My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 617
ตอนที่ 617 คัมภีร์กุ้ยหวัง (Ghost King Technique)
แปล Tarhai
โกสคิงขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า เมื่อสามปีก่อน ลู่เต๋าซางถูกทําร้ายบาดเจ็บสาหัส ความสามารถของเขาลดลงจนเกือบจะตายอยู่แล้ว แล้วมันจะโผล่หัวออกไปหยุดเจ้าได้อย่างไร?”
โกสคิงคิดว่าเฮยหวู่ชางกําลังโกหกที่ทํางานพลาด
“ท่านอาจารย์ หลี่ฉิงเฟิงเป็นคนรักษาเส้นลมปราณให้ลู่เต๋าซาง พลังของมันฟื้นฟูมาแข็งแกร่งเหมือนเดิม ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแม้แต่น้อย” ใบหน้าของเฮยหวู่ชางเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าอาจารย์จะลงโทษเขา
ประกายเยือกเย็นพาดผ่านแววตาของโกสคิง เขารู้เรื่องเกี่ยวกับลู่เต๋าซางเป็นอย่างดี คนผู้นั้นคือจ้าวขุนเขาบู๊ตึงในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ครั้งหนึ่งเขาคือนักสู้ที่ยอดเยี่ยม, ผู้เชี่ยวชาญของผู้ฝึกยุทธ์โบราณ แต่ต่อมาเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
“ถ้าลู่เต๋าซางเป็นคนที่ช่วยหลี่ฉิงเฟิงจริงๆ งั้นตอนนี้พวกมันคงอยู่ที่เขาบู๊ตึ๊ง พวกเราทําอะไรกับมันไม่ได้แล้วตอนนี้ เจ้าส่งคนของตําหนักโกสคิงไปลอบติดตามหลี่ฉิงเฟิงไว้ซะ เมื่อใดที่มันลงจากเขาและกลับเมืองทะเลตะวันออก ให้ลงมือฆ่ามันทันที”
โกสคิงกล่าวพร้อมแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
” ขอรับ ท่านอาจารย์” เฮยหวู่ชางพยักหน้าหันหลังและเดินออกไปจากแล็บ เขาเตรียมส่งคนออกไปสอดแนมฉิงเฟิง
เฮลคิงเห็นเฮยหวู่ชางออกไป ก็คิดจะออกไปเช่นกัน
“เดี๋ยว ข้าให้เจ้าไปแล้วหรือไง ?” โกสคิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ
เรื่องที่เฮลคิงไม่สามารถฆ่าฉิงเฟิงได้นั้นทําให้โกสคิงไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะฉิงเฟิงเป็นลูกชายของคู่อริของเขา, ราชันผู้พิชิต ถึงแม้ว่าโกสคิงจะทําร้ายราชันผู้พิชิตจนพลัดตกหน้าผาในดินแดนต้องห้ามไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังต้องการกวาดล้างเสี้ยนหนามให้หมดสิ้น กําจัดผู้สืบสกุลและปิดฉากตระกูลหลี่
โกสคิงคาดหวังในตัวเฮลคิงเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งมอบทุกอย่างที่มีให้แก่เฮลคิง ไม่ว่าจะเป็นทีมโกสคิง ยาโคลนนิ่ง ยาเพิ่มพลัง แต่เขากลับล้มเหลว
“อาจารย์ รั้งผมไว้ทําไมเหรอครับ ? มีอะไรจะถามผมหรือเปล่า ?” ใบหน้าของเฮลคิงเริ่มตึงเครียด เขารู้ว่าตัวเองล้มเหลวทุกอย่าง ไม่แปลกใจเลยถ้าอาจารย์จะไม่ประทับใจ
“เจ้าปิดประตูฝึกฝนตัวเองซะ ไปที่อารีน่ายมโลก ผ่านไปให้ถึงชั้นที่ 18 แล้วค่อยกลับมา” เฮลคิงกล่าวอย่างไม่แยแส
อารีน่ายมโลก !?
หลังจากได้ยินชื่อสถานที่แห่งนี้ใบหน้าของเฮลคิงก็ซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีคนนอกรู้ซึ้งถึงความน่าสะพรึงกลัวนี้ มีเพียงสมาชิกในตําหนักโกสคิงเท่านั้นที่เข้าใจ
สนามฝึกยมโลกนั้นเป็นไปตามชื่อของมัน ผู้ที่เข้าไปต้องผ่านการฝึกฝนราวกับขุมนรก มันมีทั้งหมด 18 ชั้น มีทั้งวิ่งผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยมีด กระโดดลงไปในทะเลไฟ นั่งในหม้อที่น้ำร้อนเดือด
โกสคิงชุบเลี้ยงนักสู้ไว้เป็นจํานวนมาก แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านยมโลก 18 ชั้น คนเหล่านั้นสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียวเท่านั้น จากบรรดาลูกศิษย์ทั้งหมดของโกสคิงก็มี ไป๋หวู่ชาง และเฮยหวู่ชาง แต่ทว่าถึงพวกเขาจะผ่านมาได้ แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย
*ขออภัย ขอแก้ชื่อไอ้หน้ากากผีเมื่อตอนก่อนหน่อยครับ จาก กุ้ยหวู่ชางเป็นเฮยหวู่ชาง เพราะตอนนี้กล่าวถึงหน้ากากผีขาวอีกคน เลยลองเทียบชื่อจีน white = ไป๋ black = เฮย ส่วนที่ว่าทําไมตอนแรกใช้ กุ้ย ก็เพราะอ่านเจอในวิกิครับมันเขียนว่า gui สรุปไอ้หน้ากากผีดําคือเฮยหวู่ชาง ส่วนหน้ากากผีขาว(ยังไม่ออกโรง) ไป๋หวู่ชางนะครับ
” ท่านอาจารย์ อารีน่ายมโลกน่าหวาดกลัวเกินไป ผมยังไม่อยากตาย ผมไม่ไป
เฮลคิงส่ายหัว เขาไม่กล้าเหยียบย่างไปที่แห่งนั้น
“ขยะ ! คู่หมั้นที่ควรจะเป็นผู้หญิงของแกถูกวูฟคิงชิงไปทําเมีย โคตรเหง้าตระกูลแกก็โดนสังหารเรียบเป็นผีตายโหงก็เพราะวูฟคิง แกมีโอกาสที่จะแก้แค้นมัน แต่แกก็ทําไม่สําเร็จ ข้าหวังดีให้แกบิดประตูฝึกฝนเพื่อให้ข้ามผ่านระดับปุถุชนแต่แกไม่กล้าไป งั้นก็ใช้ชีวิตเป็นเศษขยะต่อไปเถอะ !” โกสคิงด่ากราดเฮลคิงอย่างรุนแรงด้วยน้ำเสียงหนาวเย็น
เรื่องความหวาดกลัวสถานที่แห่งนั้นโกสคิงเข้าใจเป็นอย่างดี สมัยหนุ่มเขาก็เคยเข้าไปฝึกที่นั่น และเกือบตายนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถผ่านขุมนรกทั้ง 18 ชั้นได้สําเร็จ คนผู้นั้นจะไร้เทียมทาน !
หลังจากได้ยินคําพูดเสียดแทงของอาจารย์ เฮลคิงก็กระชับหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือของเขา เลือดไหลออกมาจากฝ่ามือ แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย เพียงแค่นึกถึงวูฟคิงก็ทําให้เขารู้สึกเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรง เขาอยากจะฉีกฉิงเฟิงเป็นชิ้นๆ
“รับนี้ไปซะ มันคือคัมภีร์วิชากุ้ยหวัง (Ghost King) ตอนนี้ข้าจะมอบมันให้เจ้า ตราบเท่าที่เจ้าสามารถฝึกมันจนถึงขั้นที่ 3 การจะฆ่าวูฟคิงก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
โกสคิงยิ้มอย่างเฉยเมยและมอบคัมภีร์สีดําให้แก่เฮลคิง
วิชากุ้ยหวัง ?
เมื่อมองไปที่คัมภีร์สีดําในมือ เฮลคิงก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี คัมภีร์เล่มนี้บันทึกวิชาขั้นสุดยอดของโกสคิงไว้ทั้งหมด ตราบเท่าที่สามารถฝึกฝนเป็นอย่างดีตามคัมภีร์เล่มนี้ คนผู้นั้นจะทะลวงผ่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณได้อย่างแน่นอน
“ท่านอาจารย์ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านที่กระตุ้นเตือน ผมจะฝึกฝนตัวเองอย่างหนักและฝึกวิชากุ้ยหวังให้สําเร็จ จากนั้นผมจะผ่านขุมนรก 18 ชั้นและไปฆ่าวฟคิง”
เฮลคิงกล่าวด้วยใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความสุข จากนั้นเขาก็คํานับโกสคิงและหันหลังจากไป เพื่อมุ่งหน้าไปยังอารีน่ายมโลกเพื่อปิดประตูฝึกฝน
ที่ภูเขาบู๊ตึ๊ง ภายในห้องพักของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงกําลังนอนอยู่บนเตียง เขารู้สึกทั้งมีความสุขและทรมานในเวลาเดียวกัน
มืออันเนียนนุ่มของหลินเสวี่ยที่ราวกับหยกชั้นเลิศกําลังเช็ดบาดแผลที่หน้าอกของเขา เขารู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่ออกมาจากมือของเธอ
ส่วนอีกจุดหนึ่ง ที่หน้าผากของเขา ฝ่ามือที่ร้อนรุ่มของหลิวหรูหยานกําลังเช็ดหน้าผากให้ฉิงเฟิงอย่างต่อเนื่องจนเขารู้สึกร้อน
สําหรับผู้หญิงสองคนนี้ ไม่เพียงแค่บุคลิกของพวกเธอจะต่างกัน แต่อุณหภูมิของร่างกายพวกเธอก็ต่างกันอีกด้วย คนหนึ่งให้ความรู้สึกที่หนาวเหน็บ ส่วนอีกคนก็ร้อนรุ่มดังไฟแผดเผา
บาดแผลบนร่างของฉิงเฟิงได้กลายเป็นแผลเป็นแล้ว ความจริงเพียงแค่ชุบน้ำเช็ดให้เขาเล็กน้อยก็เพียงพอ แต่ผู้หญิงสองคนนี้กําลังแข่งกัน ราวกับว่าใครจะเช็ดให้เขาได้ดีกว่ากัน เลยกลายเป็นว่าพวกเธอถูแล้วถูอีกซ้ำไปซ้ำมาอยู่เช่นนั้นไม่หยุด
หน้าอกและหน้าผากของฉิงเฟิงโดนซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายร้อยครั้ง ถูครั้งแรกๆเขาก็รู้สึกดี แต่เมื่อถูกเข็ดหลายร้อยครั้งมันก็ไม่ใช่ความเพลิดเพลินอีกต่อไปแต่มันคือความทรมาน…
ฉิงเฟิงเจ็บจนไม่อาจทนได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาทําได้ก็คือเปิดตาอย่างไม่เต็มใจและตัดสินใจเลิกแกล้งตาย
“ที่รัก คุณฟื้นแล้ว !”
“ฉิงเฟิง ตื่นแล้วเหรอคะ !”
“บอสคะ บอสฟื้นแล้ว !”
เมื่อเห็นฉิงเฟิงฟื้นแล้ว หลินเสวี่ย หลิวหรูหยานและอลิซต่างก็ดวงตาสว่างวาบไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น
แค่ก แค่ก !
ฉิงเฟิงไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเขาฟื้นนานแล้วแต่แกล้งทําเป็นหลับ เขาจึงแกล้งไอให้ดูเหมือนเพิ่งฟื้นตัว
“ฉันรู้สึกหิวจัง พวกคุณหยุดเช็ดตัวฉันแล้วหาอาหารให้ฉันแทนได้ไหม ?”
ฉิงเฟิงมองพวกเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ซึ่งทําให้หลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานรู้สึกสับสนมาก
พวกเราดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดี แต่ทําไมคุณถึงดูเป็นทุกข์ขนาดนี้ ?
พวกเธอคิดในใจ
” บอสครับ นี่เป็นซุปยาสมุนไพร ในเมื่อบอสฟื้นแล้วก็กินเข้าไปเยอะๆเลยนะครับจะได้หายไวๆ” ลู่ซวนจี๋เห็นฉิงเฟิงฟื้นแล้วจึงรีบหยิบซุปมาให้เขาในทันที
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ฉันหิว ฉันยังไม่อยากกินยา นายไปหาอะไรมาให้ฉันกินที”
เมื่อคืนตอนที่เขาหมดสติไป ลู่ซวนจี๋ก็เอาแต่ยัดยาให้เขาจนยาเต็มท้องไปหมดแล้ว เขาไม่ต้องการดื่มยาอีกต่อไป
ฉิงเฟิงต้องการกินอาหารแข็ง หลิวเสวี่ยและหลิวหรูหยานลุกขึ้นพร้อมกันในทันทีและเดินเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อทําอาหารให้ฉิงเฟิงเป็นพิเศษ
ฉิงเฟิงรู้ว่าหลิวหรูหยานอุ้มท้อง ส่วนหลิวเสวี่ยก็ไม่ได้นอนทั้งคืน เพื่อรีบมาที่นี่ เขารู้สึกประทับใจมาก เขาไม่ได้อยากให้พวกเธอต้องเหนื่อยทําอาหารให้เขาอีก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจห้ามการแข่งขันของพวกเธอได้อยู่ดี
หลินเสวี่ยเข้าครัวพร้อมกับหลิวหรูหยาน หลินเสวี่ยทําก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศ ส่วนหลิวหรูหยานทําก๋วยเตี๋ยวหมูทอด
จากนั้นเมื่อทั้งคู่ทําอาหารเสร็จ พวกเธอก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าเขา เห็นเช่นนั้นฉิงเฟิงก็รู้สึกลังเล เขาไม่รู้ว่าควรจะกินชามไหนก่อนดี นี่เป็นตัวเลือกที่ยากลําบากสําหรับเขาอย่างใหญ่หลวง