My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 722 การคัดเลือกผู้เข้าร่วมทีม
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 722 การคัดเลือกผู้เข้าร่วมทีม
“เหอะถ้านายจะพูดแบบนี้ ฉันก็พูดได้ นายบอกว่านายเป็นลูกพี่ลูกน้องของลั่วหนี่ซางใช่ไหม แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นหน้านายมาก่อนเหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่านายมั่วนิ่มหรือเปล่า ? ฟังดูเป็นไงละ หืม ?”
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวยอกย้อน
ชายหนุ่มขมวดคิ้วและเต็มไปด้วยโกรธเขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไอ้ลูกหมา แกกล้าล้อเลียนฉันเหรอ ฉันชื่อลั่วเทียนเฮา เป็นลูกพี่ลูกน้องของหล่อนโว้ย !”
“ลั่วเทียนเฮา ใครหว่า ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย พวกมิจฉาชีพหรือเปล่า ?”
ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าว
เมื่อมาถึงจุดนี้ฉิงเฟิงไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องของลั่วหนี่ซางหรือเปล่าเหตุผลที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมาพบลั่วหนี่ซางเท่านั้น เขาไม่อยากยุ่งกับลั่วเทียนเฮาอีกต่อไป
หลังจากนั้นไม่นานนักลั่วหนี่ซางก็เดินออกมาจากคฤหาสน์ เธอเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก ทั่วทั้งตัวของเธอราวกับจิ้งจอกยั่วสวาท ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเลิศหรู ดวงตาทั้งสองที่สว่างไสวที่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจต้านทานได้ ริมฝีปากราวกับลูกเชอร์รี่เล็กๆที่ทุกคนอยากจะกัดชิมลิ้มลอง
เธอสวมชุดเดรสสีแดงหน้าอกใหญ่โตของเธอเหมือนแคนตาลูปสองลูก ร่างกายของเธอส่งกลิ่นหอมเย้ายวนที่ไม่อาจต้านทาน ก้นที่กระชับเข้ารูปของเธอเปรียบเสมือนแตงโมขนาดใหญ่ดูล่อตาล่อใจ
ลั่วหนี่ซางเป็นที่รู้จักกันในฐานะเทพธิดากุหลาบเธอเป็นความสาวงามระดับท็อบของเมืองเทียนจินที่ดูงดงามและสง่างาม
เมื่อเห็นลั่วหนี่ซางเดินออกมาใบหน้าของลั่วเทียนเฮาก็โพล่งออกมาด้วยความสุข ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหลราวกับติดสัด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ตาม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะมีความคิดลามกต่อเธอ
“เฮ้ยไอ้นักต้มตุ๋น เป็นไงละ นายเห็นไหม เธอถึงขนาดต้องเดินออกมารับฉัน”
ลั่วเทียนเฮามองไปที่ฉิงเฟิงดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความยั่วยุ
แต่กลับกลายเป็นว่าลั่วหนี่ซางเมินเฉยต่อลั่วเทียนเฮาและเดินไปหาฉิงเฟิงแทนเธอกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“มาแล้วเหรอคะ”
“อ่า…ตระกูลลั่วช่างมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนานัก ฉันอุตส่าห์บอกว่าเป็นเพื่อนคุณพวกเขาก็ยังไม่ให้เข้าไป” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ
ลั่วหนี่ซางเผยอยิ้มออกมาอย่างงดงามและกล่าวด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า“อย่าแปลกใจไปเลย พวกเขามักทำตัวภาคถูมิใจและเย่อหยิ่งเสมอ เข้าไปข้างในกันเถอะ”
เวรแล้วชายหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนคุณหนูลั่วจริงๆด้วย
!
เหล่ายามทั้งหลายต่างก็อ้าปากกว้างใบหน้าเต็มไปด้วยความช็อค
พวกเขาไม่เคยเห็นคุณหนูหัวเราะเช่นนี้มาก่อนไม่ว่าจะกับใครก็ตาม! พวกเขาไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าวันนี้จะได้มาเห็น แถมยังหัวเราะกับผู้ชายคนหนึ่งอีกด้วย ! เรื่องนี้มันบ้าชัดๆ !
ส่วนลั่วเทียนเฮาก็ยืนเอ๋ออยู่ข้างๆใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย เพราะเดิมทีเขาคิดว่าลูกพี่ลูกน้องจะมาที่นี่เพื่อมารับเขาเข้าไปข้างใน แต่เธอกลับมารับชายหนุ่มคนนี้ซะงั้น เขาสามารถบอกได้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้กับลั่วหนี่ซางสนิทสนมกันมากเมื่อฟังจากการสนทนา เรื่องนี้ทำให้ลั่วเทียนเฮายิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่
ในเมื่อลั่วหนี่ซางไม่พูดกับเขาเขาจึงต้องเริ่มบทสนทนาเอง “ลูกพี่ลูกน้อง ฉันลั่วเทียนเฮาไง คุณจำฉันไม่ได้เหรอ ” ลั่วหนี่ซางยิ้มบางและกล่าวว่า“ลั่วเทียนเฮา ทำไมคุณถึงไม่อยู่ที่บ้านละ มาทำอะไรที่นี่ ”
“ลูกพี่ลูกน้องฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังจะเข้าไปในหลุมฝังศพแกรนด์มาสเตอร์ ฉันไปด้วยสิ !” ลั่วเทียนเฮากล่าวด้วยใบหน้าที่เร่าร้อน
เขารู้ว่าลั่วหนี่ซางกำลังจะเข้าสู่หลุมฝังศพของแกรนด์มาสเตอร์ในวันพรุ่งนี้และกำลังมองหาผู้เข้าร่วมในเมื่อเขากำลังจะตามจีบเธอก็เป็นธรรมดาที่เขาอยากจะไปด้วย
“ลั่วเทียนเฮาด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ชั้นว่าไม่ไหวหรอก คุณอยู่เฉยๆที่บ้านดีกว่า ชั้นจะไปพร้อมกับหลี่ฉิงเฟิงเอง”
“ลูกพี่ลูกน้องไอ้หมอนี่มันก็มีดีแค่หน้าหล่อ ฉันว่าเขามันก็แค่พวกนักเลงไก่อ่อนใต้ทางด่วนมากกว่า”
“ลั่วเทียนเฮาคุณคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งนักหรือ ต่อหน้าเขาคุณต่างหากที่เป็นขยะ” ลั่วหนี่ซางมองไปที่ลั่วเทียนเฮาอย่างเยือกเย็นเธอไม่อยากคุยกับเขาอีกต่อไปและพาฉิงเฟิงเดินเข้าไปในคฤหาสน์
ฉิงเฟิงเดินตามลั่วหนี่ซางเข้าไปข้างในและปล่อยให้ลั่วเทียนเฮายืนอยู่คนเดียวด้วยความไม่พอใจ
“
ดอกทองอีนังบ้า
!
เธอกล้าดียังไงมาเมินเฉยต่อฉันคนนี้
!
คอยดูเถอะสักวันหนึ่งฉันจะขึ้นค่อมเธอให้ร้องครวญคราง
!
“
ลั่วเทียนเฮาสบถออกมาอย่างหยาบคายจนยามหลายคนมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลลั่วด้วยเช่นกัน
“ช่างเป็นพื้นที่ที่งดงามเลิศหรูมาก”เมื่อมองไปที่คฤหาสน์ตระกูลลั่วที่งดงาม ฉิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความชื่นชมออกมา ภายในมีบริเวณมีวิลล่าหลายสิบหลัง มีทะเลสาบเทียม สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟขนาดใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย ในพื้นที่นี้มีบ้านของเหล่าสมาชิกตระกูลลั่วนับร้อยคน
แน่นอนว่านอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ยังมีเวทีประลองยุทธ์ขนาดใหญ่สำหรับสมาชิกของตระกูลลั่วอีกด้วย
ในขณะนี้ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่เวทีประลอง คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันและพวกเขาทั้งหมดต่างก็เปล่งกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา
ในหมู่คนเหล่านี้บางคนเป็นสมาชิกของตระกูลลั่วในขณะที่บางคนก็ได้ถูกคัดเลือกมาจากที่อื่นในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังจะเข้าร่วมในกระบวนการคัดเลือกรอบสุดท้ายในการไปที่หลุมฝังแกรนด์มาสเตอร์กับลั่วหนี่ซาง
เมื่อลั่วหนี่ซางเดินเข้ามาเวทีประลองพร้อมกับหลี่ฉิงเฟิงทุกคนก็มองไปที่ทั้งคู่ด้วยความสับสน เนื่องจากฉิงเฟิงเป็นผู้ชายคนแรกที่ลั่วหนี่ซางพาเข้ามาในตระกูล ในดวงตาของคนเหล่านี้ต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
“ทุกท่านชั้นขอแนะนำให้คุณรู้จักกับหลี่ฉิงเฟิง พรุ่งนี้เขาจะเข้าสู่หลุมฝังศพแกรนด์มาสเตอร์พร้อมกับชั้น” ลั่วหนี่ซางประกาศด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวล
หลังจากได้ยินที่ลั่วหนี่ซางกล่าวทุกคนก็มีท่าทางดุร้ายและไม่พอใจในขณะที่พูดคุยกัน
ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า“มิสลั่ว เรื่องนี้ไม่ยุติธรรม ! พวกเราทั้ง 50 คนต่างก็ต้องผ่านการคัดเลือกและมีเพียงแปดคนเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมกับคุณได้ในการเข้าสุสานแกรนด์มาสเตอร์ แล้วเหตุผลชายหนุ่มคนนี้ถึงตัดหน้าแย่งโควต้าพวกเราโดยมิต้องคัดเลือกละครับ ”
“ใช่แล้วๆ! คุณหนู คุณกำลังดูถูกพวกเรา !”
“พวกเราจะไม่ยอมรับเด็ดขาด! พวกเราทุกคนต่างก็ต้องการเข้าไปเสี่ยงโชคในสุสานแกรนด์มาสเตอร์กันทุกคน แต่พวกเรายังต้องผ่านการทดสอบของคุณครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าจะมาถึง 50 คนสุดท้ายได้ แล้วเขาเป็นใคร เขาแกร่งกว่าพวกเราหรือไง !”
มีเหล่ายอดยุทธ์กว่า50 คนบนเวทีประลองแห่งนี้ ทุกคนต่างก็ไม่พอใจในตัวฉิงเฟิง พวกเขาคิดว่าฉิงเฟิงใช้เส้นสายเอาเปรียบพวกเขา
ควรจะรู้ว่าภายในสุสานของยอดยุทธ์ระดับนี้จะต้องมีสมบัติมากมายอยู่ภายในนั้นอย่างแน่นอนดังนั้นทุกคนก็ต้องการมีส่วนร่วม นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์เคล็ดวิชาที่ประเมินค่ามิได้อีกด้วย เพียงแค่ได้มาสักเล่มหนึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคนใดคนหนึ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดในพริบตา อย่างไรก็ตามจำนวนคนในทีมที่ลั่วหนี่ซางกำหนดไว้ในการเข้าไปในสุสานจำกัดเพียง 9 คนเท่านั้นรวมเธออีกคนเป็น 10 ดังนั้นการที่ฉิงเฟิงได้เข้าร่วมทีมทันทีโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบเช่นพวกเขา ทำให้พวกเขาทั้ง 50 คนที่ยืนอยู่ต่างก็โกรธเกรี้ยวมาก
จากสิ่งที่ได้ยินในกลุ่มยอดยุทธ์ฉิงเฟิงรู้และเข้าใจว่าพวกเขาทุกคนไม่พอใจ เขาไม่ได้
ผ่านกระบวนการคัดเลือกดังนั้นจึงทำให้คนอื่นยากที่จะยอมรับเขาเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบสุดท้าย พวกเขาทั้งหมดคิดว่าฉิงเฟิงได้ถูกเลือกเนื่องจากมีคอนเนคชั่นกับลั่วหนี่ซาง ไม่ใช่เพราะว่าเขาแข็งแกร่ง
ใบหน้าของลั่วหนี่ซางดูไม่พอใจเล็กน้อยเธอไม่คาดคิดว่าคนกลุ่มนี้จะกล้าตั้งคำถาม
กับเธอถ้าเป็นคนเดียวเธอคงจะไม่สนใจ แต่นี่เป็นยอดยุทธ์ทั้ง 50 คนที่กังขากับมาตรฐานการคัดเลือกของเธอ เธอจึงทำอะไรไม่ถูกอีกทั้งไม่สามารถขับไล่ทั้งหมดไปได้เนื่องจากสุสานใกล้จะเปิดไปเข้าทุกที ควรทราบว่าสุสานของแกรนด์มาสเตอร์นั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่งในการสำรวจตรวจค้นที่นั่น เธอไม่อาจะพึ่งพาแค่ลำพังตัวเธอหรือฉิงเฟิงได้ ต้องอาศัยคนทั้งทีม เพราะบางคนก็มีความสามารถในแขนงที่ถนัด เช่น บางคนเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือ บางคนเชี่ยวชาญอาวุธ และบางคนก็เป็นผู้อ่านแผนที่หรือนำทาง (ประมาณว่าลงดันตี้ต้องครบ พระ ไนท์ สไนเปอร์ ฯลฯ)
“ฮ่าๆๆหลี่ฉิงเฟิง นายมีวิชาติดตัวรึเปล่าเนี่ย นายทำอะไรได้บ้าง” ลั่วเทียนเฮาเดินไปเพื่อเย้ยหยันฉิงเฟิงโดยเฉพาะ
เมื่อเห็นเหล่ายอดยุทธ์ทั้ง50 คนต่างก็ไม่พอใจฉิงเฟิง ลั่วเทียนเฮารู้สึกมีความสุขมาก เขาต้องการทำให้ฉิงเฟิงแย่ลงและผลักเขาเข้าหาคมดาบ
ฉิงเฟิงก็ไม่ต้องการให้ลั่วหนี่ซางต้องลำบากใจเช่นกันนอกจากนี้การเข้าไปในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ณ ตอนนี้ เถาวัลย์อีกาดำที่สูญพันธุ์ไปแล้วอยู่ในนั้น
“เข้าใจแล้วงั้นฉันจะเข้าร่วมการคัดเลือกเหมือนพวกนายทุกคน จงอย่าคิดว่าฉันใช้เส้นสาย” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและเดินตรงไปหายอดยุทธ์ทั้ง 50 คน