My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 701 หัวใจที่แหลกสลาย
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 701 หัวใจที่แหลกสลาย
“ฉิงเฟิงคะทำไมคุณไม่ตั้งชื่อลูกของเราหน่อยละ ” หลิวหรูหยานยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ความสุขของคนที่กำลังจะเป็นแม่ปรากฏขึ้นทั่วทั้งใบหน้าของเธอ
ให้ฉันตั้งชื่อลูกของเราหรือ
ฉิงเฟิงจมอยู่กับความคิดเรื่องชื่อของลูกนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เขาต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะตั้งชื่อ เพราะชื่อนั้นจะติดตัวลูกน้อยไปตลอดชีวิต
“หลี่เจียฮุ่ยเป็นไง” ฉิงเฟิงกระพริบตาและถามด้วยความตื่นเต้น
หลิวหรูหยานหยุดคิดอยู่พักหนึ่งเธอคิดว่ามันเป็นชื่อที่ดีแต่ไม่ค่อยมีความหมายเท่าใดนัก
เธอเริ่มคิดถึงการเอาชื่อของเธอเองผสมกับชื่อของฉิงเฟิงเพราะชื่อของพวกเขานั้นต่างก็มีความหมาย “ฉิงเฟิงคะในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกของเรา ฉันอยากให้มีชื่อของพวกเราผสมกันในชื่อของเด็กคนนี้” หลิวหรูหยานยิ้มอย่างอ่อนโยนและความคิดของเธอออกมา
ฉิงเฟิงกลอกตาและเริ่มคิดเขาพยายามลองเอาชื่อของทั้งคู่ผสมกัน
หลี่ฉิงเฟิงหลิวหรูหยาน
ชื่อแรกต้องเป็น‘หลี่’ ตามชื่อตระกูลของเขาจากนั้นชื่อต้องเป็นออกแนวผู้หญิงๆเพราะเด็กคนนี้เป็นเพศหญิง
”‘หลี่เหนียนหยาน’ เป็นไง หลี่คือชื่อตระกูลของฉันส่วนเหนียนหยานมีความหมายความว่า ‘คิดถึงหรูหยาน’ ” ฉิงเฟิงยิ้ม
เหนียนหยาน
,
หลี่เหนียนหยาน
…
หลิวหรูหยานกล่าวซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งและคิดว่ามันเป็นชื่อที่ดีสำหรับเด็กทารกเพศหญิง
“ฉิงเฟิงคะเอาชื่อนี้ละ ลูกของเราชื่อเหนียนหยาน” หลิวหรูหยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
…
ท่ามกลางการพูดคุยตั้งชื่อลูกอย่างมีความสุขหลินเสวี่ยยืนอยู่หน้าประตูวิลล่าของหลิวหรูหยานมานานแล้ว การสนทนาทุกคำพูดภายในบ้านนั้นตรึงแน่นเข้าสู่สมองของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับคนตาย หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มที่เนียนนุ่มของเธอไม่หยุด
วันนี้หลินเสวี่ยเลิกงานเร็วในเมื่อฉิงเฟิงเป็นคนเอารถของเธอไปเมื่อเช้า ดังนั้นเธอจึงต้องนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน แต่พอเข้ามาถึงระแวกวิลล่า เธอก็เห็นรถของเธอจอดอยู่หน้าประตูวิลล่าของหลิวหรูหยาน เธอจึงรู้ว่าฉิงเฟิงต้องกลับมาแล้วและเขาต้องอยู่ในบ้านของหลิวหรูหยานแน่นอน ดังนั้นเธอจึงเดินเข้ามา
แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเคาะประตูเธอก็ได้ยินแว่วๆเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของหลิวหรูหยาน ดังนั้นเธอจึงแอบฟังอยู่หลังประตู เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะได้มารู้เรื่องใหญ่ราวกับฟ้าถล่มเช่นนี้หลิวหรูหยานอุ้มท้องลูกของหลี่ฉิงเฟิง ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขามีอะไรกันมานานแล้ว
“
ซิกซิก …
”
หลินเสวี่ยเริ่มสะอื้นออกมาด้วยความเศร้าความเศร้าเสียใจจากส่วนลึกในหัวใจ สามีตัวเองมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น มันเจ็บปวดราวกับหัวใจของเธอถูกฉีกออกจากกัน
เธอต้องการจะเปิดประตูเข้าไปและตะโกนใส่หลี่ฉิงเฟิงและหลิวหรูหยานแต่เธอในตอนนี้หัวใจแหลกสลายเกินกว่าที่จะมีอารมณ์ทำอะไรแบบนั้น
หลินเสวี่ยหอบร่างไร้วิญญาณพร้อมกับน้ำตาอาบแก้มเดินกลับไปที่วิลล่า13
ทันทีที่เหมียวซิยี้เห็นหลินเสวี่ยกลับมาถึงที่บ้านพร้อมกับน้ำตานองหน้าเธอก็ตกใจและถามว่า “พี่สาวเสวี่ย คุณเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าคุณไปที่วิลล่าของหลิวหรูหยานหรอกหรือ ? ทำไมถึงกลับมาแล้วละ ?”
เหมียวซิยี้กลับมารอที่วิลล่า13 เพราะหลินเสวี่ยบอกให้เธอกลับไปก่อน ส่วนตัวเธอเองก็มุ่งหน้าไปที่วิลล่าของหลิวหรูหยาน แล้วทำไมจู่ๆเธอถึงร้องไห้กลับมา
“พี่สาวเสวี่ยหรือว่านังจิ้งจอกหลิวหรูหยานทำอะไรคุณ บอกชั้นมาเลยชั้นจะไปสั่งสอนนังคนนั้นเอง” เมื่อเห็นว่าหลินเสวี่ยหน้าซีดสีดูย่ำแย่มาก เหมียวซิยี้ก็เป็นกังวล
เธอได้อาศัยอยู่กับหลินเสวี่ยมานานแล้วทำให้พวกเธอสนิทกันมาก เธอจึงรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นหลินเสวี่ยร้องไห้ เธอคิดว่าหลิวหรูหยานเป็นคนทำ
“ชั้นไม่เป็นไร”หลินเสวี่ยหลับตาส่ายหัวและเดินขึ้นไปชั้นบนเข้าห้องนอนของเธอ
ภาพของหลินเสวี่ยและฉิงเฟิงถูกวางไว้ที่บนหัวนอนของเธอเสมอมันเป็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งที่พวกเขาถ่ายไว้และตอนนี้ก็เหลืออีกแค่ครึ่งเดือนก็จะถึงวันแต่งงานของพวกเขา
แต่เธอยังคิดจะแต่งงานกับเขาอีกหรือ เห็นได้ชัดว่าไม่มีทาง ผู้ชายคนนั้นมีลูกกับหลิวหรูหยานไปแล้ว
หลินเสวี่ยเหม่อมองภาพถ่ายฉิงเฟิงหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในชุดสูทของเจ้าบ่าวส่วนหลินเสวี่ยก็อยู่ในชุดแต่งงานอย่างงดงามราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ พวกเขาทั้งคู่สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางซ้ายทั้งคู่ แต่ทุกอย่างในภาพดูเหมือนจะแดกดันเธอ ราวกับว่าพวกเขากำลังหัวเราะเยาะกับความโง่ไร้เดียงสาของเธอ
“หลี่ฉิงเฟิงชั้นเกลียดคุณ !” น้ำตายังคงไหลออกมาจากดวงตาของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เธอเกลียดเขาที่โกหกเธอมาตลอดเวลาทั้งที่อยู่กับนังจิ้งจอกนั้น แม้แต่ยังไปมีลูกด้วยกัน
หลิวเสวี่ยหยิบภาพนั้นออกมาเธอเหยียดมือไปบนสุดของภาพและฉีกรูปภาพออกเป็นร้อยๆชิ้นทันที
ผู้ชายเกลียดการถูกหลอกลวงไม่ต่างกับผู้หญิงหัวใจของหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อฉิงเฟิง เนื่องจากเขาทรยศต่อความไว้วางใจของเธออย่างร้ายแรง
ภาพนี้เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของเธอกับฉิงเฟิงตอนนี้เธอฉีกมันทิ้งเป็นชิ้นๆ
เธอฉีกภาพวาดทั้งหมดที่เธอวาดไว้จากนั้นเธอก็คว้ากระเป๋าและเริ่มเก็บข้าวของ
เธออยากจะหนีไปให้ไกลเธอไม่อยากอยู่ที่นี่เพื่อเห็นหน้าคนหลอกลวงอย่างเขาอีกแล้ว
หลังจากใช้เวลาไม่นานในการเก็บข้าวของเธอคว้ากระเป๋าและเดินลงบันไดมา
“พี่สาวเสวี่ยมันดึกแล้วนะคุณจะไปไหน ” เมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางในมือของหลินเสวี่ย เหมียวซิยี้ก็ถามด้วยความสับสน
“ซิยี้ถ้าไม่ได้เจอกันอีกเธอจะคิดถึงชั้นมั้ย ” เธอถามเหมียวซิยี้ด้วยหยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นจากสองแก้มของเธอ “พี่สาวเสวี่ยคุณพูดเรื่องอะไร นี่บ้านของคุณ ชั้นก็ต้องเห็นคุณทุกวันอยู่แล้ว”
เหมียวซิยี้ขมวดคิ้วและถาม
เธอรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดจากท่าทางของหลินเสวี่ยในวันนี้ไม่ใช่วันนี้สิ แค่ไม่กี่นาทีที่เธอกลับจากบ้านของหลิวหรูหยาน ท่าทางของเธอก็แปลกไปราวกับว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
“ซิยี้ชั้นจะไปท่องเที่ยว ไม่ต้องตามชั้นมานะ” หลินเสวี่ยเก็บกระเป๋าและเดินอย่างไร้วิญญาณไปที่ประตู
“พี่สาวเสวี่ยไม่ได้นะนายท่านกำชับให้ชั้นดูแลปกป้องคุณ ชั้นต้องไปกับคุณด้วย”
“ถ้าเธอยังเห็นชั้นเป็นพี่สาวและเพื่อนของเธอก็อย่าตามมาไม่งั้นเราขาดกัน”
“พี่สาวเสวี่ยคุณอย่าทำอย่างนี้เลย”
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยถ้าเธอตามมาก็ไม่ต้องเรียกชั้นว่าพี่สาวเสวี่ยอีกต่อไป นอกจากนี้ชั้นจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเธอ เธอจะไม่มีทางให้คำอธิบายดีๆแก่ฉิงเฟิงได้”
หลินเสวี่ยตะคอกใส่เหมียวซิยี้และไม่ให้เธอตามมาเตือน
หลังจากนั้นหลินเสวี่ยก็หยิบรองเท้าของเธอเปิดประตูออกจากบ้านของตัวเองทั้งน้ำตามองจากข้างหลังแล้วเธอดูแน่วแน่มั่นคงมาก แต่ในหัวใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความเศร้าโศก น้ำตาของเธอถูกพัดปลิวไปตามแรงลมและหายไปในอากาศ
หลินเสวี่ยรู้ว่าเมื่อเธอออกไปแล้วก็เป็นการยากที่จะหันหลังกลับเธอไม่อยากกลับมาที่นี่และต้องเผชิญหน้ากับฉิงเฟิงอีก เธอเกลียดผู้ชายคนนี้, ผู้ชายคนที่เธอรักมากที่สุดแต่กลับกลายเป็นคนที่หลอกลวงเธอมาตลอด
หลินเสวี่ยหนีออกจากบ้านวิลล่าหลังโตดูรกร้างโดยไม่มีเจ้าของในทันที สายลมพัดพาเกล็ดหิมะบางส่วนตามเงาหลังของเธอ ราวกับว่าพวกมันมีจิตวิญญาณและกำลังร้องไห้ให้กับหลินเสวี่ย