My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 708 ราชาอสูรเทียนหมิง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 708 ราชาอสูรเทียนหมิง
“ไปให้พ้น!” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งยโสเมื่อเขาเผชิญหน้ากับการคุกคามของลู่อิง
ฉิงเฟิงเกลียดชังลู่อิงอย่างมากบางทีอาจเป็นเพราะทั้งคู่เป็นผู้ชายและเข้าใจสันดานผู้ชายดี เขาไม่ชอบที่มีชายหนุ่มหล่อเหลามาติดพันหลินเสวี่ย มันเป็นกลไกการป้องกันตัวเองต่อผู้หญิงของเขา
“เจ้าอย่าทำตัวโอหังเกินไปที่นี่คือนิกายชะตาฟ้า เจ้าเป็นใครถึงจะพาคนไปง่ายๆเช่นนี้ ”
“ฉันเป็นสามีเธอเหตุผลนี้เพียงพอหรือเปล่าละ ”
“เฮอะเธอสลบอยู่ ขอทานข้างถนนก็พูดได้ ใครจะไปรู้ว่าเจ้ากำลังโกหกเพื่อพาเธอไปหรือเปล่า” ลู่อิงกล่าวอย่างเย็นชา เขามีความรักที่งมงายต่อหลินเสวี่ย เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องปฏิเสธไม่ให้ฉิงเฟิงพาเธอไป “งั้นก็เข้ามา! ใครขวางฉันจะฆ่าให้หมด” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเหน็บ จู่ๆเขาก็ยกเท้าเตะเข้าหาลู่อิงในทันที ลูกเตะนี้เต็มไปด้วยพลังมหาศาลและฉีกผ่านอากาศ
ลู่อิงไม่กล้าประมาทเมื่อเขารู้สึกได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของลูกเตะนี้เขายกขาขวาขึ้นมาป้องกันในทันที
ตูม
!!
ทั้งสองขาปะทะกันในอากาศตามมาด้วยเสียงดังสนั่นฉิงเฟิงยืนนิ่งไม่ไหวติง ในขณะที่ลู่อิงต้องถอยออกไปหลายก้าว
ไม่ธรรมดาแข็งแกร่งมาก
!
การแสดงออกของลู่อิงเริ่มกลายเป็นจริงจังขึ้นชายหนุ่มข้างหน้ามีพลังมากเกินไป
ในขณะนั้นเองลั่วหนี่ซางก็กล่าวว่า“ชั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าสาวงามคนนี้เป็นภรรยาของหลี่ฉิงเฟิง เขามีสิทธิ์พาเธอออกไป” เธอพยายามให้ฉิงเฟิงเป็นพวกนอกจากนี้ฉิงเฟิงยังติดหนี้คำสัญญาสามข้อต่อเธอ ดังนั้นลั่วหนี่ซางจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วย
ดวงตาของฉินเซียนจื่อเปล่งประกายเมื่อเธอจ้องไปที่ลั่วหนี่ซางเธอกล่าวว่า “ข้าก็รับรองได้ว่าสตรีนางนี้เป็นภรรยาของหลี่ฉิงเฟิง”
ฉิงเฟิงงุนงงชั่วขณะเมื่อได้ยินที่ฉินเซียนจื่อพูดออกหน้าช่วยเขาเขารู้ว่าเขาได้ปฏิเสธคำเชิญของเธอหลายต่อหลายครั้ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่เขากำลังเดือดร้อน
ใบหน้าของลู่อิงซีดลงการแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมน เขาเพิ่งเรียกฉิงเฟิงว่าคนโกหก แต่กลับถูกลั่วหนี่ซางและฉินเซียนจื่อหักหน้าในทันที
“หึหึหล่อนเป็นเมียแกแล้วยังไง ข้าต้องการตัวเธอ” เหลิงเสวี่ยกล่าวอย่างเย่อหยิ่งด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
ไป๋หวู่ชางก็ร่วมวงด้วยเช่นกันและกล่าวว่า“ข้าก็ต้องการสาวงามคนนี้ ต่อให้เธอแต่งงานแล้วก็ไม่สน”
“สาวงามคนนี้ยอดเยี่ยมนัก”เจียงไป่เต๋า หนึ่งในสามอันดับแรกของรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ก็กล่าวเป็นเชิงเห็นด้วยเช่นกัน
ความรู้สึกของฉิงเฟิงมืดลงก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างพอใจที่มีคนอยู่ข้างเขาสองคน อย่างไรก็ตาม ในพริบตากลับมียอดฝีมืออีกสามคนที่ต้องการแย่งชิงตัวภรรยาของเขา
ฉิงเฟิงมีพลังอยู่ในระดับเหนือสวรรค์เขารู้สึกได้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งสามคนนี้ต่างก็แข็งแกร่งกว่าเขา
อาวุโสชะตาฟ้าขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นคนมากมายต่างก็พยายามจะแย่งชิงตัวหลินเสวี่ยเขากล่าวเบาๆว่า “ข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าไว้ เธอถูกสาปด้วยคำสาปแห่งความตาย เธอไม่สามารถเปิดใช้งานพลังแห่งสายเลือดได้และไม่สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้อีกด้วย เธอทำได้เพียงใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเท่านั้น”
คำสาปแห่งความตาย เธอสามารถใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้เท่านั้น
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสชะตาฟ้าพวกเขาต้องการคนที่อาจจะกลายเป็นสุดยอดฝีมือในโลกหล้าเพื่อความรุ่งโรจน์ของนิกายและวงศ์ตระกูล ไม่ใช่ผู้ที่ถูกคำสาปและใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา
“ในเมื่อสาวงามผู้นี้ถูกคำสาปแห่งความตายงั้นข้าก็ไม่ขอแย่งชิง ข้าไม่ต้องการเธอแล้ว” เจียงไป่เต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเจียงไป่เต๋าจะกล่าวถอนตัวแต่การแสดงออกของฉิงเฟิงที่มีต่อเขาก็ยังคงเย็นชา ชายคนนี้กล่าวราวกับว่าภรรยาของเขาเป็นสิ่งของที่สามารถทิ้งได้ตลอดเวลา เขาพูดของเขาทำให้ฉิงเฟิงไม่พอใจมาก
“
เมื่อฉันแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้เมื่อไหร่ฉันจะคว่ำแกอย่างแน่นอน เจียงไป่เต๋า !
“
ฉิงเฟิงคิดในใจขณะที่จ้องมองเจียงไป่เต๋าในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“ถึงแม้ว่าสาวงามผู้นี้จะไม่สามารถกลายเป็นยอดยุทธ์ได้แต่เธอก็งดงามยิ่งนัก เธอน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการอุ่นเตียงให้ข้า” เหลิงเสวี่ยแสยะยิ้มและกล่าวอย่างชั่วช้าลามก
“สาวอุ่นเตียงนี่เป็นความคิดที่ดี” ไป๋หวู่ชางกล่าวเสริม
ในความเป็นจริงไป๋หวู่ชางจดจำฉิงเฟิงได้ ตำหนักโกสคิงเริ่มเก็บข้อมูลเขาตั้งแต่ตอนที่เฮยหวู่ชางถูกสังหาร
ไป๋หวู่ชางมีแรงจูงใจสองประการในการมาเยือนภูเขาชะตาฟ้าในวันนี้ข้อแรกต้องการชิงตัวหลินเสวี่ย ข้อสองคือฆ่าฉิงเฟิง ในเมื่อตอนนี้เขาได้พบกับฉิงเฟิงแล้วก็เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่พลาดโอกาส
“พวกแกกำลังหาที่ตาย”ฉิงเฟิงกล่าวด้วยจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมา
เหลิงเสวี่ยและไป๋หวู่ชางกำลังหาที่ตายพวกมันกล้าดียังไงมาพูดจาเช่นนี้ต่อภรรยาของเขา ฉิงเฟิงโกรธเกรี้ยวอย่างมากและกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาได้ตลอดเวลา
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นการต่อสู้กำลังจะระเบิดได้ทุกเวลา
“โชคดีที่ข้ามาทันเวลาถ้าข้ามาช้ากว่านี้อีกนิด พวกเจ้าคงเริ่มการต่อสู้กันไปแล้ว”
ลู่เต๋าซางกล่าวขณะที่รีบรุดเข้ามาในห้องโถงใหญ่
หลังจากวางสายกับฉิงเฟิงลู่เต๋าซางก็รีบมุ่งหน้ามายังภูเขาชะตาฟ้าทันที ในที่สุดเขาก็มาถึงทันเวลาก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น
ในขณะที่เขามาถึงลู่เต๋าซางก็มองไปที่ผู้คนที่อยู่ภายในห้อง เขาสั่นสะท้านเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงที่อาจจะเกิดแก่ฉิงเฟิง เนื่องผู้คนเหล่านี้เป็นตัวแทนของกลุ่มอำนาจใหญ่ของผู้ฝึกยุทธ์โบราณในหัวเซี่ย แม้ว่าตอนนี้ฉิงเฟิงจะเป็นยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์แล้วก็ตาม แต่เขายังเป็นผู้ที่มีระดับพลังต่ำที่สุดในกลุ่มนี้
“ลู่เต๋าซางหรือ ท่านมาที่นี่ทำไมกัน ?” อาวุโสชะตาฟ้ากล่าวออกมาเมื่อเขาเห็นลู่เต๋าซาง
เขาคุ้นเคยกับลู่เต๋าซางอย่างเป็นธรรมดาเขาเป็นผู้นำของภูเขาบู๊ตึ๊ง เมื่อ 15 ปีก่อน ลู่เต๋าซางได้ชื่อว่าเป็นยอดยุทธ์ในตำนานผู้หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเขาลดถอยลงอย่างมากหลังจากที่เขาถูกลอบทำร้าย
ลู่เต๋าซางหันไปมองไปที่อาวุโสชะตาฟ้าและกล่าวว่า“ท่านยังมีหน้าเรียกตนเองว่าชะตาฟ้าอีกหรือ ข้าคิดว่าท่านช่างโง่เขลายิ่งนัก”
“ลู่เต๋าซางถึงแม้ว่าเราจะเป็นสหายกันแต่ท่านก็ไม่ควรพูดกับข้าเช่นนี้”
“ท่านไม่พอใจกับคำพูดของข้างั้นหรือท่านทราบไหมว่าหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้เป็นใคร?”
“ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าเขาเป็นใคร”
“หลี่ฉิงเฟิงคือลูกชายของราชันผู้พิชิต,นายน้อยสามของตระกูลหลี่ ข้ากล้าผิดหรือไงที่ว่าท่านเป็นคนโง่เขลา แม้กระทั่งนายน้อยของท่านอยู่ตรงหน้าท่านก็ยังไม่รู้” ลู่เต๋าซางกล่าวอย่างเย็นชาในขณะที่มองไปที่อาวุโสชะตาฟ้า
ในหัวเซี่ยราชาอสูรทั้งสิบคนต่างก็เป็นที่รู้จักกันดี พวกเขาคืออสูรทั้งสิบที่อยู่ภายใต้ราชันผู้พิชิต แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของราชาอสูร ลู่เต๋าซางก็รู้จักราชาอสูรผู้นี้ด้วยเหตุบังเอิญ
อะอะไรนะ
!
บุตรชายของนายท่าน
การแสดงออกของผู้อาวุโสชะต้าฟ้าเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดของลู่เต๋าซาง เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่นครือว่า “จะ.. เจ้าเป็นลูกชายของราชันผู้พิชิตจริงๆหรือ”
วูบ!
ฉิงเฟิงหยิบตราผู้พิชิตออกมาและกล่าวว่า“นี่คือตราพิชิต ฉันเป็นลูกของราชันผู้พิชิต”
ปึง!
อาวุโสชะตาฟ้าคุกเข่าลงข้างหนึ่งและกล่าวด้วยความเคารพว่า“ทักทายนายน้อย ! ข้าคือหนึ่งในลูกน้องของพ่อท่าน ราชาอสูรชะตาฟ้า (เทียนหมิง)”
เมื่อ15 ปีก่อน ผู้อาวุโสชะตาฟ้าเกือบจะตายจากการลอบสังหาร ซึ่งพ่อของฉิงเฟิงได้ช่วยเขาเอาไว้ และจากเหตุการณ์นั้นทำให้อาวุโสชะตาฟ้ารู้สึกเลื่อมใสราชันผู้พิชิต จนกลายเป็นลูกน้องของเขาและเป็นหนึ่งในสิบอสูร นี่เป็นความลับที่มีเพียงไม่กี่คนที่ทราบ