My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 634 เหยียบย่ำอย่างเหนือชั้น
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 634 เหยียบย่ำอย่างเหนือชั้น
อ่อนแอ
นายบอกว่าพวกเราอ่อนแอเกินไป
กวนหยาง,เย่จุ่ยหมิง, หวู่กุ้ยอิงและอู่เฟิ่งหวงต่างก็เดือดดาลเป็นการใหญ่ พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นอันดับหนึ่งของอารีน่าในเมืองใหญ่ ไม่ว่าเหยียบย่างไปที่ใดล้วนแต่มีผู้ให้ความเคารพ คนนับไม่ถ้วนพยายามจะเอาใจพวกเขา ไม่มีใครกล้าเรียกพวกเขาว่าอ่อนแอ ฉิงเฟิงเป็นเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้
“โอ้โห! สกายวูฟเสียสติไปแล้วหรือ เขากล้าเรียกเหล่านักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าฮีโร่ลิสต์ว่าอ่อนแอ”
“ไม่ผิดแน่พวกเขาทั้งสี่คนต่างก็ได้รับการเชิดชูจากคนทั่วไป ถ้าให้พวกเขากรุ้มลุมคนๆเดียวต้องเป็นที่น่าขายหน้าอย่างแน่นอน”
ฝูงคนรอบข้างคุยต่างก็พูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาคำพูดของพวกเขาทำให้นักสู้ทั้งสี่คนยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
เจ้าของบ่อนรับพนันในอารีน่า(ไม่เข็ด) รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นสกายวูฟสู้แบบ 1 ต่อ 4 กับแชมป์ของแต่ละเมือง เขาจึงเปิดโต๊ะรับเดิมพันอีกครั้ง
เมื่อครั้งที่ผ่านมาเจ้าของโต๊ะสูญเงินไปถึง20 ล้านหยวนให้แก่คิงคองและเสือดำ ครั้งนี้เขาต้องเอาคืน !
เจ้าของบ่อนมั่นใจว่าสกายวูฟจะต้องพ่ายแพ้หมดรูปแน่นอนเพราะฝ่ายตรงข้ามของเขาในครั้งนี้เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งถึงสี่คน ซึ่งทุกคนต่างก็เป็นแชมป์ในเมืองต่างๆ
“เปิดโต๊ะๆ!! สกายวูฟ VS 4แชมป์ผู้แข็งแกร่ง อัตราเดิมพันเท่ากับ 100: 1 หากสกายวูฟชนะจ่าย 100 ของจำนวนเงินเดิมพัน เร่เข้ามาๆ !!!”
ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างก็วิ่งไปแทงกันเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าของบ่อนถึงแม้ว่าผลตอบแทนจากการเดิมพันข้าง 4 นักสู้จะไม่สูงนัก แต่ทุกคนก็เลือกเดิมพัน 10,000 หยวนหรือแม้แต่ 1 ล้านหยวน ไม่มีใครเดิมพันข้างสกายวูฟเลย
คิงคองและเสือดำหันไปมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มพวกเขาเดินไปที่บ่อนและกล่าวว่า “พวกเราเดิมพัน 1 ล้านหยวนข้างสกายวูฟ”
พวกเขามั่นใจอย่างเปี่ยมล้นต่อท่านปู่หลี่ถึงแม้นักสู้ทั้งสี่จะแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นในตัวฉิงเฟิง
“พะ..พวกแกอีกแล้ว ! แน่ใจนะว่าต้องการแทงข้างสกายวูฟ ” เจ้าของบ่อนถาม
“ถูกต้องพวกเราแทงข้างสกายวูฟ” เสือดำและคิงคองกล่าวอย่างพร้อมเพรียง
ใบหน้าของเจ้าของบ่อนเต็มไปด้วยความสุขเขามั่นใจว่าได้เงินคืนแล้วแน่นอน
“เอ้าสี่ไก่ป่วย ถ้าพวกนายอยากสู้ก็เข้ามาเร็วๆอย่ามัวลีลา” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่ขมวดคิ้ว
“สกายวูฟนายมันโอหังเกินไปแล้ว ให้ฉันดูหน่อยว่านายมีดีแค่ไหนที่ดูถูกพวกเราเช่นนี้ !” กวนหยางกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น เขาคว้าง้าวยาวและฟาดฟันไปที่ฉิงเฟิง เขาต้องการสั่งสอนชายหนุ่มผู้โอหังคนนี้
ง้าวยาวในมือกวนหยางแม้จะหนักแต่มันก็ทะลุผ่านอากาศอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าหาร่างของฉิงเฟิง ถ้าหากโดนเข้าเขาจะต้องบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน
ผิดคาดที่ฉิงเฟิงยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อยามที่ง้าวยาวกำลังจะกระทบร่างของเขา เขาก็คว้าจับมันไว้ด้วยนิ้วมือ
ง้าวยาวมังกรเขียวมีความคมมากแต่ผิวหนังของฉิงเฟิงในตอนนี้ก็แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า เขาไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย แม้ว่ากวนหยางจะพยายามดึงง้าวออกเพียงใด มันก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
แกร่ก
!
ฉิงเฟิงออกแรงบีบที่นิ้วและหักง้างยาวในทันทีจากนั้นก็ผลักมันกลับไป กวนหยางรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งกร้าวสายหนึ่งที่พุ่งตรงมาหาเขาและบีบให้เขาต้องถอยหลังไปถึง 4 ก้าว
กล่าวได้ว่ากวนหยางพ่ายด้วยกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!
อะไรวะ
กวนหยางบนรายชื่อฮีโร่ลิสต์พ่าย
!
คนรอบข้างเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
สกายวูฟ
แข็งแกร่งมาก
!
นั่นเป็นง้าวที่แหลมคมเขาบ่นมันได้ด้วยนิ้วมือได้อย่างกัน
นิ้วของเขาทำจากเหล็กหรือเปล่า
“พวกนายพูดว่าจะท้าทายฉันตอนนี้ฉันก็มาแล้วไง เข้ามาสิ เข้ามาให้หมดเลย อย่าทำให้ฉันเสียเวลาอีกเลย” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เดินไปตรงกลางเวที เย่จุ่ยหมิง,หวู่กุ้ยอิง, อู่เฟิ่งหวงต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมจริงจัง พวกเขาทั้งหมดต่างก็รับรู้ว่ากวนหยางแข็งแรงแค่ไหน แต่กวนหยางก็พ่ายแพ้ด้วยกระบวนท่าเดียว นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉิงเฟิงถ้าสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง
“หวู่กุ้ยอิงพวกเราควรจะร่วมมือกัน” เย่จุ่ยหมิ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม
หวู่กุ้ยอิงพยักหน้าและกล่าวว่า“ชั้นเห็นด้วย อู่เฟิ่งหวง, หยางกวนพวกคุณว่าไง ”
ความจริงหวู่กุ้ยอิงเป็นนักสู้ที่ภาคภูมิและหยิ่งทระนงเธอเป็นคนของตระกูลที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในหัวเซี่ย ส่วนอีกสามคนก็เช่นเดียวกันพวกเขาต่างก็มีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจที่มาจากตระกูลศิลปะการต่อสู้
ในสถานการณ์ปกติพวกเขาจะไม่มีทางร่วมมือกันเพื่อรุมคนๆเดียวแต่ความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงนั้นมากเกินความคาดหมายของพวกเขา วิธีเดียวที่พวกเขาจะเอาชนะได้ก็คือต้องร่วมมือกัน ไม่งั้นพวกเขาก็ไม่อาจลบคำสบประมาทของฉิงเฟิงได้
ทั้งสี่คนเดินไปที่กลางลานประลองด้วยกันแม้แต่กวนหหยางที่เพิ่งพ่ายก็เดินขึ้นไปด้วย เขาต้องการที่จะแก้แค้น
ฉิงเฟิงยืนอยู่กลางเวทีและเฝ้าดูอยู่เฉยๆขณะที่ทั้งสี่คนล้อมรอบเขาไว้เขาไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยนิด เพียงแค่อยู่ยืนนิ่งๆมองไปที่ทั้งสี่คน
“ลงมือซะไม่งั้นพวกนายจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง นี่เป็นความอหังการของผู้ฝึกยุทธ์ ฉิงเฟิงไม่กริ่นเกรงพวกเขาแม้แต่น้อย
ผู้ชมที่อยู่รอบข้างต่างก็กลั้นลมหายใจขณะที่เฝ้าดูอยู่บนเวทีพวกเขากลัวที่จะพลาดการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ฮ่าห์
!!!!!
กวนหยางคำรามลั่นง้าวของเขาหักไปแล้ว เขาจึงโจมตีฉิงเฟิงด้วยหมัด หมัดของเขาแฝงพลังที่รุนแรงมากจนเสียดแทงทะลุอากาศ เขาอยู่ที่จุดสูงสุดสำหรับปุถุชน
“
หมัดแปด ทิศ
!!!
“
หวู่กุ้ยอิงรีดเค้นพลังทั้งหมดของเธอและชกหมัดแปดทิศออกไปจนเกิดหลุมขนาดมหึมาในอากาศและเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ร่างของฉิงเฟิง
ส่วนอีกสองด้านเย่จุ่ยหมิงก็ใช้หมัดหยงชุน ขณะที่อู่เฟิ่งหวงใช้กระบี่ง๊อไบ๊โจมตีฉิงเฟิง
ทั้งสี่คนฉลาดมากพวกเขาโจมตีฉิงเฟิงจากสี่ทิศทางที่แตกต่างกันเพื่อไม่ให้ฉิงเฟิงมีโอกาสตอบโต้ ถึงแม้ว่าเขาจะล้มคนใดคนหนึ่งได้ แต่เขาก็ต้องรับการโจมตีของอีก 3 คนที่เหลืออย่างเต็มเปา !
พวกเขาทั้งหมดเริ่มมองฉิงเฟิงในฐานะคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวจึงใช้พลังเต็มที่
ถึงแม้ว่าแผนของพวกเขาจะดูเข้าท่าแต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ฉิงเฟิงเพียงยืนอยู่กับที่และปล่อยให้หมัดของกวนหยาง หวู่กุ้ยอิงและเย่จุ่ยหมิง กระแทกใส่ร่างของเขาอย่างหฤโหด
จากนั้นฉิงเฟิงก็เหยียดนิ้วออกไปสองนิ้วคีบจับกระบี่ของอู่เฟิ่งหวงและหักมันอย่างง่ายดาย เขาผลักฝ่ามือเข้ากระทบร่างของเธอ ส่งผลให้เธอกระเด็นออกไปและกระอักเลือดออกมาทันที
ถึงแม้ว่าอู่เฟิ่งหวงจะนับได้ว่าเป็นสาวงามคนหนึ่งแต่ฉิงเฟิงก็ลงมือกับเธออย่างรุนแรงและไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย
กร๊อบ
!
กร๊อบ
!
กร๊อบ !
กระดูกที่มือของกวนหยางหวู่กุ้ยอิงและเย่จุ่ยหมิงต่างก็แหลกละเอียดจากการเหวี่ยงหมัดเต็มแรงเข้าใส่ร่างของฉิงเฟิง พวกเขารู้สึกราวกับว่าหมัดของพวกเขาชกใส่กำแพงเหล็กกล้า
“ฉันพูดไปแล้วไงพวกนายอ่อนแอเกินไป ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ขณะที่ฉันยืนเฉยๆพวกนายยังสร้างบาดแผลให้ฉันไม่ได้แม้แต่น้อยนิด”