My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 706 เหล่าผู้คนที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้า
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 706 เหล่าผู้คนที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้า
“เมิ่งเหยาเธอเจอหลินเสวี่ยแล้วหรือ !” เมื่อได้ยินคำนี้ดวงตาฉิงเฟิงก็เป็นประกาย เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข
เขารีบวิ่งไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดของสถานีตำรวจที่สามารถมองเห็นภาพภายในเมืองตงไห่เกือบทั้งหมดได้
มันเป็นเรื่องดีในที่สุดเขาก็หาหลินเสวี่ยพบ แต่หัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้จากภาพในกล้องด้วยน้ำตาที่หยดลงบนแก้มของเธอ
“
เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้เธอต้องเสียใจ…
”
ฉิงเฟิงตำหนิตัวเองที่ทำให้เธอร้องไห้
“เมิ่งเหยาที่เขตชานเมืองทางเหนือมีอะไรมั้ย ” ฉิงเฟิงถาม
“มี….เอ่อ” ซูเมิ่งเหยาลังเล เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหมเพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับสุดยอดของทางการ
“เมิ่งเหยาหลินเสวี่ยหายตัวไปแต่เธอก็ยังมาทำอ้ำๆอึ้งปิดบังฉันแบบนี้ เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า ”
“ก็ได้ฉิงเฟิงชั้นจะบอกคุณ มันมีพื้นที่ต้องห้ามที่เรียกว่าภูเขาเทียนหมิงหยุน (ภูเขาชะตาฟ้า) ไม่มีใครอนุญาตให้เข้าไป”
“ทำไมถึงเข้าไปไม่ได้”
“ภูเขาเทียนหมิงหยุนเป็นพื้นที่ของนิกายชะตาฟ้าและคุณก็ควรจะรู้ด้วยว่าที่นั่นเป็นหนึ่งในกองกำลังลึกลับที่อยู่เหนืออำนาจของโลก”
นิกายชะตาฟ้า
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนพวกเขาน่าจะเป็นคนธรรมดาแต่ตั้งชื่อกองกำลังตนเองว่านิกายชะตาฟ้า แต่แล้วยังไงละ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเขาก็ต้องไปหาหลินเสวี่ย
“ฉันจะไปนิกายชะตาฟ้าเดี๋ยวนี้”ฉิงเฟิงพึมพัมและเดินออกจากวิลล่าไป
“ใจเย็นก่อนไอ้หมาหัวเน่าข้าได้ยินมาว่านิกายชะตานั้นไม่ธรรมดา ให้ข้าไปเป็นเพื่อนก็แล้วกัน” กัวซื่อเว่ยตามฉิงเฟิงไป ในฐานะราชามวยในประเทศไทย เขาเคยเดินทางไปยังเทือกเขาชะตาฟ้าพร้อมกับอาจารย์ของเขาและรู้ว่าที่นั่นเต็มไปด้วยยอดฝีมือซ่อนเร้นมากมาย
ฉิงเฟิงพยักหน้าและขับรถมุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้าพร้อมกับกัวซื่อเว่ย
เขาไม่ได้พาใครไปอีกเพราะเขารู้ว่านิกายชะตาฟ้าเป็นกองกำลังลึกลับของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์และทรงอำนาจมากคนธรรมดาไปด้วยก็ไม่มีประโยชน์
บรื้น!
… ฉิงเฟิงเหยียบคันเร่งและรถก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพราะเขาเป็นห่วงหลินเสวี่ยมาก รถของชายทั้งสองมุ่งหน้าไปยังนิกายชะตาฟ้าด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสนั่น
ในขณะเดียวกันเหล่ากองกำลังลึกลับรวมถึงนิกายและตระกูลสูงศักดิ์ทั้งหมดในประเทศจีนที่เห็นดอกบัวหิมะสีขาวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าต่างก็ส่งคนไปที่ภูเขาชะตาฟ้าที่ซึ่งบัวหิมะสีขาวนั้นปรากฏขึ้น
—
ภูเขาโลหิตอสูร,นิกายโลหิตสีชาด
เป็นไปดั่งที่มีคนเคยว่าไว้ที่ใดมีความชอบธรรมก็ย่อมต้องมีความชั่วร้าย ที่ใดมีหนทางที่ถูกต้องก็ย่อมมีหนทางที่นอกรีตเช่นกัน และนิกายโลหิตสีชาดก็เป็นหนึ่งในคำกล่าวนั้น !
มีตำหนักขนาดมหึมาที่เป็นสีแดงเถือกราวกับเลือดแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสีแดงนี่คือที่ตั้งของนิกายโลหิตสีชาด มีชายตัวสูงคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางตำหนักเขาสวมผ้าคลุมสีแดงราวกับว่ามันไปแช่ในบ่อเลือดมา ซึ่งทำให้คนที่มองเห็นแทบจะตาบอดสี
มีชายหนุ่มที่ดูชั่วร้ายอีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆชายร่างสูงเขาดูหล่อเหลาแต่ดวงตาของเขาเปล่งประกายกระหายเลือดออกมา
ชื่อของเขาคือเหลิงเสวี่ย(Cold Blood) ซึ่งเป็นบุตรชายของชายร่างสูงที่นั่งอยู่และเป็นนายน้อยของนิกายโลหิตสีชาด เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ฟ้าลิขิต
“เหลิงเสวี่ยเหตุการณ์ไม่ปกติที่ปรากฏบัวหิมะหมายถึงผู้ที่ฟ้าลิขิตได้เกิดขึ้นที่นิกายชะตาฟ้า เจ้าจงไปดูว่าคนผู้นั้นเป็นใคร หากเป็นบุรุษให้สังหารมันซะ แต่ถ้าเป็นสตรีให้นำตัวมาใช้เป็นภาชนะบ่มเพาะ
“ตามนั้นท่านพ่อ”เหลิงเสวี่ยยิ้มอย่างน่ากลัวและออกจากตำหนักไป
“ผู้ที่ฟ้าลิขิตอีกคนงั้นหรือ หึหึหึ… น่าสนใจ หวังว่าจะเป็นสตรี ข้าจะทำให้เธอเป็นสาวอุ่นเตียงก่อนที่จะนำตัวไปเป็นภาชนะบ่มเพาะ” เหลิงเสวี่ยยิ้มอย่างเย็นยะเยือกและมุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้าทันที
—-
เมืองเทียนจิง
ฉินเซียนจื่อกำลังดื่มชาอยู่ในบ้านเมื่อเธอได้ข้อความจากพ่อของเธอที่อยู่ไกลออกไปนับพันไมล์เขาบอกให้เธอไปที่ภูเขาชะตาฟ้าเพื่อดูว่าใครคือผู้ที่ฟ้าลิขิตที่เพิ่งถือกำเนิด
ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนจะสามารถเห็นดอกบัวหิมะที่ปรากฏบนท้องฟ้าได้ไม่ว่าจะเป็นฉินเซียนจื่อ เหลิงเสวี่ยหรือแม้แต่หลี่ฉิงเฟิงก็ตาม มีเพียงสุดยอดฝีมือระดับจ้าวนิกายเท่านั้นจึงจะสามารถมองเห็น
การส่งเสียงจากระยะทางนับพันไมล์เป็นเคล็ดวิชาลับต้องสูญเสียปราณแท้และพลังจิตมากมาย แต่จ้าวตำหนักมังกรก็ยอมใช้มันเพื่อคนที่ฟ้าลิขิตที่เพิ่งถือกำเนิด
“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลข้าจะพาคนผู้นั้นมาที่นี่ให้ได้” ฉินเซียนจื่อตอบกลับและมุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้าด้วยเฮลิคอปเตอร์
แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่นิกายโลหิตสีชาดและตำหนักมังกรแต่ยังรวมถึงตำหนักโกสคิงและตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสี่ตลอดจนกองกำลังลึกลับอีกมากมาย ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปที่ภูเขาชะตาฟ้าเพื่อตามหาผู้ที่ฟ้าลิขิตคนนั้น !
กล่าวได้ว่าหลินเสวี่ยทำให้ทั่วทั้งประเทศจีนต้องสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
แต่หลี่ฉิงเฟิงผู้เป็นสามีเธอไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยในระหว่างที่กำลังขับรถไปที่ภูเขาชะตาฟ้า
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นขณะขับรถความจริงเขาไม่อยากรับสายเพราะจะรีบขับรถไปหาหลินเสวี่ยแต่มันก็ดังไม่หยุด
“ไอ้อ้วนรับโทรศัพท์แทนฉันที”ฉิงเฟิงมองไปที่กัวซื่อเว่ยและกล่าว
กัวซื่อเว่ยพยักหน้าและรับสายแทน“วูฟคิงขับรถอยู่ มีธุระอะไร ”
“ข้าคือนักตรพลู่เต๋าซางส่งโทรศัพท์ให้ฉิงเฟิงที บอกเขาว่าข้ามีเรื่องด่วนสำคัญมากจะต้องพูดกับเขา” เสียงลู่เต๋าซางดังออกมาจากโทรศัพท์
ลู่เต๋าซาง
ฉิงเฟิงได้ยินเสียงแม้ว่าเขาจะขับรถ
เขามีความเคารพต่อลู่เต๋าซางอย่างเต็มหัวใจไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นจ้าวอาวาสของภูเขาบู๊ตึ๊ง แต่ยังเป็นเพราะเขาเป็นผู้มอบเคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์ให้ฉิงเฟิงฝึกฝนจนก้าวผ่านจากนักสู้ปุถุชนเป็นผู้ฝึกยุทธ์เต็มตัว
ฉิงเฟิงรู้ว่าลู่เต๋าซางจะต้องมีเรื่องสำคัญมากไม่งั้นเขาคงจะไม่โทรมาเช้ามืดเช่นนี้ เขาจึงจอดรถข้างทางและรับสายทันที
“ท่านจ้าวอาวาสนี่ผมเองฉิงเฟิง ท่านมีธุระอะไรหรือ”
“ฉิงเฟิงผู้ที่ฟ้าลิขิตถือกำเนิดขึ้นที่ภูเขาชะตาฟ้า ข้าได้ทำนายด้วยผังแปดทิศของข้าและพบว่าแม้จะมีภาพที่ตระการตาของบัวหิมะที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า แต่จะมีความตายและหายนะตามมาด้วย เจ้าอย่าไปที่นั่น” ลู่เต๋าซางกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล
ภาพอันงดงามของบัวหิมะบนท้องฟ้า
ความตายและหายนะ
ฉิงเฟิงไม่รู้ว่าลู่เต๋าซางกำลังพูดถึงอะไรและเขาก็ไม่สนใจด้วยเขารู้เพียงแค่ว่าภรรยาของเขาหลินเสวี่ยอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ต้องไป
“ท่านจ้าวอาวาสผมต้องขออภัยด้วยแต่ผมทำไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องไปภูเขาชะตาฟ้า ภรรยาผมอยู่ที่นั่น ต่อให้มันมีความตายและหายนะรออยู่ก็ตาม !” ฉิงเฟิงวางสายและขับรถต่อไป
ที่ภูเขาบู๊ตึ๊ง
ลู่เต๋าซางมีสีหน้าตื่นตระหนกเขาไม่รู้ว่าภรรยาของฉิงเฟิงจะอยู่ที่นั่นด้วย
“ไม่ได้การแล้ว…ฉิงเฟิงกำลังมีอันตรายถึงชีวิต เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ข้าต้องตอบแทนเขา ดูเหมือนว่าข้าจะต้องปรากฏตัวบนโลกใบนี้อีกครั้ง…”
ลู่เต๋าซางพึมพำและขมวดคิ้วเขาหยิบแส้หางม้าและมุ่งหน้าไปยังภูเขาชะตาฟ้าเช่นกัน