My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 669 สมาพันธ์เทวานภา ผู้สืบทอดแห่งพระผู้เป็นเจ้า
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 669 สมาพันธ์เทวานภา ผู้สืบทอดแห่งพระผู้เป็นเจ้า
“หนูน้อยหมวกแดงพี่หมาป่าผู้เลวร้ายคนนี้ปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ฟังความปรารถนาและความกังวลในน้ำเสียงของหลินเสวี่ยก็ทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกประทับใจมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งจากไปแค่เพียงวันเดียวแต่ฉิงเฟิงก็คิดถึงหลินเสวี่ยเช่นกัน เขาตัดสินใจที่จะรีบกลับเมืองตงไห่ทันทีที่ธุระในทวีปเสือของเขาเสร็จสิ้น
“พี่หมาป่าตัวใหญ่ดูแลตัวเองดีๆนะ ผู้คนเลวร้ายข้างนอกนั่นมีมากมาย” ใบหน้าที่งดงามของหลินเสวี่ยเริ่มแดงขึ้นและเขินอายอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกเอียงอายตลอดเวลาที่ฉิงเฟิงเรียกเธอว่าหนูน้อยหมวกแดง
“หนูน้อยหมวกแดงไม่ต้องห่วง คนเลวๆพวกนั้นไม่ใช่คู่มือของพี่หมาป่าหรอก”
“อืม…อีกเรื่อง คุณไม่ได้รับอนุญาตให้จีบผู้หญิงอื่น”
“ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่จีบสาวไหนแน่นอน !”
“หนูน้อยหมวกแดงคนนี้จะรอคุณกลับมารีบกลับมาเร็วๆนะ”
“แน่นอนพี่หมาป่าจะรีบกลับไวๆ หนูน้อยหมวกแดงอาบน้ำรอได้เลย”
ฉิงเฟิงยิ้มและวางสายโทรศัพท์ไปเพราะแคทเธอรีนกำลังรอ
ถ้าหากแคทเธอรีนไม่ได้รออยู่ฉิงเฟิงจะคุยกับหลินเสวี่ยต่ออีกสักพัก
หลังจากฉิงเฟิงวางสายหลินเสวี่ยเขาก็โทรหาหลิวหรูหยานเพื่อรายงานความปลอดภัยของเขาให้เธอมั่นใจและไม่เป็นกังวล
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของฉิงเฟิงแคทเธอรีนก็กลอกตาของเธอและกล่าวว่า
“ชั้นไม่คิดเลยนะคะว่าวูฟคิงผู้ยิ่งที่สุดในโลกใต้ดินก็ใช้คำพูดเล่นเป็นเด็กยามว่างแบบนี้”
ในใจของแคทเธอรีนวูฟคิงนั้นทรงพลัง ดุร้ายและไร้เทียมทานเสมอ อย่างไรก็ตาม เขาดูเหมือนจะเป็นผู้โง่งมในความรัก
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและไม่กล่าวอะไรเกมเล็กๆเหล่านี้เป็นความลับระหว่างเขากับหลินเสวี่ย
“อลิซเธอกับเบอร์นาร์ดพักผ่อนที่นี่กันไปก่อน ฉันจะไปพบลอร์ดอัลบรอนกับแคทเธอรีน” ฉิงเฟิงหันหน้าไปหาอลิซและกล่าว
“วูฟคิงคะจะให้ดีพวกเราต้องพามิสอลิซไปด้วย ลอร์ดอัลบรอนก็อยากพบเธอเช่นกัน” แคทเธอรีนกล่าว
ฉิงเฟิงรู้สึกงงงันว่าทำไมลอร์ดอัลบรอนถึงต้องการพบอลิซด้วยดังนั้นเขาจึงต้องพาเธอไปด้วยกัน
ทันทีที่พวกเขาออกจากคฤหาสน์ไวน์ของเบอร์นาร์ดพวกเขาก็ได้พบกับชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ผู้ชายคนนี้หล่อเหลาคิ้วเข้ม ดูจากสีผิวและสีผมของเขาทำให้พอจะเดาออกว่าเขาเป็นคนของทวีปมังกรอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนสวมชุดโบราณสะพายกระบี่ยาวอยู่ข้างหลังเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นมือกระบี่ เขาเพิ่งผ่านคฤหาสน์ของเบอร์นาร์ดมาเนื่องจากมีกลิ่นคาวเลือดติดตัว
มือกระบี่วัยกลางคนยืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าเขาหลอมรวมเข้ากับสวรรค์และโลกหากไม่สังเกตดีๆจะไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น
ฉิงเฟิงหันไปมองมือกระบี่ผู้นั้นเพียงแวบเดียวและขึ้นรถพร้อมกับอลิซและแคทเธอรีนทันที
“บุรุษหนุ่มผู้นี้…คุ้นหน้าเรานัก”
มือกระบี่กล่าวพึมพัมในขณะที่เขาเฝ้าดูฉิงเฟิงขับรถออกไป
ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างออกชายหนุ่มคนนี้ดูคล้ายกับราชันผู้พิชิต หลี่ซาน
“เป็นไปได้ไหมว่าชายหนุ่มคนนี้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับหลี่ซาน”
เมื่อเฝ้ามองดูฉิงเฟิงขับรถออกไปมือกระบี่ผู้นี้ก็จมอยู่กับความคิด
“
ไม่ว่าพวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ตามข้าก็ต้องถามเขา
”
หลังจากลังเลเล็กน้อยมือกระบี่ก็ตามฉิงเฟิงไปเขารวดเร็วมากและหายตัวไปในพริบตา
*******************
อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส(Notre-Dame de Paris) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส มันเป็นสถานที่ที่ซึ่งกลุ่มทะเลศักดิ์สิทธิ์ดำเนินการอยู่ และยังเป็นที่ซึ่งพระคาร์ดินัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้ง3ของทวีปเสือมาสวดอธิษฐานอีกด้วย
อาสนวิหารน็อทร์-ดามตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโดยครองตำแหน่งที่สำคัญมันหรูหราตระการตาอย่างไม่น่าเชื่อ อาคารทั้งหลังสร้างจากหินอ่อนสีขาวลักษณะสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับของทวีปยุโรป เรียบเนียน สงบและดูเคร่งขรึม ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นต่างก็ประทับใจในความโอ่อ่าของมัน
ในขณะนี้บนเก้าอี้ยาวแถวหน้าสุดมีชายสูงอายุคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ เขามีอายุประมาณ 60 ปี เขามีผมขาวและจมูกสูงโด่ง เขาสวมเสื้อคลุมสีแดง ในมือของเขาถือคัมภีร์ไบเบิ้ลเอาไว้และกำลังสวดอธิษฐานอย่างเงียบงัน
ผู้อาวุโสคนนี้คืออัลบรอนเขาเป็นหนึ่งในสามพระคาร์ดินัลที่สำคัญที่สุดของสันตะสำนัก (ขอเปลี่ยนจากทะเลศักดิ์สิทธิ์ Holy see เป็นสันตะสำนักนะครับมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการปกครองของคริสตจักรโรมันคาทอลิก)
สันตะสำนัก
[1]
หรือ
อาณาจักรอันศักดิ์สิทธิ์
[2]
(ละติน: Santa Sede; อังกฤษ: Holy See) คือมุขมณฑลโรมันคาทอลิกในกรุงโรม และเนื่องจากกรุงโรมมีความสำคัญที่สุดในคริสตจักรโรมันคาทอลิก มุขนายกแห่งโรมจึงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาอันเป็นตำแหน่งประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั้งหมดด้วย สันตะสำนักเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลางของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ฉะนั้นเมื่อกล่าวถึง “สันตะสำนัก” จึงหมายถึงองค์กรบริหารส่วนกลางของคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั้งหมด
[1]
และเป็นอาณาจักรทางศาสนาที่เป็นที่ยอมรับตามกฎหมายนานาชาติว่าเป็นรัฐอิสระที่มีประมุขเป็นพระสันตะปาปาและสถาปนาความสัมพันธ์ทางทูตกับประเทศอื่นได้
[3]
สันตะสำนักแบ่งการบริหารออกเป็น4 ระดับ
[1]
ได้แก่
สมณะกระทรวง(Congregation)
สมณะทบวง(PontificalCouncil)
สำนักกรรมาธิการ(PontificalCommission)
สำนักงาน(Holy Office)
ทั้งนี้สันตะสำนักไม่ใช่นครรัฐวาติกันที่ก่อตั้งในปีค.ศ. 1929 สันตะสำนักถือว่ามีมาตั้งแต่ศาสนาคริสต์ยุคแรก ตำแหน่งทูตจะไม่ใช่ตำแหน่งทูตแห่งนครรัฐวาติกัน แต่จะเป็นทูตแห่งสันตะสำนัก และผู้แทนของพระสันตะปาปาในรัฐหรือประเทศอื่นก็ถือว่าเป็นผู้แทนของสันตะสำนัก มิใช่ผู้แทนของนครรัฐวาติกันเรียกว่าเอกอัครสมณทูต
ขณะที่มุขมณฑลอื่นๆ ในคริสตจักรต่างก็เป็นมุขมณฑลที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่การเรียกอาณาจักรอันศักดิ์สิทธิ์โดยทั่วไปแล้วจะเป็นความหมายที่ใช้ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและในความหมายของประมวลกฎหมายพระศาสนจักร
[4]
ที่หมายถึงรัฐบาลกลางของคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั้งหมด
ระบบการปกครอง
ผู้ปกครองสูงสุด– พระสันตะปาปา
คณะพระคาร์ดินัล
สำนักกรมวัง
สำนักสมณะนายก
สมณะกระทรวง
ศาลยุติธรรม
สมณะทบวง
***********************************
แคทเธอรีนพาฉิงเฟิงและอลิซเข้าไปที่น็อทร์-ดามแห่งปารีสเป็นการส่วนตัวเมื่อผู้ออกบวชสองคนเห็นแคทเธอรีน พวกเขาก็โค้งทักทายเธอด้วยความนับถือ เห็นได้ชัดว่าแคทเธอรีนมีสถานะเป็นอย่างสูงที่นี่
“มาสเตอร์อัลบรอนคะ,วูฟคิงและมิสอลิซมาถึงแล้ว” แคทเธอรีนกล่าวขณะที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าอัลบรอน
อัลบรอนปิดหน้าคัมภีร์ไบเบิ้ลและวางลงเขาลุกขึ้นยืนและหันหน้ามาด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าหญิงอลิซที่รัก,พวกเราได้พบกันอีกครั้ง”
“เป็นคุณ!” เมื่อเห็นใบหน้าของชายชราผมขาว ใบหน้าที่งดงามของอลิซก็เต็มไปด้วยความตกใจราวกับเพิ่งเห็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อห้าปีก่อนตอนที่อลิซยังคงเป็นเจ้าหญิงสวีเดน (เห็นจ๊ะจ๋าแบบนี้นางเป็นถึงเจ้าหญิงนะเออ) เธอเคยได้พบกับอัลบรอนในพระราชวังมาก่อน ในวันนั้นเขาเพียงใส่ชุดสบายๆไม่ใช่ชุดคลุมสีแดงเช่นนี้ ต่อมาอลิซหนีออกจากพระราชวังเพื่อหนีการสมรสกับคนผู้หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็ได้พบกับฉิงเฟิงและเข้าร่วมทีมเขี้ยวหมาป่า
“เจ้าหญิงอลิซพระราชาคิดถึงท่านอย่างสุดซึ้ง เขาต้องการให้ท่านกลับไปที่พระราชวังและเข้าพิธีแต่งงานซะ” อัลบรอนกล่าวกับอลิซด้วยการแสดงออกที่จริงจัง
“ไม่! ไม่มีทาง ชั้นจะไม่มีวันแต่งงานกับออกัสติน” อลิซสั่นหัวปฏิเสธอย่างรุนแรง
ออกัสติน
!
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วของเขาด้วยความประหลาดใจเท่าที่เขารู้มา ออกัสตินเป็นนายน้อยผู้ทรงอำนาจที่สุดในทวีปเสือ(ยุโรป), สมาพันธ์เทวะนภา (Sky God League)เขาถือครองสถานะที่สูงส่งที่สุด กลับกลายเป็นว่าความจริงแล้วอลิซเป็นคู่หมั้นของคนผู้นี้ !
แต่เป็นที่แน่นอนในเมื่อตอนนี้อลิซเป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่มีทางยอมทนดูอลิซต้องเข้าพิธีแต่งงาน ต่อให้คนๆนั้นจะเป็นออกัสตินก็ตาม
“วูฟคิงผมเชิญคุณมาที่นี่ในวันนี้เหตุผลหลักก็คือขอให้คุณช่วยโน้มน้าวอลิซ เพราะเจ้าหญิงอลิซเป็นสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าของคุณ ผมหวังว่าคุณจะพาเธอกลับไปที่พระราชวังเพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับนายน้อยออกัสติน” อัลบรอนยิ้มเล็กน้อย แววตาของเขาสงบนิ่ง
“พระคาร์ดินัลผมขอโทษที่คงต้องทำให้ท่านผิดหวัง ผมจะไม่มีวันให้อลิซออกจากทีมเขี้ยวหมาป่า นอกจากนี้ ไม่มีทางที่ผมจะให้อลิซแต่งงานกับออกัสตินแน่นอน”
ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆเสียงของเขาจริงจังมาก
อัลบรอนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า“วูฟคิง คุณเป็นผู้ปกครองโลกใต้ดิน คุณย่อมรู้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่สมาพันธ์เทวะนภามีอยู่”
“แน่นอนว่าผมรู้มันคือกองกำลังที่ทรงพลังมากที่สุดในทวีปยุโรป พวกคุณเรียกตัวเองว่า ‘ผู้สืบทอดของพระเจ้าจากสรวงสวรรค์’”
ถึงแม้ฉิงเฟิงจะครองฉายาวูฟคิงแต่เขาก็มีความรู้ความชำนาญมาก เมื่อกล่าวถึงกองกำลังที่ปกครองเหนือเจ็ดทวีปและสี่มหาสมุทร ในทวีปเสือสมาพันธ์เทวะนภาแข็งแกร่งไร้เทียมทานที่สุด แม้ว่าในทวีปเสือจะมีหลายประเทศแต่สมาพันธ์เทวะนภาก็ยังคงแข็งแกร่งที่สุด
สมาพันธ์เทวะนภาลึกลับจนมิอาจหยั่งคาดอีกทั้งทรงพลังสุดขั้ว กองกำลังนี้มีนักรบอมตะในตำนานและเทวทูตอีกด้วย
“วูฟคิงในเมื่อคุณรู้ถึงพลังอำนาจของสมาพันธ์เทวะนภา คุณก็ควรจะปล่อยเจ้าหญิงอลิซไป ถ้าขืนคุณยังดื้อดึง คุณจะต้องกลายเป็นศัตรูกับกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเสือ นอกจากพวกเขาแล้ว คุณต้องเผชิญหน้ากับสันตะสำนักเราอีกด้วย เนื่องจากนายน้อยออกัสตินเป็นบุคลที่พวกเราอุ้มชูและหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง” อัลบรอนกล่าวอย่างสงบ และข่มขู่ทุกถ้อยคำ