My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 703 เธอหายตัวไป
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 703 เธอหายตัวไป
ฉิงเฟิงยกมือกุมหน้าอกและรีบวิ่งไปที่บ้านเขามีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจ … หลินเสวี่ย … ต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอ
เขาวิ่งกลับมาบ้านอย่างรวดเร็วและผลักประตูเข้าไปในทันทีและตะโกนออกมาว่า
“ที่รัก
คุณอยู่บ้านหรือเปล่า
!
“
ฉิงเฟิงตะโกนเสียงดังมากเพราะเขาเป็นกังวลเสียงของเขาดังกังวาลก้องไปทั่วทั้งวิลล่า
ความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกย่างก้าวขณะที่เขาเดินขึ้นบันได
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือดเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องนอนของหลินเสวี่ยที่ชั้นสองเขาเกือบจะสะดุด บนเตียงสกปรกเต็มไปด้วยเศษกระดาษที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
มันเป็นภาพวาดที่หลินเสวี่ยวาดขึ้นเพื่องานแต่งงานของพวกเขาฉิงเฟิงอยู่ในชุดสูทสำหรับเจ้าบ่าวและหลินเสวี่ยอยู่ในชุดเจ้าสาว ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขในงานแต่งงาน ในขณะที่พวกเขาสวมแหวนให้กัน
แต่ภาพวาดนั้นถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เขาจำได้ขึ้นใจว่าหลินเสวี่ยเคยบอกกับเขานี่เป็นภาพวาดที่เธอชื่นชอบมากที่สุดเพราะมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความรักของพวกเขา เธอบอกกับเขาว่าเธอจะให้ความสำคัญกับมันไปตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตามภาพวาดงานแต่งงานที่เธอชื่นชอบกลับถูกฉีกเป็นชิ้นๆเสียแล้ว ชิ้นส่วนที่กระจุยกระจายนั้นทิ่มแทงนัยน์ตาของเขาเหมือนใบมีดนับร้อย
มีคราบน้ำตาที่เห็นได้ชัดเจนบนกระดาษแสดงว่าให้เห็นว่ามีคนร้องไห้ ร้องไห้ จะไปมีใครมาร้องไห้ในห้องของหลินเสวี่ย ? นอกจากตัวเธอเอง
“ซิยี้มานี่ !!!” ฉิงเฟิงตะโกนเรียกเหมียวซิยี้
ในพริบตาเหมียวซิยี้ก็ปรากฏตัวตามคำสั่งของฉิงเฟิง
“นายท่านมีอะไรให้ชั้นรับใช้หรือคะ ”
“บอกมาหลินเสวี่ยอยู่ไหน !”
“พี่สาวเสวี่ยบอกว่าเธอจะออกเดินทางและบอกไม่ให้ตามมา ไม่งั้นเธอจะตัดขาดกับชั้นค่ะนายท่าน”
“นังโง่! เดินทางบ้าบอคอแตกอะไร นี่มันเที่ยงคืน คนสติดีที่ไหนจะเดินทางท่ามกลางหิมะตกขนาดนี้ ? เธอเอาสมองส่วนไหนคิด ?” ฉิงเฟิงด่าทอเหมียวซิยี้ด้วยความโกรธอย่างมาก
เมื่อถูกด่าทอเหมียวซิยี้ก็รู้สึกอึดอัดใจ แต่เธอก็รู้ว่าเขากำลังโกรธมากจนขาดสติ เธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าเงียบ จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้และบอกกับฉิงเฟิงว่า“พี่สาวเสวี่ยร้องไห้หนักมากตั้งแต่เธอกลับมา ชั้นไม่เคยเห็นเธอร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย”
อะไรนะ
หลินเสวี่ย
ร้องไห้
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเขารู้ว่าหลินเสวี่ยเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งแค่ไหน เขาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้มาก่อนเลยนับตั้งแต่งานศพของปู่ของเธอ ต้องมีเรื่องผิดพลาดอะไรบางอย่างที่รุนแรงมากจนทำให้เธอร้องไห้
“เหมียวซิยี้เธอตอบฉันมา ทำไมหลินเสวี่ยถึงร้องไห้ !”
“พี่สาวเสวี่ยเห็นรถของเธอจอดอยู่หน้าบ้านหลิวหรูหยานดังนั้นเธอจึงรู้ว่าคุณอยู่ที่นั่น เธอไปที่บ้านของหลิวหรูหยานเพื่อหาคุณ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็กลับมา….อีกทั้งร้องไห้น้ำตานองหน้า…. ชั้นก็รู้เท่านี้” “อะไรนะ หลินเสวี่ย … อยู่ที่บ้านหลิวหรูหยาน…. ?” ฉิงเฟิงตกใจมาก ความรู้สึกที่ไม่ดีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาอยู่ในห้องนั่งเล่นตลอดเวลาและไม่เห็นหลินเสวี่ยเข้ามานี่หมายความว่าเธอต้องอยู่ที่ประตู
“
หลินเสวี่ยต้องอยู่ที่หลังประตูและได้ยินการสนทนาของฉันกับหรูหยานแน่นอน
”
ฉิงเฟิงฉลาดมากพอที่จะจับประเด็นสำคัญของสถานการณ์ที่ทำให้หลินเสวี่ยเสียใจได้ในทันที
“
แสดงว่าเธอร้องไห้และหนีออกจากบ้านเพราะเธอได้ยินที่ฉันคุยกับหรูหยานเรื่องลูก
…”
ฉิงเฟิงหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆเขาเงยหน้าขึ้นฟ้าด้วยความรู้สึกที่อึดอัดและกลัดกลุ้ม ในสภาพอากาศแบบนี้เธอจะไปไหนกัน
เขาเป็นห่วงหลินเสวี่ยมากเขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
“
แม่งเอ้ย
!
ความลับไม่มีในโลกจริงๆ
”
ฉิงเฟิงสบถกับตัวเองในใจสิ่งที่เขากลัวที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว
ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลินเสวี่ยแต่ก็โทรไม่ติดเพราะเธอปิดเครื่อง
เขาพยายามสงบสติอารมณ์และใช้ความคิดว่าหลินเสวี่ยจะไปที่ไหนหลังหนีออกจากบ้าน
“
ใช่แล้วเธออาจจะกลับไปหาพ่อแม่ของเธอก็ได้เพราะนี่เป็นสิ่งที่ลูกทุกคนต้องทำเมื่อมีความทุกข์ใจ
”
กริ๊ง…
ฉิงเฟิงรีบกดโทรศัพท์โทรหาพ่อตาของเขาหลินซื่อแต่หลินซื่อน่าจะหลับอยู่เพราะตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว
“อืม…ฉิงเฟิง เธอมีธุระอะไรดึกๆดื่นๆแบบนี้ ” หลินซื่องัวเงียและบ่นในขณะที่ตายังปิดอยู่
“พ่อหลินเสวี่ยได้กลับไปที่บ้านคุณไหม ”
“หือ เสวี่ยน้อยเหรอ เปล่านี่หิมะตกแบบนี้เธอจะมาทำไม”
“พ่อเธอหนีออกจากบ้าน คุณพอจะนึกออกไหมว่าที่น่าจะไปที่ไหน ”
ตอนแรกฉิงเฟิงไม่อยากบอกความจริงของเรื่องที่เธอหนีออกจากบ้านแก่หลินซื่อแต่เขาเป็นกังวลมากและต้องการหาเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะเล่าให้เขาฟังต่อหน้าในภายหลัง
“อะไรนะ! เสวี่ยน้อยหนีออกจากบ้าน !?” หลินซื่อหลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที
เขารู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้ยินเขารู้อย่างชัดเจนว่าลูกสาวของเขามีนิสัยอย่างไร เธอเป็นเด็กหัวแข็งมากและมีความหยิ่งยโสและภาคภูมิใจในตัวเอง
หลินซื่อไม่ได้ดูแลเธอให้ดีตอนเป็นเด็กครั้งหนึ่งเธอเคยหนีออกจากบ้าน เธอคงจะตายไปแล้วถ้าไม่ได้มีคนใจดีช่วยเหลือไว้ ดังนั้นลูกสาวของเขาจะไม่มีทางหนีออกจากบ้านถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายสำหรับเธอจริงๆ
“พวกเธอทะเลาะกันหรือ ฉิงเฟิง เธอทำให้เธอโมโหรึไง ?”
“มันเป็นความผิดของผมเองทั้งหมดคุณเป็นพ่อเธอคุณน่าจะรู้ว่าเธอจะไปไหนใช่ไหมครับ ”
“อืม…ลองไปดูตามบาร์และร้านกาแฟ ไม่ก็บางทีเธออาจจะไปที่โรงแรมในสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนี้” หลินซื่อคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็บอกสถานที่ที่เขาพอจะนึกออก
ฉิงเฟิงพยักหน้าและเริ่มค้นหาหลินเสวี่ยทันทีหลังจากที่วางสายไป
เขาค้นหาตามบาร์คาเฟ่ ร้านกาแฟและโรงแรมในระแวกใกล้เคียงทุกแห่งแต่ก็ยังไม่พบเธอ
เหมียวซิยี้และกัวซื่อเว่ยก็ช่วยเขาออกตามหาด้วยเช่นกันแต่ก็ยังไม่พบเบาะแสะแม้แต่น้อย
กัวซื่อเว่ยจับประเด็นได้และรู้ว่าหลินเสวี่ยคือภรรยาตามกฎหมายของฉิงเฟิง ส่วนหลิวหรูหยานก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งของฉิงเฟิงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าวันนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่เธอมาได้ยินความลับเรื่องจากตั้งครรภ์และความสัมพันธ์ของฉิงเฟิงกับหลิวหรูหยาน เธอจึงเสียใจและหนีออกจากบ้านไป
ในฐานะสหายที่ดีต่อกันกัวซื่อเว่ยเริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นสภาพที่ดูไม่ดีของฉิงเฟิง หลังจากตามหาอย่างบ้าคลั่งมาเป็นเวลานานก็ยังไม่อาจหาเธอพบ
“วูฟคิงเมืองตงไห่ไม่ใช่เมืองเล็กๆ พวกเราแค่สามคนคงไม่มีทางหาเธอเจอง่ายๆหรอก” กัวซื่อเว่ยขมวดคิ้วและกล่าวกับฉิงเฟิง
ใช่แล้ว
!‘
ทุกคน
’
ฉิงเฟิงเอามือตบหน้าผากเขามัวแต่กังวลเรื่องหลินเสวี่ยมากเกินไปจนลืมคิดไปว่าเมืองนี้ใหญ่มาก ลำพังพวกเขาแค่ 3 คนคงไม่มีทางหาเจอต่อให้หาจนถึงเช้าก็ตาม