My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 688 ราชันหมาป่า VS ราชานินจา
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 688 ราชันหมาป่า VS ราชานินจา
มนุษย์ทดลอง
หลังจากได้ยินที่โซเร็นซาโต้กล่าว นัยน์ตาของฉิงเฟิงก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่เปล่งเจตนาฆ่าออกมา
นินจาจากเกาะแปซิฟิคเหล่านี้ชอบที่จะทำการทดลองโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่างกายมนุษย์ ฉิงเฟิงเกลียดการกระทำเช่นนี้มาก มันช่างไร้มนุษยธรรม
ภายในใจเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าเขาอยากจะฆ่าไอ้ชาติชั่วคนนี้มาก คนๆนี้เลวจนไม่น่าให้อภัย
“ในเมื่อแกอยากตายตามน้องแกนักฉันจะทำให้ฝันของแกเป็นจริง”ฉิงเฟิงโกรธมาก เขาเดินไปหาโซเร็น ซาโต้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธราวกับเทพเจ้าแห่งการกำลังเข้าสิงเขา
“เหอะ! เข้ามา” ซาโต้ตะโกนและดึงดาบของเขาออกมา ดาบเล่มนี้ยาวประมาณ 1 เมตร มันเป็นสีดำสนิทเต็มไปด้วยแสงที่มืดครึ้ม เพียงมองแวบเดียวก็ทำให้รู้สึกหวาดผวาจนตัวสั่น
ดาบยาวเล่มนี้ชื่อว่าหลินเปียนมันเป็นอาวุธที่มีชื่อเสียงของเกาะแปซิฟิก มันถูกสร้างขึ้นโดยช่างทำอาวุธผู้เชี่ยวชาญ
หวือ…
ดาบยาวในมือของโซเร็นซาโต้เหวี่ยงไปข้างหน้า ฉีกอากาศโดยรอบจนขาดและมุ่งเข้าหาร่างกายของฉิงเฟิง
พายุทอร์นาโดก่อตัวขึ้นรอบๆตัวของซาโต้มันทรงพลังมากและหมุนวนไปเรื่อยๆจนทำให้พื้นกระเบื้องบนพื้นลอยขึ้นเลยทีเดียว
เพียงการเหวี่ยงดาบออกมาครั้งเดียวก็ทำให้เกิดฉากที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นซาโต้ผู้นี้ไม่ต้องสงสัยเลย เขาสมกับเป็นราชานินจาและยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์ เขาแข็งแกร่งกว่านินจาทั่วไปนับร้อยเท่า
เช้ง!
ฉิงเฟิงไม่กล้าประมาทถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่เห็นราชานินจาอยู่ในสายตา แต่เขาก็ยังคงรอบคอบอยู่เสมอ เขาไม่ลืมว่ายังไงชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือราชันผู้หนึ่ง !
มีนินจานับล้านคนบนเกาะแปซิฟิกแต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเป็นราชานินจาได้ ซาโต้ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นหนึ่งในสามของราชานินจาที่มีอำนาจมากที่สุด
กระบี่เพลิงแดงในมือของฉิงเฟิงชี้ตรงไปข้างหน้าและฟันออกด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกับดาบหลินเปียนของซาโต้จนเกิดเสียงดัง อากาศตรงกลางจุดปะทะระเบิดเป็นเปลวเพลิง
“โห ดาบแกยังทานไหว” ฉิงเฟิงขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยในดวงตาของเขา
เกี่ยวกับความคมของกระบี่เพลิงแดงฉิงเฟิงรู้เป็นอย่างดี มันเป็นกระบี่ที่ทรงพลังมาก หลังจากที่เขาได้รับกระบี่เล่มนี้มา เขาฟันเพียงครั้งเดียวก็ทำลายอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ทุกคน ไม่คาดคิดว่าคราวนี้กระบี่เพลิงแดงจะไม่สามารถทำลายดาบหลินเปียนของราชานินจาได้
ไม่เพียงแค่ฉิงเฟิงจะรู้สึกประหลาดใจซาโต้ก็ตกใจมากเช่นกัน ดาบของเขาเป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก มันถูกสร้างขึ้นโดยราชันดาบแห่งเกาะแปซิฟิก เขาเป็นบุคคลที่ทรงพลังมาก สูสีกับราชันกระบี่หัวเซี่ยเลยทีเดียว
นับตั้งแต่ที่เขาออกโลดแล่นในโลกของเหล่านักสู้ซาโต้ใช้ดาบเล่มนี้พิชิตไปทั่วทั้งเกาะ เมื่อใดก็ตามที่เขาเหวี่ยงดาบออกไป อาวุธของคู่ต่อสู้ก็จะถูกทำลายทันทีและดาบที่สองก็เพียงพอที่จะพรากชีวิตคู่ต่อสู้ได้แทบทุกคน
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะแลกกระบวนท่ากันเพียงครั้งเดียวแต่ทั้งคู่ต่างก็ตระหนักแล้วว่าอาวุธในมือของอีกฝ่ายคืออาวุธชั้นยอด
ในเมื่ออาวุธแข็งแกร่งเท่ากันวิธีเดียวที่จะตัดสินผลแพ้ชนะได้ก็คือเคล็ดวิชาและความแข็งแกร่งของผู้ใช้
“
ท่าดาบที่
1
วารีสายนภา
!!!
“
ซาโต้คำรามออกมาด้วยเสียงต่ำและเหวี่ยงดาบหลินเปียนในมือฉีกผ่านอากาศและสร้างเป็นเส้นโค้งสีขาวเงินบนท้องฟ้า
เส้นโค้งสีขาวเงินนี้คือของเหลวที่เกิดจากไอน้ำ
ซาโต้มาจากเกาะแปซิฟิกที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลดังนั้นเขาจึงมักจะฝึกฝนเคล็ดวิชาดาบใต้น้ำเสมอ วิชาที่เขาเรียนรู้นั้นชื่อว่า [เคล็ดวิชาจิตวิญญาณวารี]
เมื่อพูดถึง[เคล็ดวิชาจิตวิญญาณวารี] มันเป็นวิชาที่มีชื่อเสียงมากบนเกาะแปซิฟิกและเป็นวิชาเฉพาะของราชันดาบ อีกทั้งยังเป็นวิชาขั้นสูงในระดับแกรนด์มาสเตอร์ซึ่งถ่ายทอดให้แก่ซาโต้โดยตรง นอกจากนี้ซาโต้เป็นนักดาบที่มีพรสวรรค์มาก เขาฝึกฝนไปได้สองกระบวนท่าแล้วโดยใช้เวลาไม่ได้นาน
เมื่อมองไปที่ปราณดาบวารีที่ดุดันฉิงเฟิงก็ขมวดคิ้วแน่นและกุมกระบี่เพลิงแดงในมือพร้อมกับพาดขวางทแยงมุมตรงหน้าอกของเขา
“
กระบวนท่าแรกเพลิงระเบิด
!
“
ฉิงเฟิงตะโกนและแทงไปข้างหน้าด้วยกระบี่เพลิงแดงในมือที่เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่สีแดงเพลิงที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุ
บึ้ม
!!
ปราณดาบวารีและปราณกระบี่เปลวเพลิงที่ร้อนระอุปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องควันหลงจากพลังที่ปะทะกันกระจายออกไปทุกทิศทาง จากนั้นชั้นใต้ดินก็เริ่มสั่นสะเทือนและหินบนเพดานก็เริ่มร่วงหล่นลงมา
บริเวณที่อาวุธระดับมาสเตอร์ทั้งสองปะทะกันเกิดหลุมใหญ่ปรากฏบนพื้นดินยาวประมาณสี่ถึงห้าเมตรครึ่งหนึ่งของหลุมเป็นสีแดงเข้มอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาวหิมะ
ครึ่งไฟครึ่งน้ำแข็งที่จะปะทะปรากฏการณ์แปลกๆเกิดขึ้นในความเป็นจริง !
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์มันไม่เป็นการยากที่จะเข้าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉิงเฟิงฝึกวิชากระบี่สายเพลิง ส่วนซาโต้ฝึกวิชาดาบสายวารี ผลที่ออกมาจึงเป็นดั่งที่เห็น
“หึ! สมเป็นลูกชายของคนผู้นั้น ถือว่าแกมีฝีมือพอตัวที่ยังอุตส่าห์รอดจากกระบวนดาบแรกของข้าได้”
รูปลักษณ์บนใบหน้าของซาโต้เปลี่ยนไปเป็นมืดครึ้มและมีแสงเย็นปรากฏสว่างจ้าในดวงตาของเขา
ดังที่กล่าวมาซาโต้ถือเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะแปซิฟิกมาเป็นเวลาหลายปี เขาเป็นผู้สร้างห้องทดลองใต้ดินใต้หลุมศพไร้นามจนเป็นที่รู้จักกันดีในเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ แต่วันนี้มีเด็กหนุ่มอายุ 20 ต้นๆสามารถรับการโจมตีของเขาได้ เป็นธรรมดาที่เขาจะตกใจมาก
ฉิงเฟิงก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันวิชากระบี่เปลวเพลิงที่เขาได้รับถ่ายทอดมาจากราชันกระบี่นั้นทรงพลังมาก เขารู้ดีถึงพลังทำลายของมัน แม้ว่าเขาจะเรียนรู้แค่กระบวนท่าแรกก็ตาม แต่วันนี้เขาได้พบกับใครบางคนที่สามารถปะทะกับวิชากระบี่ซึ่งๆหน้ากับเขาได้
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและตระหนักว่าศัตรูผู้นี้ไม่อาจประมาทได้แม้แต่น้อยเขาเป็นหนึ่งในศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยพบมา หากจะมีชีวิตรอดและพาราชาอสูรสิงโตออกไป เขาต้องรอบคอบและระวังทุกฝีก้าว
“
รับดาบที่สองของข้าซะ
!
ศรวิญญาณน้ำแข็ง
!!”
ซาโต้เหวี่ยงดาบหลินเปียนในมือฉีกผ่านอากาศไอน้ำรอบๆดาบควบแน่นการเป็นลูกศรน้ำแข็งและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงทันที
แน่นอนว่าลูกศรน้ำแข็งนี้ไม่ใช่น้ำแข็งที่จริงที่อยู่ในรูปของลูกศรแต่มันคือการหลอมรวมของแก่นแท้พลังและเคล็ดวิชาวารีที่ทรงพลานุภาพ พลังทำลายของมันแข็งแกร่งกว่าดาบแรกที่ซาโต้ใช้ออกเมื่อสักครู่ถึงสองเท่า !
เมื่อรู้สึกได้ถึงแก่นแท้พลังของซาโต้ที่แฝงมาในศรน้ำแข็งฉิงเฟิงก็รู้ว่าเขาไม่อาจประมาทดาบนี้ได้ เขายกกระบี่เพลิงแดงขึ้นต้านรับในทันที
ปัง!!
ลูกศรน้ำแข็งกระทบลงบนพื้นผิวของกระบี่เพลิงแดงและกระจายออกพลังมหาศาลที่แฝงมาผลักให้ฉิงเฟิงกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวทีเดียว ก่อนที่เขาจะรักษาสมดุลไว้ได้
กระบวนดาบที่2 ของเคล็ดวิชาจิตวิญญาณวารีนั้นทรงพลังมากจนกดดันให้ฉิงเฟิงต้องถอยไปหลายก้าวอย่างไม่คาดคิด
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและมือขวาที่กุมกระบี่ไว้เริ่มเสียวแปลบเขารู้สึกอึดอัดไม่น้อยและไม่คาดคิดว่ากระบวนดาบที่ 2 ของซาโต้จะรุนแรงกว่าดาบแรกถึงสองเท่า