My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 563
ตอนที่ 563 วูฟคิง ในที่สุดฉันก็ได้พบคุณ !
แปล Tarhai
อ๊ากกก !
หน่วยรักษาความปลอดภัยส่งเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชออกมาด้วยความเจ็บปวดสุดขีด ร่างกายของเขาสั่นเทา เขาคุกเข่าลงกับพื้นตามมามาด้วยเหงื่อเม็ดโป้งที่หยดลงจากหน้าผากของเขา
ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมากเกินกว่าจินตนาการของเขา หมัดที่ทรงพลังของเขาถูกทำลายลงหลังจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“หยุดมือ !”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านอาหารหลังจากที่มีเสียงตะโกน
ชายหนุ่มคนนี้อายุราวๆ 20 ปี เขามีใบหน้ากระจ่างใส ร่างผอมสูงสวมชุดสูทสีดำ แต่ก็มีความโกรธปรากฏอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
“ปล่อยเขาไป” ชายหนุ่มชี้ไปที่หน่วยรักษาความปลอดภัยตัวสูงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ปัง !
เพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่ชายหนุ่มคนนั้นร้องขอ ฉิงเฟิงเตะส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวสูงกลิ้งไปบนพื้นโดยไม่ลังเล เขาหมดสติไปในทันที
“สหาย คุณไม่ได้ยินที่ผมขอหรือ ? ผมขอให้คุณปล่อยเขาไป” ประกายเย็นชากระพริบอยู่ในดวงตาของชายหนุ่มขณะที่เขาเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวสูงหมดสติไป
ฉิงเฟิงหันไปมองเขาอย่างฉับพลันและกล่าวว่า “แล้วคุณเป็นใคร ? ทำไมฉันจะต้องฟังคำพูดของคุณ?”
“ผมชื่อเหอจวิน ผมคือลูกชายของเหอหลางจากจังหวัดหูเจียง” ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยและตอบคำถามฉิงเฟิงทันที
เหอหลาง ?
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อนั้น เขาจำได้ว่าเหอหลางเป็น 1ใน3 ทรราชย์ของโลกใต้ดินในจังหวัดหูเจียง และเป็นผู้นำที่แท้จริงของทั้งห้าเมืองในพื้นที่ภาคตะวันออก
นอกเหนือจากเสือนภาที่ถูกฉิงเฟิงฆ่า ก็เหลือเพียงเสือดำซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้ติดตามของฉิงเฟิงไปแล้ว ณ ตอนนี้จึงเหลือเพียงเหอหลางคนเดียว เขากลายเป็นผู้นำเพียงคนเดียวไปโดยปริยาย
ผู้คนที่ได้ยินชื่อเหอหลางต่างก็ยอมถอยทุกครั้ง เนื่องจากไม่มีใครกล้าที่จะตอแยเขา อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของเหอหลางไม่ได้มีผลต่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อย
“เหอหลางงั้นหรือ บอกให้เขามาที่นี่เถอะ ฉันจะฆ่าเขาเอง” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวอย่างยโส
ใบหน้าของเหอจวินเปลี่ยนไป เขาก้าวไปข้างหน้าและเตรียมที่จะสั่งสอนผู้ที่กล้าดูถูกพ่อของเขา แต่ในทันใดนั้น นักข่าวด้านนอกเริ่มร้องตะโกนว่า
“เซียะเฟยเฟยมาถึงแล้ว ! “
“มองไปตรงนั้นสิ เซียะเฟยเฟยมาจริงๆด้วย !”
“ว้าวววว เซียะเฟยเฟยตัวเป็นๆ ! เธอสวยมากเลย เธอเป็นเทพธิดาของฉัน !”
“เซียะเฟยเฟย ผมรักคุณ”
บรรดาผู้สื่อข่าวได้เอากล้องออกมาและถ่ายรูปเซียะเฟยเฟย ส่วนบรรดาแฟนคลับต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
มันเป็นช่วงเวลาที่โชคดีที่สุดในชีวิตของพวกเขาที่ได้เห็นเซียะเฟยเฟยในเมืองทะเลตะวันออก เนื่องจากพวกเขาได้เห็นเธอทางโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ตและหนังสือพิมพ์เท่านั้น
เซียะเฟยเฟยปรากฏตัวอย่างงดงามมากในวันนี้ บางทีเธออาจจะแต่งตัวเป็นพิเศษเพื่อในเยือนเมืองทะเลตะวันออก เธอแต่งหน้าบางๆ ด้วยผิวที่เนียนสวยของเธอ ทำให้เธอดูกระจ่างใสเหมือนหยกชั้นเยี่ยมที่ไร้ตำหนิ เธอกรีดอายไลเนอร์บนตาเรียวยาวและทำให้เธอดูสวยยิ่งขึ้น ริมฝีปากสีแดงสดใสได้รูปร่างของเธอสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้เห็นเป็นอย่างยิ่ง
เธอสวมชุดเดรสสีขาวซึ่งทำให้หน้าอกใหญ่และเรือนร่างที่เซ็กซี่ของเธอน่าดึงดูดมากขึ้นและด้วยรองเท้าส้นสูงสีเงิน เธอช่างดูเหมือนนางฟ้าสีขาวอย่างแท้จริง
บรรดาแฟนคลับผู้หญิงทุกคนโดยรอบไม่สามารถหยุดส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้ ส่วนผู้ชายต่างก็ลอบกลืนน้ำลายและดวงตาเป็นประกาย มันไม่น่าแปลกใจกับอาการเช่นนี้ของพวกเขาที่ได้พบกับผู้หญิงที่สวยเช่นนี้
ด้วยการแนะนำของผู้ช่วยของเธอ เซียะเฟยเฟยก็เดินเข้าไปที่ร้านอาหาร เธอหยุดชะงักในทันทีเมื่อวิสัยทัศน์ของเธอตกกระทบลงบนร่างที่คุ้นเคยของคนผู้หนึ่ง
ซึ่งก็คือหลี่ฉิงเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตูนั่นเอง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจราวกับว่าเธอเห็นอะไรบางอย่างที่เหลือเชื่อ
“วูฟคิง…. ฉันได้พบเขาแล้ว “
เซียะเฟยเฟยยกมือขาวเนียนของเธอขึ้นมาปิดปาก ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เซียะเฟยเฟยตามหาวูฟคิงมานับครั้งไม่ถ้วน เธอไปมาหลายเมืองหลายสถานที่แต่ก็ไม่เคยพบเขา จนกระทั่งครั้งนี้เธอได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งว่าวูฟคิงอยู่ในเมืองทะเลตะวันออก นั่นคือเหตุผลที่เธอมาที่นี่เพื่อลองเสี่ยงโชคดูเผื่อว่าจะได้พบกับเขา เธอไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะได้มาพบกับวูฟคิงที่นี่โดยบังเอิญ
“ดูนั่นสิ เซียะเฟยเฟยกำลังร้องไห้อยู่ !”
“ใช่ ราชินีแห่งวงการเพลงอย่างเธอไม่เคยร้องไห้ในที่สาธารณะ นี่เป็นครั้งแรก !”
“หรือเธอร้องไห้เพราะตื้นตันใจที่เห็นแฟนคลับมากมายมารอรับที่เมืองทะเลตะวันออก ?”
ผู้คนรอบๆต่างก็หันไปพูดคุยกันอย่างบ้าคลั่งและไม่อยากเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น
เซียะเฟยเฟยเริ่มสาวเท้าและวิ่งตรงไปที่ประตูหน้าร้านในทันที
“อะไรกันนี่ ? เซียะเฟยเฟยกำลังวิ่งมาหาฉันรึ ? อย่าบอกนะว่าเธอชอบฉันเพราะฉันหล่อมาก” เหอจวินกล่าวพึมพำอย่างหลงตัวเอง
ฮ่า ฮ่า !
ฉิงเฟิงหัวเราะกับตัวเอง เขารู้สึกขบขันต่อความหลงตัวเองของเหอจวิน
“สหาย คุณหัวเราะอะไร ? ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนนะว่าอย่ามาขัดจังหวะอาหารมื้อเย็นของผมกับเซียะเฟยเฟยเพราะผมจองร้านอาหารนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว” เหอจวินจ้องไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวอย่างหยิ่งยโส
ฉิงเฟิงเพียงยิ้มตอบเล็กน้อย เขาไม่อยากเสียเวลาพูดกับคนบ้าบอประเภทนี้
เมื่อเห็นเซียะเฟยเฟยเกือบจะถึงหน้าประตู เหอจวินก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เขากางแขนออกและพร้อมที่จะกอดเธอไว้ อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนเป็นช็อคในวินาทีถัดไป
เซียะเฟยเฟยวิ่งผ่านเหอจวินและกระโดดเข้าหาฉิงเฟิง เธอโอบรัดรอบตัวของฉิงเฟิงและซบลงที่อ้อมอกของเขา
เหอจวินหันไปทองเซียะเฟยเฟย จากนั้นก็หันไปมองฉิงเฟิง ใบหน้าของเขาซีดจนไม่อาจจะซีดได้อีก
บรรดาผู้สื่อข่าวและแฟนคลับต่างก็ประหลาดใจอย่างมาก ในฐานะที่เธอเป็นซุปเปอร์สตาร์ในประเทศจีน, ราชินีแห่งวงการเพลง, ผู้หญิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักและมีความงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ เธอประพฤติตัวเหมาะสมและวางตัวดีในที่สาธารณะมาโดยตลอด เธอไม่เคยมีเรื่องซุบซิบหรือเรื่องอื้อฉาวใดๆและไม่เคยมีแฟนมาก่อนอีกด้วย ทำให้เธอเป็นเทพธิดาซึ่งเป็นที่รักทั้งชายและหญิงในประเทศจีน
แต่ตอนนี้เทพธิดาในใจของพวกเขาทุกคน, ผู้หญิงซึ่งเป็นที่รักของคนนับไม่ถ้วนกำลังโอบกอดผู้ชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนของเธอในที่สาธารณะ เรื่องนี้เกินความคาดหมายของทุกคน
“ฮืออ พี่ใหญ่หลี่ ทำไมคะ ทำไมคุณถึงไม่ติดต่อฉันเลยเนิ่นนานขนาดนี้ ? คุณจะทิ้งฉันแล้วหรือคะ ?” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาอันสดใสของเซียะเฟยเฟย แสดงให้เห็นถึงความโศกเศร้าของเธอ
ทิ้งเธอ ?
ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดของเซียะเฟยเฟย สีหน้าของคนเหล่านั้นที่มองไปที่ฉิงเฟิงต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธที่ลุกโชนในดวงตาของพวกเขา ถ้าหากการจ้องมองสามารถฆ่าคนได้ ฉิงเฟิงคงตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว
ฉิงเฟิงกลอกตาและไม่รู้จะทำอย่างไรกับสายตามากมายที่มองมาที่เขา
“เฟยเฟย นี่ไม่ค่อยเหมาะนะ มีผู้คนมากมายกำลังมองพวกเราอยู่ ปล่อยฉันก่อน” ฉิงเฟิงแตะบนไหล่ของเธอและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
หลังจากได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าว เซียะเฟยเฟยก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตอนนี้เธออยู่ในที่สาธารณะและอยู่หน้าร้านอาหารที่รายล้อมไปด้วยบรรดานักข่าวและแฟนคลับมากมาย มันจะเป็นภาพลักษณ์ในเชิงลบเมื่อเธอถูกถ่ายรูปไว้
โชคดีที่ทุกคนต่างตกใจมากที่เห็นเซียะเฟยเฟยกอดฉิงเฟิงจนลืมถ่ายรูป เมื่อพวกเขารู้สึกตัวมันก็สายเกินไปแล้ว เซียะเฟยเฟยผละออกจากวงแขนของฉิงเฟิงไปแล้ว
“คืนนี้เชิญดินเนอร์ด้วยกันนะคะ” เซียะเฟยกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของเธอดูงดงามมากราวกับดอกพีโอนี่(ดอกโบตั๋น)ที่กำลังเบ่งบาน ซึ่งปลดปล่อยกลิ่นอายที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาออกมา
*คนแต่งงงง ทำไมนางเอกบทจืดจางยิ่งกว่าบรรดากิ๊กเสียอีก*