My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 627 หมัดทลายศิลา
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 627 หมัดทลายศิลา
ฉิงเฟิงบอกให้จางเสี่ยวเยวี่ยและจางเสี่ยวเจี๋ยออกจากห้องไปก่อนรวมถึงสองพ่อลูกโจวอี้เจียนและโจวชางที่หอบสังขารออกไปจากห้องด้วยเช่นกัน
พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ที่หน้าประตูและมองไปที่ฉิงเฟิงกับโจวอี้ที่อยู่ในห้องถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนธรรมดาแต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงอากาศในห้องที่แปรเปลี่ยนไป
เสียงที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้นั้นดังมากจนจางเทียนชี่ต้องมาดูพร้อมกับเหล่าพนักงานของโรงแรม
เมื่อจางเทียนชี่มาถึงก็เห็นฉิงเฟิงในทันทีเขาถามว่า “พี่ใหญ่หลี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้ผมเรียก รปภ. มั้ย ?”
“ไม่ต้องแค่อยู่เฉยๆตรงนั้นอย่าเข้ามา ฉันไม่อยากให้นายโดนลูกหลง”
ฉิงเฟิงยกมือห้ามไม่ให้จางเทียนชี่เข้ามา นี่คือการต่อสู้ระหว่างสองผู้ฝึกยุทธ์คนธรรมดาเหล่านี้ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรได้ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ไร้ประโยชน์
ฮ่าห์
!!!
เท้าขวาของโจวอี้ย่ำลงที่พื้นและทำลายพื้นหินอ่อนเป็นเสี่ยงๆร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของฉิงเฟิงในทันที เอาออกหมัดใส่ฉิงเฟิงอย่างดุร้ายป่าเถื่อน
ฉิงเฟิงตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยความว่องไวราวกับฟ้าผ่าและหลบหมัดของโจวอี้ได้อีกครั้ง
เมื่อหมัดของโจวอี้ไม่โดนร่างฉิงเฟิงมันจึงไปกระทบเข้ากับกำแพงแทนและทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
พระเจ้า
!
พวกเขากำลังถ่ายหนังกันหรือ ฝูงชนที่ประตูต่างมองด้วยความประหลาดใจพวกเขาไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าการชกเพียงหมัดเดียวจะทำให้เกิดหลุมใหญ่ขนาดนี้ที่กำแพงได้ พวกเขาเคยเห็นแค่ในหนังเท่านั้น
“พี่ใหญ่หลี่ระวังด้วย !” จางเทียนชี่กล่าวด้วยความกังวลหลังจากเห็นว่าหมัดของชายคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน
“พ่อพี่ใหญ่แข็งแกร่งมาก ! นอกจากนี้เขาก็เป็นสาวกของนิกายหมัดเหล็กอีกด้วย ไอ้เจ้าหลี่ฉิงเฟิงจบสิ้นแน่ !” โจวอี้กล่าวด้วยความตื่นเต้น
โจวอี้เจียนพยักหน้าและกล่าวว่า“หลังจากลูกอี้ล้มมันแล้วพวกเราค่อยรุมกระทืบมัน”
พ่อและลูกชายหันมามองหน้ากันและยิ้มแย้มแจ่มใสพวกเขาเกลียดชังฉิงเฟิงมาก
“หลี่ฉิงเฟิงแกหนีเป็นอย่างเดียวรึไง แกไม่กล้าสู้กับข้าซึ่งหน้ายังงั้นรึ ?” โจวอี้กล่าวกับฉิงเฟิงอย่างดูถูกเพราะเขาเริ่มหงุดหงิดที่ฉิงเฟิงเอาแต่หลบ
หนี
ฉิงเฟิงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า“ เปล่าเลย ฉันแค่อยากเห็นพลังของหมัดทลายศิลาของนายก็เท่านั้น แต่มันช่างน่าผิดหวังนัก”
“งั้นก็เลิกหางจุกตูดแล้วมาเจอกันซึ่งหน้าเลยซี่!” โจวอี้กล่าวเย้ยหยัน
“เหอะในเมื่อนายอยากตายนัก งั้นฉันจะให้นายสมความปรารถนา ฉันจะซัดแกให้หมอบด้วยหมัดเดียว”
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งผยอง
“ฮ่าๆๆหลี่ฉิงเฟิงสมองแกต้องมีปัญหาแน่นอน รู้ไหมว่าข้าคือผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในขั้นใต้สวรรค์ แกบอกว่าจะเอาชนะข้าด้วยหมัดเดียวงั้นหรือ ช่างฝันกลางวัน !” โจวอี้หัวเราะลั่น
คนส่วนใหญ่ที่มุงกันอยู่หน้าประตูต่างก็ส่ายหัวและคิดว่าฉิงเฟิงพูดโอ้อวดพวกเขาเห็นกับตาว่าโจวอี้มีพลังมากเพียงใด และไม่มีใครเชื่อว่าฉิงเฟิงจะเอาชนะเขาได้ด้วยหมัดเดียว
เกี่ยวกับความคิดและข้อสงสัยของทุกคนฉิงเฟิงก็ยังคงยืนนิ่งและไม่โต้เถียง
ที่ฉิงเฟิงหลบไม่ใช่เพราะว่าเขากลัวการโจมตีของโจวอี้เขาเพียงแค่ต้องการดูพละทำลายของผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นเพื่อเปรียบเทียบกับตัวเอง แต่หลังจากที่ได้สังเกตมาสักพัก ฉิงเฟิงก็มั่นใจแล้วที่ระดับพลังเท่ากันคนผู้นี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเขา
โจวอี้รู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดฉิงเฟิงเขาคืออัจฉริยะแห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ตงไห่ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปีทะลวงจากนักสู้ปุถุชนไปเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นใต้สวรรค์
ทุกครั้งที่โจวอี้กลับมาที่เมืองตงไห่เขาจะได้รับการสรรเสริญเยินยอจากทุกคน ฉิงเฟิงเป็นคนแรกที่ดูหมิ่นเขา
โจวอี้ดูถูกฉิงเฟิงเพราะเขาคิดว่าตัวเขาเป็นอัจฉริยะเขาต้องการที่จะสั่งสอนบทเรียนให้แก่ฉิงเฟิง แต่ถ้าเขารู้ว่าฉิงเฟิงทะลวงเข้าสู่ขั้นใต้สวรรค์ได้ด้วยเวลาเพียงแค่วันเดียว เขาคงแทรกแผ่นดินหนีเป็นแน่แท้…..
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฉิงเฟิงสามารถเข้าถึงขอบเขตใต้สวรรค์ภายในระยะเวลาอันสั้นได้ก็เนื่องมาจากการที่เขาคือวูฟคิงเขาคือคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในหมู่ปุถุชนคนธรรมดาและเหนือกว่าผู้อื่นทั้งหมด ไหวพริบและปฏิภาณทางด้านการฝึกฝนของเขาก็อยู่ในระดับเหนือคนธรรมดาอีกด้วย
“หลี่ฉิงเฟิง,ข้าคืออัจฉริยะ แต่แกกลับสร้างความอัปยศให้ข้าด้วยการบอกว่าจะล้มข้าด้วยหมัดเดียว วันนี้แกต้องชดใช้ต่อคำพูดอวดดีของแก !!” โจวอี้แสยะยิ้มและเดินไปหาฉิงเฟิง
โจวอี้โกรธกริ้วและตั้งสมาธิรวบรวมพลังทั้งหมดของเขาทุกก้าวที่เขาเดินจะทำให้พื้นหินอ่อนปริแตกเป็นชิ้นๆ
เมื่อเขามาถึงในระยะโจมตีและประจันหน้ากับฉิงเฟิงพื้นหินอ่อนโดยรอบก็แตกกระจายราวกับเกิดแผ่นดินไหว ทุกคนโดยรอบต่างก็ตกใจพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน มันอยู่นอกเหนือจินตนาการของพวกเขาไปไกลแล้ว
ทุกคนเริ่มเป็นกังวลแทนฉิงเฟิงยกเว้นโจวอี้เจียนและโจวชางแต่ฉิงเฟิงนั้นกลับไม่ได้ใส่ใจกับความทรงพลังของโจวอี้แม้แต่น้อยนิด เขาคิดว่าโจวอี้อ่อนแอเกินไป
ฮ่าห์
!!!
“
หมัดทลายศิลา
!!
“
โจวอี้คำรามลั่นและชกหมัดทลายศิลาออกไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา
หมัดนี้ทรงพลังมากมันฉีกอากาศโดยรอบเป็นชิ้นๆ ฝูงชนต้องยกมือปิดหูไว้เพราะทนเสียงแหลมของหมัดไม่ได้ ส่วนฉิงเฟิงก็กำลังท่องเคล็ดวิชาบางอย่างจากคัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์ในใจและจากนั้นทั่วทั้งร่างกายของเขาก็แข็งราวกับสำริด เขายกหมัดขวาขึ้น รวบมือ กำหมัด ง้างไปด้านหลังและเพ่งสมาธิรวบรวมพละกำลังทั้งหมดของเขาไว้ในหมัดนี้
“
ไสหัวไป
!!!!!
“
ฉิงเฟิงโห่ร้องออกมาและเหวี่ยงหมัดออกไปกลางอากาศปะทะเข้ากับหมัดทลายศิลาของโจวอี้
กร๊อบ
!
~
ตลอดทั้งแขนรวมถึงกระดูกแขนทั้งข้างของโจวอี้แหลกเป็นชิ้นๆมันน่าสยดสยองมาก ร่างกายใหญ่โตของโจวอี้ลอยละลิ่วและกระแทกเข้ากับกำแพงจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่และเขาก็ล้มลงกับพื้น
อ๊อก!
โจวอี้กระอักเลือดออกมาทั้งแขนของเขาแตกสลายหมดสภาพ ถึงแม้ว่ามันจะสามารถรักษาได้แต่ก็ไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม แม้ร่างกายจะเจ็บปวด แต่หัวใจของเขาเจ็บปวดมากกว่า
ตกใจและหวาดกลัวโจวอี้มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาราวกับเห็นอสูรร้าย