ามา ฉิงเฟิงก็ยังคงยืนอย่างสงบอยู่ จนกระทั่งลั่วเปียวมาถึงตรงหน้าของเขาแล้ว ฉิงเฟิงก็เหยียดนิ้วชี้ออกมาจี้ตรงหน้าอกของลั่วเปียว
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น ร่างกายที่แข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของลั่วเปียวถูกหยุดด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวของฉิงเฟิง
ทุกคนตกใจรวมทั้งลั่วเปียว เขารู้ว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำใจเชื่อได้ว่าเขาจะถูกหยุดยั้งด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว !
“นายอ่อนแอเกินไป แม้แต่นิ้วชี้นิ้วเดียวของฉันนายยังเอาชนะไม่ได้ แบบนี้นายยังมีหน้ามาพูดให้ฉันยอมแพ้งั้นหรือ ?” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มอย่างดูถูก
คนอื่นๆอาจจะมองว่าลั่วเปียวแข็งแกร่งไร้เทียมทานเพราะเขาชนะติดต่อกันถึง 3 ครั้ง แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ขนมกรุบในสายตาของฉิงเฟิง
อะไรวะ ? ข้าอ่อนแอเกินไป ?
ลั่วเปียวโกรธสุดๆที่โดนดูถูก เขาโกรธจนทนไม่ไหวอีกต่อไป
ลั่วเปียวคำรามลั่นและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงอีกครั้งด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
แต่น่าเสียดายที่พละกำลังทั้งหมดของลั่วเปียวก็ไม่สามารถทำอะไรนิ้วชี้ของฉิงเฟิงได้
“หมดเวลาเล่น ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มออกมาแล้วหดนิ้วชี้กลับเป็นหมัดและชกเข้าใส่หน้าอกของลั่วเปียว
เปรี้ยง !
ร่างของลั่วเปียวถูกหมัดของฉิงเฟิงจนลอยกระเด็นตกเวที ซี่โครงบางส่วนหักและหมดสภาพในทันที