My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 674 ศัตรูขวางทาง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 674 ศัตรูขวางทาง
“ขอบคุณครับลุงเนี่ย”ฉิงเฟิงกล่าวขอบคุณ ภายใต้การยืนกรานของเนี่ยอู๋ซวง ฉิงเฟิงทำได้เพียงต้องยอมรับกระบี่เพลิงแดงเล่มนี้เท่านั้น
เขารู้ดีว่าของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไปมันเป็นของล้ำค่าที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยเงินทอง ถึงแม้ว่าจะเป็น 100 ล้านหรือ 1000 ล้านก็ไม่อาจซื้อมัน
“ฉิงเฟิงตอนนี้เจ้าจะกลับหัวเซี่ย ข้าจะติดตามเจ้าไปที่สนามบิน” เนี่ยอู๋ซวงกล่าวอย่างสงบ โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่สงบนิ่งมาก เขาเพียงกล่าวชมเชยฉิงเฟิงตอนที่เขาเห็นการเรียนรู้ที่รวดเร็วของเขา
นักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์เกือบทั้งหมดมักจะสงบนิ่งน้อยครั้งมากที่พวกเขาจะแสดงอาการใดๆออกมา
“ลุงเนี่ยผมคิดว่าจะกลับวันนี้ ภรรยาของผม หลินเสวี่ย เธอกำลังรอผมอยู่”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เหลือเวลาอีกเพียง12 วันเท่านั้นก็จะถึงงานแต่งงานของพวกเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฉิงเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นกับ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาแค่สองวันนับตั้งแต่ที่เขามาถึงทวีปเสือ แต่ภายในใจของเขามันช่างยาวนาน เขาคิดถึงหลินเสวี่ยอย่างสุดซึ้ง
“ฝ่าบาทวูฟคิงผมจองตั๋วเครื่องบินให้คุณไว้แล้ว คุณสามารถเดินทางได้ทุกเมื่อครับ”
เบอร์นาร์ดเดินเข้ามาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินในมือ
แต่ทันทีที่เข้ามาในห้องเบอร์นาร์ดก็ตกตะลึงเมื่อเห็นสภาพห้องที่พังยับเยินห้องนี้สร้างจากหินอ่อนและหินแกรนิตที่มีความยืดหยุ่นสูง แต่ตอนนี้มันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
เบอร์นาร์ดมองไปที่ฉิงเฟิงและเนี่ยอู๋ซวงด้วยความเคารพนับถือมันคือความเคารพที่มีให้แก่นักสู้ที่แข็งแกร่ง
อลิซเดินตามหลังเบอร์นาร์ดเข้าไปในห้องเธอกล่าวว่า “บอสคะ พี่หรูหยานโทรหาชั้นเมื่อสักครู่ เธอถามชั้นว่าคุณจะกลับมาเมื่อไหร่ ”
อลิซกับหลิวหรูหยานอาศัยอยู่ด้วยกันทำให้พวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันดังนั้นเธอจึงเรียกหลิวหรูหยานว่า ‘พี่หรูหยาน’
“อลิซพวกเราจะกลับกันเดี๋ยวนี้เลย” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาคิดถึงหลินเสวี่ย หลิวหรูหยานและลูกในท้องของหลิวหรูหยานอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะกลับหัวเซี่ยโดยเร็วที่สุด
ฉิงเฟิงรับตั๋วเครื่องบินจากเบอร์นาร์ดจากนั้นเขาก็เดินออกมา
เบอร์นาร์ดเป็นคนขับรถเนี่ยอู๋ซวงนั่งข้างๆเขาขณะที่ฉิงเฟิงกับอลิซนั่งอยู่เบาหลัง
โดยปกติจากคฤหาสน์ของเบอร์นาร์ดต้องใช้เวลาประมาณ30 นาทีเพื่อไปยังสนามบิน แต่ในขณะที่เบอร์นาร์ดเพิ่งขับมาได้เพียง 10 นาที เขาก็ถูกขวางทาง
มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่สวมชุดหนังจระเข้ยืนอยู่หน้ารถผู้หญิงคนนี้อายุประมาณยี่สิบปีและสวยงามมาก เธอมีผมบลอนด์และเรือนร่างที่สวยงาม ชุดหนังจระเข้ที่โอบรัดร่างกายของเธอเผยให้เห็นน่องขาขาวเรียวยาวและทำให้เธอมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีชายสองคนอยู่ข้างหลังผู้หญิงสาวสวยพวกเขาทั้งสองคนนี้ร่างสูงโปร่งและปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา
“พวกคุณเป็นใครทำไมถึงมาขวางทางพวกเรา ” เบอร์นาร์ดถาม
“พวกเรามาจากตระกูลกาโตร์บอกวูฟคิงให้ออกมาและรับความตายซะ” ผู้หญิงสาวสวยกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น
เธอมาตามคำสั่งของหัวหน้าตระกูลกาโตร์,โซเบ็ค เธอมาที่นี่เพื่อฆ่าวูฟคิง
ความรู้สึกของฉิงเฟิงกลายเป็นมืดครึ้มเขาไม่คาดคิดว่าปัญหาจะมาเยือนก่อนเขาจะกลับหัวเซี่ย
ฉิงเฟิงเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลกาโตร์เป็นธรรมดาพวกเขาเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของทวีปเสือ ตระกูลนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าบางประเทศในทวีปเสือด้วยซ้ำ
“ฉิงเฟิงคนเหล่านี้เป็นนักสู้ขั้นเหนือสวรรค์ เจ้าอยู่ในรถไป ข้าจะจัดการพวกมันเอง”เนี่ยอู๋ซวงกล่าวขณะที่เดินลงจากรถ
“ลุงเนี่ยใช้กระบี่เพลิงแดงของท่านสิ” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่ส่งกระบี่ให้เนี่ยอู๋ซวง เขาคิดว่าเนี่ยอู๋ซวงอาจจะจำเป็นต้องใช้มันเพื่อฆ่าศัตรู
“ไม่ต้องแค่ขั้นเหนือสวรรค์มันง่ายดายมากที่จะฆ่าพวกมัน” เนี่ยอู๋ซวงกล่าวพร้อมกับโบกมือ จากนั้นเขาก็ออกจากรถมาอย่างสงบ
นักสู้ระดับเหนือสวรรค์นั้นทรงพลังอย่างมากในสายตาของฉิงเฟิงอย่างไรก็ตาม สำหรับราชันกระบี่ซึ่งอยู่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ พวกเขาทั้งหมดต่างก็อ่อนแอ
“คุณเป็นใคร พวกเราจะฆ่าวูฟคิง คนไม่เกี่ยวไสหัวไป” สาวสวยกล่าวอย่างเย็นชาเมื่อเธอเห็นเนี่ยอู๋ซวง
ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยพบเนี่ยอู๋ซวงมาก่อนเธอจึงไม่รู้ว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าเธอคือราชันกระบี่หัวเซี่ยซึ่งในทวีปเสือไม่มีใครอื่นนอกจากอัลบรอน แคทเธอรีนและฉิงเฟิงที่รู้อัตลักษณ์ของเนี่ยอู๋ซวง
ถ้าผู้หญิงคนนี้รู้ว่าชายวัยกลางคนข้างหน้าเธอคือราชันกระบี่หัวเซี่ยเธอคงจะหนีในทันที
“ข้าจะให้โอกาสแก่พวกเจ้ารีบไปให้พ้นไม่งั้นข้าจะจบชีวิตพวกเจ้าทุกคนซะ” เนี่ยอู๋ซวงกล่าวอย่างอวดดีในขณะที่ยืนอยู่หน้ารถ
“ฮ่าๆๆน่าขันนัก ชั้นมีนักสู้ขั้นเหนือสวรรค์อยู่ข้างๆถึง 2 คน แต่คุณจะฆ่าพวกเรา คุณโง่หรือเปล่า ?” ผู้หญิงสาวสวยกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ
ในทวีปเสือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงปารีสผู้หญิงคนนี้ถือว่าทรงพลังอย่างมาก เมื่อเธอได้ยินคำข่มขู่ของเนี่ยอู๋ซวงก็เป็นธรรมดาที่เธอจะโกรธ
“เจ้าช่างรนหาที่ตาย”เนี่ยอู๋ซวงกล่าวอย่างเย็นชา เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมาพร้อมกับเขตแดนแห่งแกรนด์มาสเตอร์ของเขา ตรึงร่างทุกคนไว้ในทันที
“อะ…อะไรกัน ทำไมชั้นขยับตัวไม่ได้ ?” เธอกล่าวด้วยความหวาดกลัว เธอไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย
ชายชุดดำที่อยู่ถัดจากผู้หญิงคนนั้นมีประสบการณ์มากกว่าเขาจำได้ว่าผู้นำตระกูลกาโตร์เคยใช้เทคนิคแบบเดียวกันนี้กับเขา ซึ่งเทคนิคนี้ใช้ได้เพียงนักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์ขึ้นไปเท่านั้น
“นายหญิงเรามีปัญหาแล้ว ชายผู้นี้เป็นนักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์ !” ชายชุดดำกล่าวอย่างหวาดกลัว
นักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์นั้นเป็นดั่งนักรบในตำนานในตระกูลกาโตร์มีเพียงหัวหน้าตระกูลคนเดียวเท่านั้นที่เป็นนักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์ ซึ่งนักสู้ระดับนี้มีไม่มากนักและส่วนใหญ่เก็บตัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้จะได้พบกับตา
ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวเมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายชุดดำเป็นธรรมดาที่เธอจะรับรู้ได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวของระดับแกรนด์มาสเตอร์ เป็นไปไม่ได้เลยที่นักสู้ระดับเหนือสวรรค์จะต้านทานความแข็งแกร่งของแกรนด์มาสเตอร์ได้
บ้าเอ้ย
!
ทำไมมีบุคลระดันแกรนด์มาสเตอร์อยู่กับเขาด้วย
ผู้หญิงสาวในชุดหนังจระเข้กลายเป็นหวาดกลัวมีเพียงผู้นำตระกูลของเธอเท่านั้นที่จะรับมือชายวัยกลางคนคนนี้ได้
“ท่านคะ…ดิฉันไม่ทราบว่าท่านเป็นนักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลบหลู่ท่าน ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ” ผู้หญิงสาวสวยกล่าวอย่างสุภาพนอบน้อม
ต่อหน้านักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์พวกเธอราวกับเป็นคนธรรมดาที่อาจถูกฆ่าได้ทุกเวลา ผู้หญิงสาวคนนี้ยังไม่อยากตายดังนั้นเธอจึงต้องร้องขอชีวิต
แต่ว่าการแสดงออกของเนี่ยอู๋ซวงก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำขอร้องของเธอเขายิงกระแสพลังสายหนึ่งออกมาจากนิ้วของเขา
พลังสายนี้พุ่งตรงเข้าที่ศีรษะของพวกเขาราวกับกระสุนปืนและทำให้เลือดพุ่งทะลักออกมาจากหัวพวกเขาพวกเขาทั้งสามล้มลงกับพื้นทันที ตายในทันที
ราชันมิอาจถูกลบหลู่เช่นเดียวกับนักสู้ระดับแกรนด์มาสเตอร์ โชคชะตาของพวกเขาถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ที่เยาะเย้ยเนี่ยอู๋ซวง