My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 647 โหดร้ายต่อคนเลว
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 647 โหดร้ายต่อคนเลว
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงฝูงชนรอบๆก็หันไปมองที่หญิงวัยกลางคนและพบว่าเธอไม่เห็นมีเลือดออกที่ขาแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าเธออ้างว่าโดนรถชนจนขาหักหรอกหรือ
ทำไมไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว
ในขณะนี้เริ่มมีบางคนสงสัยในตัวผู้หญิงวัยกลางคนสถานีรถไฟเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย หรือว่าเธอจะเป็นมิจฉาชีพ
เมื่อเห็นทัศนคติของฝูงชนที่มีต่อเธอเธอก็ปรากฏความตื่นตระหนกในแววตา เธอจ้องไปที่ฉิงเฟิงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อและก้นด่าสาปแช่งเขาในใจ เพราะถ้าเขาไม่ได้ชี้นำให้ฝูงชนเห็นว่าเธอไม่ได้มีเลือดออก ป่านนี้เธอคงไถเงินได้สบายๆไปแล้ว
จากนั้นหญิงวัยกลางคนก็หลิ่วตามองไปที่ชายวัยกลางคนผมสั้นที่ปะปนอยู่ในฝูงชนชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็รีบวิ่งออกมาจากฝูงชนและมาข้างๆผู้หญิงวัยกลางคน
“โอ้! ที่รัก คุณเลือดออกนี่ บ้าเอ้ย ใครกันวะขับรถห่วยแตกขนาดนี้ จะฆ่าจะแกงกันเลยหรือไง ”
ในพริบตาที่ชายคนนั้นเข้ามาใกล้หญิงวัยกลางคนเขาก็หยิบถุงที่มีเลือดออกมาจากกระเป๋าและเทไปที่ขาของหญิงวัยกลางคนขณะที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เลือดไหลนองท่วมขาผู้หญิงคนนั้นทันที
ผู้คนรอบข้างเริ่มแสดงความเห็นอกเห็นใจอีกครั้งเมื่อพวกเขาเห็นเลือดที่ขาของเธอ
ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนผมสั้นจะทำอย่างลับๆและไม่มีใครสังเกตเห็นแต่ฉิงเฟิงก็รู้ เขารู้ว่าเลือดที่ชายคนนี้เทลงไปไม่ใช่เลือดคน มันคือเลือดไก่
“ชดใช้ให้เรามาเลย! ภรรยาฉันขาหักเลือดไหลท่วมเลยเห็นไหม ฉันจะได้รีบพาเธอไปโรงพยาบาล” ชายผมสั้นร่ำร้องออกมาด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย
ต้องบอกว่ามิจฉาชีพพวกนี้ไม่เพียงแค่เป็นมืออาชีพแต่พวกเขายังโผงผ่างอีกด้วย พวกเขากล้าที่จะแบล็กเมล์คนตอนกลางวันแสกๆ
ฉิงเฟิงยิ้มให้ชายผมสั้นอย่างเย็นยะเยือกและถามว่า
“ฉันขอถามอะไรหน่อยสิถ้าขาที่หักมีมูลค่าหนึ่งล้านหยวนงั้นเราจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่หากฆ่าภรรยาของนาย ”
“พ่อหนุ่มคุณโชคดีแล้วที่ภรรยาของฉันแค่ขาหัก ถ้าเกิดเธอตายไปคุณต้องชดใช้สิบล้านหยวน”
“เข้าใจละถ้าเราสามารถจ่ายเงินสิบล้านหยวนเพื่อฆ่าภรรยาของคุณได้ งั้นฉันจะต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะทุบตีนายจนตายได้ “
“คุณโง่หรือเปล่าแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องสิบล้านหยวนเช่นเดียวกับภรรยาของฉัน” “เยี่ยม! เอานี่ไป ในบัตรนี้มีเงินอยู่ยี่สิบล้านหยวนเพียงพอที่จะฆ่าพวกนายทั้งคู่”
ฉิงเฟิงแสยะยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม
บรื้น
!!
ฉิงเฟิงกลับไปขึ้นรถเหยียบคันเร่งและรถขับเตรียมจะพุ่งเข้าชนหญิงวัยกลางคน
“หยุด! หยุด !!! พ่อหนุ่มหยุดก่อน !” เมื่อเห็นฉิงเฟิงเดินไปขึ้นรถและเตรียมจะขับชนพวกเขาให้ตาย ชายผมสั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่นพร้อมกับตะโกนออกมาทันที
“ทำไม ก็ไหนนายบอกว่าจ่ายเงิน 10 ล้านหยวนสามารถชดใช้การตายของแต่ละคนได้ งั้นฉันก็ขอจ่ายรวดเดียวแล้วฆ่าพวกนายทั้งคู่ไปเลย” ฉิงเฟิงยิ้มอย่างโหดร้ายและเตรียมจะขับรถชนหญิงวัยกลางคนต่อไป
หญิงวัยกลางคนที่นอนอยู่บนพื้นดินก็ตกตะลึงจนหน้าซีดเธอคิดว่าฉิงเฟิงตกลงที่จะจ่ายเงินชดใช้ให้เธอ แต่สิ่งที่เขาทำกลับเกินความคาดหมายของเธอไปไกล เขายอมจ่ายยี่สิบล้านเพื่อฆ่าพวกเธอทั้งคู่ !
เมื่อเห็นรถที่ฉิงเฟิงขับกำลังใกล้เข้ามาใบหน้าของผู้หญิงวัยกลางคนก็ซีดเผือดดุจกระดาษขาว เธออยากจะหาเงินง่ายๆด้วยการแบล็กเมล์ผู้คน แต่ถ้าต้องตายไปเงินทองมากแค่ไหนก็ไร้ค่า
หวือ!
ทันใดนั้นหญิงวัยกลางคนก็ลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งหลบรถไปซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อย
“เวรเอ้ย! นี่มันพวกต้มตุ๋นนี่หว่า ยัยป้าคนนี้ไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย วิ่งปร๋อเชียว”
“เออว่ะดูเลือดบนพื้นสิ ไม่ใช่เลือดคน นี่มันเลือดไก่ !”
“น่าขายหน้าชิบดีนะชายหนุ่มคนนี้เฉลียวฉลาดมาก ขู่จนพวกมันกลัวเผยไต๋ออกมา”
ฝูงคนที่อยู่รอบๆต่างก็แสดงความคิดเห็นและโกรธเกรี้ยว
เมื่อชายผมสั้นเห็นว่าโดนจับได้เขาก็หันหลังกลับด้วยความหวังที่จะวิ่งหนีไป แต่ฉิงเฟิงคว้าคอชายคนนั้นไว้ทันทีและกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “นายจะไปไหน ”
“ปล่อยฉันสิวะ!” ชายผมสั้นหน้าซีดและตะโกนออกมา
ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและกล่าวว่า“ปล่อยนาย พวกนายต้มตุ๋นคนแถวนี้มามากเท่าไรแล้ว วันนี้จะมอบบทเรียนให้นายเอง”
แกร่ก!
ฉิงเฟิงยกเท้าขวาขึ้นและกระทืบลงไปที่ขาของชายผมสั้นขาของเขาหักในทันที
“อั่ก! ขา ! ขาฉัน !!!” ชายผมสั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ครั้งนี้เขาไม่ได้แกล้งทำ แต่ขาของเขาหักจริงๆจากน้ำมือของฉิงเฟิง
“นี่เป็นการลงโทษคราวหน้าถ้าฉันเจอพวกนายอีกฉันจะตัดขาทั้งสองข้างของนาย”
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “ที่รักจบเรื่องแล้ว เราไปกันเถอะ” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินไปกับหลินเสวี่ย
ชายวัยกลางคนผมสั้นที่ใบหน้าซีดเซียวด้วยความเจ็บปวดมองฉิงเฟิงจากด้านหลังด้วยสายตาเคียดแค้นเหตุผลที่เขากล้าเป็นนักต้มตุ๋นที่นี่เพราะเขาเกี่ยวข้องกับพวกอันธพาล เขามีแบ็ค
“ไอ้หนุ่มแกกล้าหักขาและขัดขวางธุรกิจของฉัน ฉันไม่ยอมให้เรื่องมันจบแค่นี้แน่ !”
ชายวัยกลางผมสั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรออกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้าย
“พี่หัวเขียว,วันนี้ผมโดนทำร้ายตอนกำลังทำธุรกิจ พี่ต้องแก้แค้นให้ผมนะ !”
ชายวัยกลางคนผมสั้นพูดผ่านทางโทรศัพท์
“ไรนะ มีคนกล้าขัดขวางการทำธุรกิจของพวกเรางั้นเรอะ ? แกอยู่ไหนเดี๋ยวข้าส่งคนไปจัดการมันเอง !” หัวเขียวตะโกนผ่านทางโทรศัพท์ ในความเป็นจริงชายวัยกลางคนผมสั้นและผู้หญิงทำการต้มตุ๋นและแบ่งเงินให้กับแก๊งของหัวเขียว พวกเขาเป็นเหมือนหุ้นส่วนกัน
การที่ฉิงเฟิงทุบตีชายวัยกลางคนผมสั้นและเปิดโปงการต้มตุ๋นของพวกเขาทำให้ธุรกิจของพวกเขาเสียหายหัวเขียวจึงโกรธมาก
“พี่หัวเขียวผมอยู่ที่ห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ” ชายวัยกลางคนกล่าว
“แกรออยู่นั่นเดี๋ยวข้าไปพร้อมกับเด็กๆทันที” หัวเขียววางสายไปหลังจากกล่าวจบและรีบมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกับเหล่าลูกน้อง
ในเวลานั้นฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็ได้เข้าไปในห้างค้าส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าชายวัยกลางคนกำลังเตรียมการแก้แค้น
ศูนย์ค้าส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งนี้มี10 ชั้นมันเป็นห้างขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าหนึ่งพันเอเคอร์ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เช่น ทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศรวมทั้งโทรศัพท์มือถือ
เป็นที่แน่นอนว่าย่อมมีผู้คนมากมายที่นี่เมื่อเดินเข้าไปในห้างฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็พบว่ามีผู้คนแออัดมากจนแทบจะเดินไหล่ชนกัน
“ที่รักที่นี่คนเยอะจัง”หลินเสวี่ยไม่ค่อยได้มาที่นี่ และวันนี้ก็เป็นวันหยุดพอดีจึงทำให้มีผู้คนมาซื้อของจับจ่ายใช้สอยกันมากมาย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรค่อยๆเดินก็แล้วกัน” ฉิงเฟิงกุมมือเล็กๆของหลินเสวี่ยและเดินเบียดกับฝูงชนขึ้นไปที่ชั้นสอง
ชั้นสองของห้างนี้หลักๆจะขายทีวีซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีวี LCD มันมีตั้งแต่ 19 นิ้วถึง 50 นิ้ว และมีหลากหลายยี่ห้อ ได้แก่ Hisense, Changhong, Skyworth, TCL, Konka, LeTV, Amoi เป็นต้น
ในขณะเดียวกันฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็รู้สึกตาลายและคิดไม่ออกว่าจะซื้อยี่ห้ออะไรดี