My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 730 ความรู้สึกเชื่อมั่นต่อชายคนนี้
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 730 ความรู้สึกเชื่อมั่นต่อชายคนนี้
เมื่อได้เห็นชายร่างผอมผิวดำผู้นี้ถูกงูเกล็ดแดงกัดคนส่วนใหญ่ก็ตกตะลึงอย่างโง่งม มีเพียงฉินตงเท่านั้นที่มีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว เขาหมุนกายราวกับกับลมกรดและปรากฏตัวเบื้องหน้าชายผอมในพริบตา
หมับ!
ฉินตงคว้าจับงูเกล็ดแดงเขาบดขยี้ร่างของมันเป็นชิ้นๆและทิ้งไปข้างๆ
งูพิษเกล็ดแดงนั้นเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเหนือสวรรค์ มันก็ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย
แม้ว่าฉินตงจะฆ่างูพิษไปแล้วแต่ชายร่างผอมก็ถูกพิษไปเรียบร้อยแล้ว มันเข้าสู่เส้นเลือดทั่วร่างกายของเขา เขาจะตายในอีกไม่ช้า
“ศิษย์น้องนำยาถอนพิษมาเร็วเข้า !” ใบหน้าของฉินตงแปรเปลี่ยนไปในทันที เขาหันหน้าไปหาฉินเซียนจื่อแล้วขอยาถอนพิษ
ฉินเซียนจื่อไม่ช้าเช่นกันเธอหยิบขวดสีขาวจากตัวด้วยมืออันอ่อนนุ่มของเธอ มียาแก้พิษอยู่ในขวดนั้น
ยาแก้พิษมีขนาดเพียงนิ้วหัวแม่มือเท่านั้นมันมีสีเขียวอ่อนและส่งกลิ่นฉุนของยาออกมา
ฉินเซียนจื่อนำยาถอนพิษสีเขียวอ่อนป้อนใส่ปากชายผอมสูงผ่านไปสองนาที ใบหน้าและร่างกายของชายคนนั้นก็ยังคงเป็นสีแดงก่ำ
“ศิษย์น้องพิษจากงูเกล็ดแดงรุนแรงเกินกว่างูพิษทั่วไป ยาถอนพิษไม่มีผลเลย” ฉินตงกล่าวด้วยความกระวนกระวาย
งูเกล็ดแดงชนิดนี้มีพิษร้ายแรงและมันมักจะอาศัยอยู่รอบๆผลไม้เจ็ดดารามันดูดกลืนแก่นแท้พลังจากผลไม้เจ็ดดาราอีกด้วย ทำให้พิษของมันร้ายแรงกว่างูพิษทั่วไป
ยาแก้พิษที่ฉินเซียนจื่อใช้นั้นสามารถแก้พิษงูทั่วไปเท่านั้นมันไม่มีผลต่อพิษงูเกล็ดแดงชนิดพิเศษเช่นนี้
เมื่อเห็นชายผอมสูงเริ่มอ่อนแรงลงทุกขณะทุกคนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย พวกเขาเพิ่งจะเข้ามาถึงแค่บริเวณรอบนอกของเทือกเขา และยังไม่ได้เข้าไปภายในสุสานด้วยซ้ำ จะต้องมีคนตายแล้วหรือ
“ฉันช่วยเขาได้”เสียงของฉิงเฟิงดังขึ้น
อะไรนะ
ช่วยเขาได้
เมื่อได้ยินเสียงของฉิงเฟิงใบหน้าของคนรอบข้างก็เปลี่ยนไปบางคนประหลาดใจ บางคนไม่อาจทำใจเชื่อได้และเต็มไปด้วยความกังขา
ต้องรู้ว่าพิษของมันไม่ใช่พิษจากงูทั่วไปแต่เป็นพิษงูที่ดูดซับแก่นแท้พลังจากผลไม้เจ็ดดารา แม้แต่ยาแก้พิษของฉิงเซียนจื่อก็ไม่มีผล แล้วเขาจะรักษาได้อย่างไร
“หลี่ฉิงเฟิงถ้านายสามารถรักษาเขาได้งั้นก็ถือว่าดีเลย นายต้องช่วยชีวิตฉินเฮยให้ได้ ไม่งั้นฉันจะเล่นงานแก” ฉินตงมองฉิงเฟิงและกล่าวอย่างเย็นชา
ชายผอมสูงที่โดนพิษงูเกล็ดแดงที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ตอนนี้เป็นคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เขาชื่อว่าฉินเฮยและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อฉินตง เพราะฉะนั้นเขาอยากให้ฉิงเฟิงช่วยชีวิตฉินเฮยให้ได้
ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดไม่เข้าหูของฉินตง ฉิงเฟิงก็ขมวดคิ้วมุ่นและเต็มไปด้วยความโกรธ
บัดซบ
!
ไอ้หมอนี่ปากหมาไร้เหตุผลสิ้นดีมันกล้าดียังไงมาสั่งให้ฉันช่วยคนและข่มขู่ในเวลาเดียวกัน
มันคิดว่ามันเป็นใคร
“โอ้ทัศนคติของนายทำให้ฉันไม่พอใจ แม้ว่าฉันจะช่วยเขาได้ แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ‘
ไม่ทำ !’” ฉิงเฟิงตอบกลับและกล่าวเน้นคำปฏิเสธ
ถ้าหากฉินตงกล่าวกับเขาดีๆเหมือนคนปกติเขาย่อมช่วยฉินเฮยแน่นอนเพราะพวกเราคือพันธมิตรกัน เขาไม่เคยทิ้งเพื่อนร่วมทีมอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ฉินตงกลับปากเสียใส่เขาแถมยังขมขู่ เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วคนเหล่านี้จากตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ฉิงเฟิงไม่ชอบหน้าเลยสักคนเดียวยกเว้นฉินเซียนจื่อ เมื่อสักครู่ทุกคนก็เห็นผลไม้เจ็ดดารานี้พร้อมๆกัน เพียงแต่ฉินเฮยตะโกนออกมาเป็นคนแรก ซึ่งจากเรื่องนี้คนจากตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ทุกคนต่างก็เห็นด้วยในการ ‘ฮุบ’ สมบัติชิ้นนี้ไว้กับพวกเขา
ตอนนี้ฉินเฮยโดนพิษเพราะไปเก็บผลไม้ฉินตงไม่เพียงขอร้องให้เขาช่วยรักษาแต่กลับมาพูดจาข่มขู่ฉิงเฟิงอีก ในสมองของชายคนนี้เต็มไปด้วยขี้เลื่อยรึไง หรือว่าคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ต่างก็เป็นเช่นนี้กันหมด ? “หลี่ฉิงเฟิงฉันขอออกคำสั่งนาย ในฐานะศิษย์เอกของจ้าวนิกายตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ นายจงช่วยฉินเฮยเดี๋ยวนี้ เข้าใจมั้ยเจ้าขยะ !” ฉินตงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเต็มไปด้วยความจองหอง
“อย่าฝัน” ฉิงเฟิงเอียงศีรษะไปข้างๆเล็กๆน้อยและกล่าวตอบอย่างไม่แยแส เขาไม่สนใจคำพูดของฉินตงแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นฉิงเฟิงไม่สนใจใบหน้าของฉินตงเปลี่ยนไปและเดินตรงดิ่งเข้ามา เขาทำให้บรรยากาศโดยรอยกลายเป็นหนักอึ้ง เตรียมจะลงมือสั่งสอนฉิงเฟิง
ฉินเซียนจื่อไม่อาจทนดูได้อีกต่อไปเธอกล่าวด้วยความโกรธว่า “ศิษย์พี่ ! ท่านจะทำอะไร !”
“ศิษย์น้องไอ้หมอนี่, หลี่ฉิงเฟิง มันเพิ่งจะพูดว่าช่วยฉินเฮยได้แต่มันก็ไม่ยอมช่วย แล้วจะให้ยืนดูฉินเฮยตายแบบนี้น่ะหรือ !” ฉินตงมองไปที่ฉินเซียนจื่อและกล่าว
ฉินเซียนจื่อรู้สึกรำคาญและขี้เกียจสาธยายถึงความยโสของศิษย์พี่ตัวเองเธอจ้องไปที่เขา เธอรู้ดีว่าศิษย์ผู้นี้เอาแต่ใจเพียงใด แต่ครั้งนี้เขาทำเกินไป
ก็ใช่ฉินตง ถ้าคุณอยากจะช่วยชีวิตฉินเฮย คุณก็ควรจะพูดกับหลี่ฉิงเฟิงดีๆ ทำไมต้องไปข่มขู่เขาด้วย
คุณคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นแมวขี้ขลาดที่โดนรังแกได้ง่ายๆงั้นหรือ
ฉินเซียนจื่อเข้าใจว่าอัตลักษณ์ของฉินตงนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมากหากมองจากมุมมองของคนภายนอกทุกคนต่างก็ประจบเอาใจเขาเพราะเขาเป็นศิษย์เอกจ้าวนิกาย อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงไม่ได้แยแสกับเกียรติยศของเขา
ที่ภูเขาชะตาฟ้าฉินเซียนจื่อได้เห็นแล้วว่า แม้กระทั่งอาวุโสเทียนหมิงยังคุกเข่าคำนับให้หลี่ฉิงเฟิงตาต่อเธอเอง อีกทั้งยังแทนตัวเองเป็นคนรับใช้ของเขาอีกด้วย
ลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูการทำให้จ้าวนิกายชะตาฟ้าถึงกับต้องคุกเข่าคำนับได้ต้องเป็นตัวตนแบบไหน เบื้องหลังของเขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน อาจจะไม่ด้อยไปกว่าตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ด้วยซ้ำ
ในความเป็นจริงแล้วการคาดเดาของฉินเซียนจื่อนั้นถูกต้องยามที่หลี่ฉิงเฟิงสามารถรวบรวมราชาอสูรได้ครบทั้งสิบตนและเปิดพลังสายเลือดของพวกเขา เมื่อนั้นเขาจะทรงอำนาจพอที่จะปกครองได้ทั่วทั้งหัวเซี่ย !
มีช่วงเวลาหนึ่งที่ราชันผู้พิชิตนำพาราชาอสูรทั้งสิบไปบุกยึดและควบคุมทั่วทั้ง18 จังหวัดของหัวเซี่ย พวกเขาคว่ำยอดฝีมือไร้เทียมทานมานับไม่ถ้วน กลายเป็นผู้พิชิตที่ปกครองทั่วใต้หล้าในยุคนั้น
“วูฟคิงเรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเราเอง ข้าขออภัยต่อท่านอย่างจริงใจในนามของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้” ฉินเซียนจื่อกระพริบขนตางอนยาวของเธอและกล่าวขอโทษฉิงเฟิง
คุณหนูฉินขอโทษด้วยตัวเอง
! เหล่าสาวกของนิกายที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างก็ตกอยู่ในอาการช็อกปฏิกิริยาของพวกเขาเปลี่ยนไปและใบหน้าของพวกเขากลายเป็นซีดเซียวด้วยความตกใจ
ฉินเซียนจื่อเป็นใคร เธอเป็นลูกสาวของจ้าวตำหนักและเป็นเจ้าหญิงของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ เธอไม่เพียงแค่เกิดมาด้วยความสง่างามแต่เธอยังมีรูปโฉมที่งดงามอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีความสามารถด้านวรยุทธ์และภูมิความรู้ เธอเป็นดั่งเทพธิดาที่สมบูรณ์แบบ
จากการแสดงออกของเหล่าสาวกนิกายทำให้คาดเดาได้ง่ายๆเลยว่าคุณหนูฉินของพวกเขาไม่เคยกล่าวขอโทษใครมาก่อน หลี่ฉิงเฟิงเป็นคนแรก
“ไอ้เด็กบ้าแกกล้าดียังไงถึงต้องทำให้ศิษย์น้องฉันกล่าวขอโทษแก !” ดวงตาของฉินตงดูเย็นยะเยือก เขาไม่พอใจเรื่องนี้มาก
“คุณหนูฉินคุณไม่จำเป็นต้องขอโทษ คุณไม่ใช่ตัวปัญหาที่ข่มขู่ฉัน ถ้าหากจะมีการขอโทษก็ควรจะต้องออกมาจากปากของฉินตงมากกว่า” ฉิงเฟิงโบกมือและส่ายหัว
ความประทับของฉิงเฟิงที่มีต่อฉินเซียนจื่อนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ประทับใจในความสามารถของฉิงเฟิงเป็นอย่างมากและต้องการให้เขาเข้าร่วมเป็นสาวก เธอกระทั่งมาเชิญเขาด้วยตนเองหลายครั้งหลายครา แม้เขาจะปฏิเสธไปเธอก็ไม่เคยโกรธเคือง ทำให้เขาประทับใจในตัวเธอไม่น้อย
สำหรับที่นี่ฉิงเฟิงคิดแค่เพียงว่าฉินเซียนจื่อเป็นสหายของเขา เขาไม่แคร์ผู้ใดนอกจากเธอ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะสามารถเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสหายของวูฟคิง แม้แต่สุดยอดลูกศิษย์ของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอ !
“วูฟคิงฉินเฮยเป็นสาวกคนสำคัญของนิกายเรา เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุอีกด้วย ได้โปรดช่วยชีวิตเขาด้วยเถอะ” ฉินเซียนจื่อกล่าวด้วยริมฝีปากสีแดงของเธอ เธอมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความหวัง ฉินเซียนจื่อรู้สึกไว้วางใจฉิงเฟิงอย่างไม่มีเหตุผลเธอรู้สึกได้ว่าเขาช่วยชีวิตฉินเฮยได้แน่นอน
วูฟคิงผู้นี้สร้างปาฏิหาริย์ต่อสายตาเธอมานับครั้งไม่ถ้วนที่ภูเขาชะตาฟ้าตอนนั้น เธอมั่นใจว่าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็สามารถพลิกกระดานและกลายเป็นผู้ชนะได้ เขาสามารถปลุกโลหิตมังกรภายในกายและบดขยี้ไป๋หวู่ชางที่มีระดับพลังสูงกว่าได้ภายในหมัดเดียว