My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 682 ข่าวคราวของตราผู้พิชิต
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 682 ข่าวคราวของตราผู้พิชิต
ฉิงเฟิงขุดทุกวิถีทางและกลเม็ดเคล็ดลับทั้งหมดของเขาในการทำให้ผู้หญิงพอใจเขาหยอดคำหวานไม่หยุดเพื่อทำให้หลินเสวี่ยมีความสุข เธอจะได้ลืมๆเรื่องพวกนี้ไป ไม่ต้องถามไม่ต้องสงสัย
พระเจ้า…ทำให้หญิงฟินนี่มันยากกว่าซัดกับเหล่าราชันเสียอีก
ฉิงเฟิงคิดในใจเขารู้สึกเหนื่อยมาก ถ้าเขาย้อนเวลาได้และมีโอกาสอีกครั้งทันทีที่กลับหัวเซี่ย เขาจะไม่เกี่ยวหญิงอีกเลยแม้แต่คนเดียว
“ที่รักมามะ ฉันจะพาคุณไปที่เตียง” ฉิงเฟิงยิ้ม โอบหลินเสวี่ยไว้ในอ้อมแขนและพาเธอไปที่ห้องนอนที่ชั้นสอง เขาวางเธอไว้บนเตียงและฉวยโอกาสลูบไล้เธอ
ตั้งแต่ที่เธอไม่ได้เจอฉิงเฟิงมาหลายวันหลินเสวี่ยจึงโอนอ่อนผ่อนตามเขาเต็มที่ แม้กระทั่งโอบคอและเสนอจูบให้เขาอีกด้วย
บางทีอาจเป็นเพราะหลิวหรูหยานคืนนี้หลินเสวี่ยไม่ขัดขืนปัดป้องใดๆยกเว้นรุกล้ำปราการด่านสุดท้ายของผู้หญิง ซึ่งทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกฟินมาก
ฉิงเฟิงไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆเขารุกล้ำไปทั่วทุกแห่งบนเรือนร่างเธอจนเธอรู้สึกอ่อนระทวยและเหงื่อท่วมตัวเขาถึงหยุดมือและห่มผ้าให้เธอ เดินออกไปจากห้อง
เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องของเขาที่ชั้น1 โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นขึ้น
ดึกขนาดนี้ใครโทรมานะ
ฉิงเฟิงพึมพำด้วยความสับสน
แต่เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและดูเบอร์คนโทรใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปราชาอสูรมังกรเขียวโทรหาเขานั่นเอง
“มังกรเขียวคุณรีบโทรมาแสดงว่าต้องมีธุระด่วน ได้ข่าวของตราผู้พิชิตหรือยัง ”
ฉิงเฟิงรับสายและถามทันที
ก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงเคยขอให้ราชาอสูรมังกรเขียวและราชันอสูรสิงโตไปที่เกาะแปซิฟิกเพื่อตรวจสอบข้อมูลของตราผู้พิชิตที่ถูกแย่งชิงไป
ตอนนี้ราชาอสูรมังกรเขียวโทรกลับมาปฏิกิริยาแรกของฉิงเฟิงก็คือพวกเขาต้องได้เบาะแสบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตราผู้พิชิตแน่นอน
“นายน้อยของนิกายหนึ่ง,นินจาของเกาะแปซิฟิกนำตราผู้พิชิตเข้ามาที่หัวเซี่ยเพื่อที่จะเรียกสิบอสูรและถูกผมกับราชาอสูรสิงโตตรวจพบก่อน แต่นินจาเหล่านั้นแข็งแกร่งมาก พวกมันเอาชนะเจ้าสิงโตและจับตัวเขาไป ผมหนีออกมาได้จึงรีบโทรหานายน้อยทันที่นี่ละครับ”
น้ำเสียงของมังกรเขียวดูเหมือนอ่อนแอเห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
อะไรกัน
ราชาอสูรสิงโตแพ้
รูปลักษณ์ของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจเขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของราชาอสูรสิงโตเป็นอย่างดี ยกเว้นราชันเช่นเขาเท่านั้น นักสู้ทั่วไปไม่มีทางเอาชนะราชาอสูรสิงโตได้
หรือจะเป็นฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์
ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจไม่น้อยกับข่าวนี้มีเพียงยอดยุทธ์โบราณเท่านั้นที่จะเอาชนะราชาอสูรสิงโตได้
“มังกรเขียวตอนนี้คุณอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปหาทันที”
“นายน้อยผมอยู่ที่สวนสาธารณะในเมืองเทียนจิน เหล่านินจาแห่งเกาะแปซิฟิกก็อยู่ที่นี่เพื่อตามล่าผมด้วย”
“หาสถานที่ซ่อนตัวแถวนั้นไปก่อนฉันจะไปหาคุณทันที” ฉิงเฟิงวางสายไป
ตราผู้พิชิตนั้นเป็นของที่พ่อเหลือทิ้งไว้ให้เขามันเชื่อมโยงด้วยบางสิ่งกับเหล่าลูกน้องของพ่อทั้งสิบคน ดังนั้นฉิงเฟิงต้องนำมันกลับคืนมาให้ได้
“ซิยี้เธออยู่ที่บ้านและคอยปกป้องหลินเสวี่ยให้ดี พรุ่งนี้เช้าพอเธอตื่นขึ้นและฉันยังไม่กลับก็ฝากบอกเธอด้วยว่าฉันมีธุระด่วนที่เมืองเทียนจิน” ฉิงเฟิงบอกกับเหมียวซิยี้ที่ยังคงอยู่ในห้องนั่งเล่น
“ได้ค่ะนายท่าน”เหมียวซิยี้พยักหน้าและตอบรับด้วยความเคารพ
หลังจากสั่งเหมียวซิยี้เสร็จเขาก็รีบออกจากบ้านด้วยรถ BMW ของหลินเสวี่ยทันทีและขับมุ่งหน้าไปที่เมืองเทียนจิน
ตอนแรกเขาคิดจะโบกแท็กซี่แต่เมื่อสังเกตเห็นว่ามันดึกมากจนแทบจะไม่มีรถแท็กซี่แล้ว แถมการที่เขาขับไปเองจะเร็วกว่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเอารถของหลินเสวี่ยไป
มันเป็นเวลาเที่ยงคืนถนนของเมืองตงไห่เงียบสงบมาก มีรถแล่นอยู่บนถนนประปราย ฉิงเฟิงจึงขับอย่างรวดเร็ว
เมืองตงไห่นั้นค่อนข้างห่างไกลกับเมืองเทียนจินมากระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร (ประมาณกรุงเทพ-เชียงใหม่) ฉิงเฟิงกำลังร้อนใจรีบมากเพราะกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับมังกรเขียว เขาจึงเร่งความเร็วถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนแซงรถคันหน้าทุกคันราวกับสายฟ้า
…
เมืองเทียนจินเป็นหนึ่งในสี่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของหัวเซี่ยมันเหมือนกับเมืองหยานจิงที่มีเหล่าผู้แข็งแกร่งในเมือง ในเมืองนี้มีตระกูล นิกาย ของเหล่ายอดยุทธ์ที่หลบซ่อนจากสังคมปัจจุบันรวมถึงตระกูลเก่าแก่อีกมากมาย
สวนสาธารณะของประชาชนไม่เพียงแต่จะเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนจินแต่มันใหญ่ที่สุดในหัวเซี่ยอีกด้วย มันกินพื้นที่กว่าสองพันไร่ มีทั้งพืชพรรณนาๆชนิดและรอบๆบริเวณยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิงมากมาย
นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบเทียมที่สร้างขึ้นอยู่กลางสวนด้วยเนื้อที่ประมาณ100 เอเคอร์อีกด้วย
ในขณะนี้นินจาประมาณสิบคนในชุดดำที่ปักอักษรคำว่า ‘NIN’ บนชุดกำลังถือมีดยาวและค้นหาไปทั่วทั้งสวน
ผู้นำของเหล่านินจากลุ่มนี้สูงประมาณ1.8 เมตรและดูแข็งแกร่งมาก ถึงแม้ว่าเขาจะตัวสูงใหญ่แต่ก็มีความคล่องตัวสูง เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วไร้ร่องรอย
“ลอร์ดซาโต้ขอรับพวกเราได้ค้นหาทางด้านซ้ายแล้วแต่ก็ยังไม่พบราชาอสูรมังกรเขียว” นินจาตัวเล็กคนหนึ่งโผล่มาข้างๆเขาราวกับภูตผี
นินจาที่ตัวสูงใหญ่คนนี้นามว่าซาโต้ เขาเป็นนินจาอาวุโสระดับสูงและเป็นผู้นำของเหล่านินจากลุ่มนี้
“ราชาอสูรมังกรเขียวจะต้องอยู่ในสวนนี้แน่นอนพวกเจ้าค้นหาต่อไป” ซาโต้กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำและแสยะยิ้มออกมา เขาโบกมือให้นินจาตัวเล็กและเดินหาต่อไป
แต่หลังจากที่เดินไปได้ประมาณสองร้อยเมตรซาโต้ก็หยุดนิ่งอยู่กับที่เนื่องจากไม่มีทางไปต่อ มีแต่ทะเลสาบเทียมตรงหน้าเขาเท่านั้น
ตอนนี้เป็นเวลาตี3 และในสวนก็เงียบสงบมากรวมถึงน้ำในทะเสสาบเช่นกัน
“ลอร์ดซาโต้ไม่มีทางไปต่อแล้วขอรับ หรือว่าราชาอสูรมังกรเขียวจะมีเวทย์มนต์ มันถึงได้หายตัวไปเฉยๆ ” นินจาตัวเล็กขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความสับสน
พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นราชาอสูรมังกรเขียววิ่งหนีเข้ามาในสวนนี้อยู่ดีๆเขาจะหายตัวไปได้อย่างไร
ในเกาะแปซิฟิกนินจาเป็นกองกำลังที่มีความลับมาก พวกเขามีพลังที่ลึกลับและมีความชำนาญมากที่สุดทางด้านซ่อนตัว ล่องหนรวมถึงการลอบสังหาร
ซาโต้ไม่ตอบคำถามของลูกน้องเขาเพียงกอดอกยืนอยู่นิ่งๆและหลับตาลง เขาเริ่มพยายามสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดแปลกของอากาศโดยรอบ เขากำลังคิดว่าถ้าตัวเองเป็นราชาอสูรมังกรเขียวเขาจะซ่อนตัวที่ไหน
จากนั้นซาโต้ก็เผยอยิ้มเย็นออกมา
เขาลืมตาขึ้นในทันทีและมองไปที่ผิวน้ำที่นิ่งสงบตรงหน้าของเขาเขารู้สึกได้ถึงการกระเพื่อมเล็กน้อยของผิวน้ำใต้ทะเลสาบ ถึงแม้ว่าการกระเพื่อมของน้ำนี้จะเบาบางมากจนไม่มีใครจับสังเกตได้หากไม่มองอย่างใกล้ชิด แต่ซาโต้ก็สัมผัสถึงมันได้ !
“หึหึไม่ต้องไปหาที่อื่นแล้ว หมอนั่นอยู่ใต้น้ำตรงหน้าเรานี่ละ” ซาโต้แสยะยิ้มและกล่าวอย่างสงบ
อะไรนะใต้ทะเลสาบเทียม
เหล่านินจาทั้งหมดต่างก็ประหลาดและไม่อยากจะเชื่อทะเลสาบเทียมมีพื้นที่กว่าร้อยเอเคอร์ มันทั้งกว้างและลึก นอกจากนี้ยังเป็นฤดูหนาว น้ำในทะเลสาบเย็นยะเยือกมาก ราชาอสูรมังกรเขียวเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วเขาจะอยู่ใต้น้ำที่หนาวเย็นขนาดนี้ได้อย่างไร