My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 696 กระบี่พิโรธ เจียงไป่เต๋า !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 696 กระบี่พิโรธ เจียงไป่เต๋า !
ทุกคนกำลังมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความโลภพวกเขากระสันที่จะดื่มเลือดฉิงเฟิงซึ่งเจือปนไปด้วยเลือดมังกรอยู่ ฉิงเฟิงหงุดหงิดกับสถานการณ์ในตอนนี้มาก เขาแทบอยากจะหนีออกจากที่นี่ทันที
โชคดีที่ลั่วหนี่ซางลุกขึ้นยืนในช่วงเวลาสำคัญนี้และกล่าวด้วยเสียงดังว่า“หลี่ฉิงเฟิง คุณมาอยู่ข้างๆชั้น”
ทุกคนที่มุ่งหมายในตัวฉิงเฟิงก็เริ่มสั่นสะท้านจากคำพูดของเธอและไม่กล้าที่จะจ้องมองฉิงเฟิงอย่างตะกละตะกรามอีกต่อไปเพราะลั่วหนี่ซางออกหน้ารับฉิงเฟิงไปอยู่ในการดูแลของเธอแล้ว
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินออกจากกลางห้องประมูลไปนั่งบริเวณที่ลั่วหนี่ซางกำลังรอเขาอยู่
แต่เมื่อฉิงเฟิงเดินกลับมาถึงเขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจมาพึ่งพาเธอ เพราะลั่วหนี่ซางก็จับจ้องมองเขาด้วยความโลภเช่นกัน ท่าทางของเธอราวกับต้องการฉีกเสื้อผ้าและดื่มเลือดของเขาในทันที
“เฮ้!! มิสลั่ว ฉันแค่สัญญาว่าจะทำตามคำขอ 3 อย่างให้คุณก็จริง แต่ฉันไม่ได้ขายตูดนะ ได้โปรดอย่าทำอะไรกับร่างกายของฉัน” ฉิงเฟิงยกมือปกปิดร่างกายของเขาและทำท่าเหมือนผู้หญิงที่หวาดกลัว
“เพ้ย! ชั้นไม่ได้พิศวาสร่างกายของคุณเสียหน่อย ชั้นแค่… อยากจะดื่มเลือดคุณเท่านั้นเอง” ประกายไฟแห่งความปรารถนาปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่มีมนต์เสน่ห์ของลั่วหนี่ซาง
เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ด้วยความพึงพอใจเขาเป็นเหมือนดาวโชคดีเพราะเขาได้ดื่มเลือดมังกรในตำนาน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่หยดเดียวแต่มันก็ยังเป็นเลือดมังกร
หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปบรรยากาศในการประมูลก็เร่าร้อนขึ้นและทุกคนก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แย่งชิงในรายการต่อไป เมื่อไม่นานมานี้ฉิงเฟิงเพิ่งจะได้เลือดมังกรมาดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ารายการต่อไปย่อมมีค่ามากกว่านี้
“มาถึงรายการสุดท้ายจากบ้านประมูลตระกูลลั่วแล้วค่ะทุกท่านสิ่งนี้คือแผ่นที่หลุมฝังศพที่ไม่สมบูรณ์ของยอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ผู้หนึ่งที่ล่วงลับไปแล้ว !”
แผนที่ไม่สมบูรณ์ของแกรนด์มาสเตอร์
เมื่อได้ยินคำประกาศนี้ทั่วทั้งห้องโถงประมูลต่างก็ตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่งเนื่องจากมีคนน้อยมากที่เหยียบย่างไปถึงขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ได้ แกรนด์มาสเตอร์ทุกคนมีความสามารถในการสร้างนิกายหรือสำนักของตนเองได้รวมถึงเคล็ดวิชาที่ทำให้บินบนท้องฟ้า สังหารด้วยใบไม้ หรือแม้กระทั่งตัดศีรษะศัตรูได้ในระยะ 100 ฟุตอย่างไร้ร่องรอย !
ไม่จำเป็นต้องกล่าวเลยว่าจะมีวัตถุมีค่ามากมายเพียงใดในสุสานของยอดยุทธ์ระดับนี้ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์เคล็ดวิชา ทักษะลับ หรือแม้แต่อาวุธระดับสุดยอด
แววตาของทุกคนในงานประมูลต่างก็ร้อนรุ่มพวกเขากระสันอย่างแรงกล้าที่จะคว้าแผนที่หลุมฝังศพนี้มาให้ได้
“สำหรับการเสนอราคาแผนที่หลุมฝังศพนี้เราขอเริ่มต้นที่พันล้านหยวนและบิดเพิ่มขึ้นครั้งละพันล้านหยวนเป็นอย่างน้อยค่ะ” ลั่วชุยชุยประกาศด้วยน้ำเสียงที่สั่นครืออย่างเห็นได้ชัด
สมาชิกของตระกูลและนิกายยอดยุทธ์ระดับเหนือสวรรค์ต่างก็ดีใจจนเนื้อเต้นด้วยความคิดที่ว่าตราบใดที่ได้แผนที่นี้มา พวกเขาก็สามารถค้นสมบัติในหลุมฝังศพเพื่อเพิ่มความสามารถให้แก่นิกายได้ ความแข็งแกร่งของนิกายจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในชั่วข้ามคืน !
ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครไม่ต้องการแผนที่หลุมฝังศพนี้พวกเขาเริ่มรวบรวมเงินทองกันแล้ว
“2พันล้าน !” โยชิจิโร่เป็นคนแรกที่ผุดลุกขึ้นและเสนอราคาด้วยความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามแผนที่ที่ไม่สมบูรณ์ของสุสานแกรนด์มาสเตอร์นี้เป็นสิ่งล่อตาที่ยิ่งใหญ่มาก ทันทีที่โยชิจิโร่พูดจบกัวซื่อเว่ยก็ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า
“3พันล้าน!”
“ไม่ได้! ข้า 4 พันล้าน! ใครกล้าจะแย่งข้า !” เฮลคิงกล่าวในทันที
“พวกท่านช่างโง่งมและไร้สาระนักที่คิดว่ามูลค่าของสุสานนี้แค่หลักพันล้านเท่านั้นหรือ” ทันใดนั้นก็มีเสียงที่สดใสชัดเจนดังขึ้น
หญิงสาวผู้มีเสน่ห์พร้อมกับผิวขาวหิมะแลดูอ่อนนุ่มและสวมใส่ชุดแต่งกายโบราณค่อยๆลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอ
ความประทับใจแรกที่ผู้หญิงคนนี้มีให้แก่คนที่เห็นใบหน้าของถือก็คือความงามที่น่าตกตะลึงเธองดงามอย่างน่าพิศวงราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดเหมือนดอกโบตั๋น ความงามของเธอทำให้สวรรค์และโลกดูหมองลงในทันที
“ฉินเซียนจื่อเป็นเธอ ” เฮลคิงกล่าวด้วยใบหน้าที่มืดมน
ฉินเซียนจื่อเป็นใคร เธอเป็นลูกสาวคนโตของตำหนักมังกรซึ่งแข็งแกร่งกว่าตำหนักโกสคิง เธอไม่ต้องแยแสแม้แต่การทำให้เฮลคิงต้องขุ่นเคือง
“ฉินเซียนจื่อคุณจะเสนอเท่าไหร่ !” เฮลคิงถามอย่างโกรธกริ้ว
“8พันล้าน” ฉินเซียนจื่อกล่าวเสนอราคาออกมาด้วยความรู้สึกไม่แยแสบนใบหน้าของเธอและมองไปรอบๆ
แน่นอนทิศทางสายตาของเธอคือหลี่ฉิงเฟิงที่กำลังนั่งอยู่ในห้องเดียวกันกับลั่วหนี่ซางซึ่งทำให้เธอขุ่นเคืองใจไม่น้อย
ในฐานะลูกสาวคนโตของตำหนักมังกรเธอแสดงความมุ่งมั่นออกมาทันทีด้วยการเสนอราคาเป็นสองเท่าของเฮลคิง ซึ่งทำให้ผู้คนในห้องโถงต่างก็ตะลึง ด้วยการเสนอราคาหนึ่งครั้งเธอดันราคาขึ้นจาก 4 พันล้านหยวนขึ้นเป็น 8 พันล้านหยวนในครั้งเดียวทำให้หัวใจของทุกคนเต้นเร็วขึ้นด้วยความตึงเครียด
ราคาเสนอของเธอสูงมากจนแม้แต่ตำหนักโกสคิงก็ไม่อาจสู้ราคาไหว
ทุกคนต่างก็ประหลาดใจกับความกระเป๋าหนักของตำหนักมังกร
“ถอยเจ้าทุกคนหลีกทางไปซะข้าผู้นี้จะรับแผนที่นี้ไปเอง ข้าเสนอหมื่นล้านหยวน !”
เสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและแข็งกร้าวดังขึ้นเต็มสองหูของทุกคนในห้อง
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูกดขี่นี้ฉินเซียนจื่อ เฮลคิงและทุกคนต่างก็ขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง
แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขึ้นในทันทีพวกเขาต่างก็สงสัยว่าใครหน้าไหนกันที่กล้ามาแข่งราคากับผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเทียนจิงเหล่านี้ พวกเขาหันไปมองตามต้นเสียงและสีหน้าเปลี่ยนด้วยความประหลาดใจเมื่อได้เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดโบราณเขาร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาโดยตลอด
“คนผู้นี้ชื่อว่าเจียงไป่เต๋าเขามีอีกฉายาหนึ่งว่า ‘กระบี่พิโรธ’ แห่งเมืองเทียนจิงซึ่งสามารถบ่งบองได้ถึงการแสดงออกที่ดูกดขี่สูงส่งของเขา”
ลั่วหนี่ซางยิ้มอย่างมีเสน่ห์และกระซิบข้างหูฉิงเฟิงเพื่ออธิบายตัวตนของชายผู้นี้ให้ฉิงเฟิงรู้จัก
ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลเจียงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเทียนจิง เจียงไป่เต๋ามีความแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว
ฉายากระบี่พิโรธแห่งเมืองเทียนจิงเจียงไป่เต๋าได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของเมืองนี้ เขาเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ เมื่อได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ทรงพลังอำนาจเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นเฮลคิงหรือโยชิจิโร่ก็ยังไม่กล้าที่จะหาเรื่องเจียงไป่เต๋า พวกเขาทำได้เพียงถอนตัว
ห้องประมูลต่างเงียบสนิทราวกับว่าทุกคนหวาดกลัวที่จะเสนอราคาแข่งกับเจียงไป่เต๋าหรือที่สำคัญกว่านั้นก็คือหวั่นเกรงตัวตนของเขานั่นเอง
แม้ว่าทุกคนจะถอนตัวจากการแข่งราคาเพราะหวาดกลัวอำนาจของเจียงไป่เต๋าแต่ไม่นับฉินเซียนจื่อ เธอเป็นลูกสาวคนโตของตำหนักมังกรที่สูงส่งและไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจตระกูลเจียง
ในขณะที่ฉินเซียนจื่อกำลังเผยอริมฝีปากแดงสดเพื่อจะเพิ่มราคาเจียงไป่เต๋าก็ส่งสัญญาณเสียงด้วยพลังลมปราณมาว่า
“มิสฉินเจ้าไม่จำเป็นต้องซื้อมัน หลังจากที่ข้าได้มัน พวกเราสามารถเข้าไปค้นหาของล้ำค่าในสุสานด้วยกันได้”
ฉินเซียนจื่อชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงไป่เต๋าเธอหันไปมองเขาและพยักหน้าตกลงเพราะเธอรู้ว่าแผนที่นี้ถูกประมูลโดยบ้านตระกูลลั่ว ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในทรัพย์สินของลั่วหนี่ซาง ในเมื่อเธอไม่ชอบลั่วหนี่ซางเธอย่อมไม่ต้องการเห็นเธอได้ผลประโยชน์มากขึ้น
“
ตกลงเจียงไป่เต๋า ข้ายอมถอยให้ท่าน แต่
ในทางกลับกันพวกเราต้องไปที่สุสานนั้นพร้อมกัน”
ฉินเซียนจื่อตอบกลับด้วยลมปราณที่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
ลั่วชุยชุยอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งและรีบเรียกคืนความสงบของเธอกลับมาเธอประกาศด้วยความตื่นเต้นยินดีว่า “หมื่นล้านหยวนค่ะทุกท่าน ! มีผู้ใดจะเสนอราคาที่สูงกว่านี้หรือไม่ ”
เธอถามสามครั้งแต่ห้องประมูลทั้งห้องต่างก็ยังคงเงียบกริบ พวกเขาทุกคนต่างก็ยอมรับผลอย่างเห็นได้ชัดไม่มีผู้ใดกล้าที่จะแข็งขืนต่อหน้าเจียงไป่เต๋า มีแต่คนโง่ที่ไม่เสียดายชีวิตเท่านั้น
“ในเมื่อไม่มีใครเสนอราคาดิฉันขอประกาศผลเลยนะคะ !” ลั่วชุยชุยกล่าวด้วยร่องรอยแห่งความตื่นเต้นในน้ำเสียงของเธอ