My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 737 มรดกแห่งราชายาทิพย์
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 737 มรดกแห่งราชายาทิพย์
“ดูนั่นสิมีหลุมฝังศพอยู่ที่นี่ด้วย !” ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดูประหลาดใจดังเข้ามาในหูของทุกคน
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทุกคนก็เริ่มมีกำลังใจขึ้นและมองไปยังทิศทางนั้น
มีหลุมฝังศพอยู่ตรงริมฝั่งแม่น้ำลาวา,ตรงข้ามกับพระราชวัง
หลุมฝังศพเป็นสีดำสูงสามเมตรมันมีรูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและทำจากหินสะเก็ดดาว วัตถุชนิดนี้เป็นแร่ชนิดพิเศษทำให้มันคงสภาพอยู่ได้แม้จะอยู่ใกล้กับแม่น้ำลาวาที่ร้อนระอุมากกว่าหนึ่งพันองศา
“
ข้าคือนักปรุงยาระดับแกรนด์มาสเตอร์เซียวหยุนผู้คนขนานนามข้าว่า
‘
ราชายาทิพย์เซียวหยุน ’
ข้าได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อไล่ตามวิถีแห่งการปรุงยามันช่วยให้ข้าได้เหยียบย่างไปถึงระนาบสูงสุดแห่งขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์และปกครองทั่วทั้งโลกหล้าได้ด้วยฝีมือของข้า ข้ารู้ว่ายังมีขอบเขตที่สูงกว่าแกรนด์มาสเตอร์ขึ้นไปอีก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ข้าแสวงหาไล่ล่ามาตลอดชั่วชีวิตอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง ทว่า เทียนแห่งชีวิตของข้ากำลังจะดับลง… และคงไม่มีโอกาสได้เหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตนั้นอีกแล้ว ….. “
“
ที่แห่งนี้คือสถานที่ฝังศพของข้าเอง
,
ราชายาทิพย์ข้ามแม่น้ำลาวานั้นไป ในปราสาทจะมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ข้าบันทึกความรู้ชั่วชีวิตไว้ในนั้น วีถีปรุงยาแห่งราชายาทิพย์ นอกจากนั้นมันยังมียาทิพย์และเคล็ดวิชาขั้นแกรนด์มาสเตอร์เช่นกัน ”
“
ในช่วงชีวิตของข้าข้าได้ปีนป่ายขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแห่งขอบเขตของแกรนด์มาสเตอร์แล้ว กล่าวกันว่ามีขอบเขตที่สูงกว่าขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์อยู่อีกมาก ช่างน่าเสียดายนักที่ข้าไม่มีโอกาสได้สัมผัสมัน… หากวันหนึ่งมียอดยุทธ์คนใดมาที่สุสานนี้และมีวาสนาได้สืบทอดมรดกชั่วชีวิตของข้าไปจนสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตที่เหนือกว่าแกรนด์มาสเตอร์ได้ในสักวันหนึ่ง…. โปรดบอกกล่าวแก่ดวงวิญญาณของข้าในที่แห่งนี้ด้วย เพื่อให้ข้าได้หลับอย่างสงบ….”
จารึกบนหลุมฝังศพมีรายละเอียดมากพร้อมด้วยการแนะนำตัวของเจ้าของสุสานรวมไปถึงมรดกและภูมิความรู้ที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้ชนรุ่นหลัง
หลังจากได้อ่านข้อความบนแผ่นหินแล้วทุกคนอ้าปากค้างไปด้วยความตกใจพวกเขาจมอยู่กับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้เห็น “เป็นเซียวหยุน! ราชายาทิพย์เซียวหยุนนั่นเอง ! เขาคือราชานักปรุงยาอันดับหนึ่งของหัวเซี่ยเมื่อ 50 ปีก่อน ไม่อยากเชื่อเลย !”
“ไม่น่าเชื่อ…เขาเป็นราชายาทิพย์ที่หาตัวจับยากซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหัวเซี่ย ไม่เพียงแค่มีความสามารถทางด้านการปรุงยาที่โดดเด่นเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอีกด้วย !”
“ใช่แล้วข้าเคยได้ยินจากท่านพ่อมาเช่นกันว่าเซียวหยุนเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของหัวเซี่ยเมื่อห้าสิบปีก่อน เขามีพรสวรรค์ในการปรุงยาและวิทยายุทธ์”
ด้วยความช็อคและความชื่นชมในดวงตาของพวกเขาผู้คนรอบๆดูตื่นเต้นมากและเอาแต่พูดคุยเกี่ยวกับเจ้าของหลุมฝังศพแห่งนี้ เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่และนิกายที่แข็งแกร่งย่อมเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะได้ยินชื่อของเซียวหยุนมาก่อน
ในหัวเซี่ยนอกเหนือจากวิทยายุทธ์โบราณแล้วก็ยังมีศาสตร์แห่งการปรุงยาอีกด้วยในสมัยโบราณนักพรตเต๋าบางคนยังเคยปรุงยาจักรพรรดิอยู่เป็นประจำ โดยการปรุงยาทิพย์และเม็ดยาเพื่อยืดอายุขัยไปจนถึงปรุงยารักษาโรค
แม้กระทั่งในสังคมสมัยใหม่การใช้ยาอายุวัฒนะก็กว้างขวางมากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นยาแผนโบราณของจีน ยาจีนส่วนใหญ่สามารถมองเป็นรูปแบบของยาอายุวัฒนะได้เช่นกัน
ยาแผนโบราณสำหรับคนธรรมดานั้นแตกต่างจากพวกนักสู้พวกมันทำจากสมุนไพรล้ำค่าเช่น โสม บัวหิมะและอื่นๆ ซึ่งนักปรุงยาจะเป็นผู้สกัดกลั่น ยาที่สกัดได้นั้นจะเต็มไปด้วยปราณที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเหล่านักสู้
ในหัวเซี่ยนักปรุงยามีสถานะที่สูงส่งมาก ขั้วอำนาจต่างๆแก่งแย่งกันจนแทบจะล่ามโซ่นักปรุงยาไว้กับกองกำลังของตนเอง เนื่องจากนักปรุงยานั้นมีความสามารถในการปรุงยาซึ่งอาจเพิ่มความแข็งแกร่งของกองกำลังและช่วยยืดอายุขัยได้ในบางกรณี ดังนั้นนักปรุงยาจึงเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ทว่า การจะเป็นนักปรุงยาได้นั้นยากเย็นราวกับปีนป่ายขึ้นสวรรค์ ประการแรก คนที่จะเป็นนักปรุงยาได้นั้นจะต้องมีทักษะในการปรุงยาที่เข้ากันได้และประการที่สองคือต้องมีพรสวรรค์ในการปรุงยาอีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขขั้นต้นเหล่านี้ทำให้มีคนจำนวนไม่มากนักที่เป็นนักปรุงยาได้
ยกตัวอย่างเช่นตำหนักโห่วเย่อหวงตี้พวกเขามีนักปรุงยาก็จริง แต่ยังไม่มีนักปรุงยาระดับแกรนด์มาสเตอร์แม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ในบรรดาเหล่าสาวกนับไม่ถ้วนของนิกาย มีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์ทางด้านการปรุงยา ซึ่งฉินเฮยก็เป็นหนึ่งในนั้น ในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่แห่งนิกาย, ฉินเซียนจื่อมีทั้งพรสวรรค์และความชาญฉลาด แต่เธอกลับไปได้ดีทางด้านการฝึกยุทธ์มากกว่าปรุงยา
จากด้านข้างของปากแม่น้ำลาวาผู้คนก็ได้เห็นยาทิพย์และเคล็ดวิชาที่วางอยู่ในปราสาท ยาทิพย์ถูกสกัดกลั่นจากราชายาทิพย์และเคล็ดวิชาก็อยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ ดวงตาของทุกคนกลายเป็นสีแดงก่ำ พวกเขาปรารถนาที่จะบินได้เพื่อไปคว้าสมบัติเหล่านั้น
ดวงตาของฉิงเฟิงก็เป็นสีแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นเช่นกันเพราะเขาเห็นเถาวัลย์อีกาดำอยู่ตรงกลางของปราสาทซึ่งวางอยู่บนเตาปรุงยา เห็นได้ชัดว่าราชายาทิพย์ตั้งใจจะสกัดกลั่นมันเมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังทำไม่เสร็จและตายไปเสียก่อน
“
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ปรากฏเถาวัลย์อีกาดำในสุสานแกรนด์มาสเตอร์แห่งนี้เพราะมันเป็นสุสานของราชายาทิพย์นี่เอง
“
ฉิงเฟิงพึมพัมในใจ
เพื่อตามหาเถาวัลย์อีกาดำสมุนไพรหายาก ฉิงเฟิงได้ทำทุกวิถีทางทั่วทั่วประเทศแต่จบลงด้วยการไม่พบเบาะแสแม้แต่น้อย และเนื่องจากเถาวัลย์อีกาดำนั้นสูญพันธุ์ไปตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นฉิงเฟิงจึงไม่เชื่อคำพูดของลั่วหนี่ชิงในตอนแรกที่บอกว่าเถาวัลย์อีกาดำอยู่ในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ แต่ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าสมุนไพรอยู่ที่นี่จริง เพราะนี่เป็นสุสานของราชายาทิพย์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ก็ไม่น่าแปลกที่จะมีสมุนไพรหายากอยู่ด้วย
อีกทั้งฉิงเฟิงก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับราชายาทิพย์,สุดยอดนักปรุงยาแห่งหัวเซี่ยเมื่อ 50 ปีก่อน
“หลี่ฉิงเฟิงนายลองหาวิธีไปที่นั่นสิ” กู่เจี้ยนหลงมองไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
ทุกคนในที่นี้ต่างก็อาศัยฉิงเฟิงเสียส่วนใหญ่ในการผ่านกับดักต่างๆเข้ามาในสุสานไม่ว่าจะเป็นประตูศิลาและกำแพงลูกศร ฉิงเฟิงก็เป็นคนหาทางแก้ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นกู่เจี้ยนหลงจึงต้องการอาศัยเขาในการหาวิธีผ่านแม่น้ำลาวาเช่นกัน
“แม่น้ำลาวานี้ก่อตัวขึ้นจากแม็กม่าใต้พื้นดินฉันไม่ใช่เทพเจ้าซะหน่อยจะทำให้มันหายไปได้ยังไง ” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมยด้วยความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา
บอกตามตรงถึงแม้ว่าเขาจะรู้วิธีผ่านกับดักที่สามนี้แต่ฉิงเฟิงก็ไม่มีทางพูดออกมาแน่นอน ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำลาวานี้มีหลุมฝังศพของราชายาทิพย์อยู่พร้อมกับสมบัติล้ำค่า ครั้งนี้ฉิงเฟิงจะไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือ
เหตุผลที่ฉิงเฟิงเข้ามาในสุสานพร้อมกับคนกลุ่มนี้ก็เพราะเขาต้องการจะหาทางฆ่าศัตรูของเขาทีละคนแต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่า กู่เจี้ยนหลง เตี๋ยชุ่ยหลัน เฮลคิงและเหลิงเสวี่ยจะร่วมมือกันทำลายแผนของเขาหมดสิ้น
ฉิงเฟิงไม่ได้โง่เขารู้ว่าทันทีที่เขาพาคนเหล่านี้ผ่านแม่น้ำลาวาไปได้ เขาจะไม่ได้อะไรเลย “หลี่ฉิงเฟิงฉันรู้ว่าแกมีความรู้เรื่องศาสตร์แห่งกับดัก เห็นได้ชัดว่า ราชายาทิพย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกับดักเช่นกัน เขาวางกับดักไว้จำนวนมากในสุสานนี้ เพราะฉะนั้น แม่น้ำลาวานี้ย่อมต้องมีกลไลบางอย่างแน่นอน แกไปหาทางเดี๋ยวนี้เลย” เตี๋ยชุ่ยหลันยิ้มอย่างเย็นชาและจ้องไปที่ฉิงเฟิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส
เนื่องจากความจริงที่ว่าน้องชายของเธอถูกฉิงเฟิงสังหารเตี๋ยชุ่ยหลันได้ข่มความโกรธมาเป็นเวลานาน และกำลังจะลงมือตั้งแต่ก่อนเข้าสุสานเสียด้วยซ้ำหากเธอไม่ต้องการสมบัติในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ ในเมื่อตอนนี้ก็เป็นกับดักสุดท้ายแล้ว เธอจึงไม่ข่มอารมณ์ไว้อีก
“เฮอะ! เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงกล้ามาออกคำสั่งกับฉัน ” ฉิงเฟิงตอบด้วยความรังเกียจ
แม้แต่คนอย่างลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อก็ยังไม่สามารถออกคำสั่งให้ฉิงเฟิงทำอะไรได้นับประสาอะไรกับเตี๋ยชุ่ยหลัน เขาจะทำตามความต้องการของตัวเองมากกว่าตามคำสั่งของคนอื่น
“หลี่ฉิงเฟิงแกกล้าขึ้นเสียงใส่ชั้น แกต้องตาย” เตี๋ยชุ่ยหลันแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยมด้วยเจตนาฆ่าที่ปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของเธอ เธอก้าวไปข้างหน้าและเตรียมสู้กับฉิงเฟิงทันที
ในฐานะลูกสาวของจ้าวนิกายเตี๋ยชุ่ยหลันมีความสามารถมากทางด้านการบ่มเพาะจนไปถึงขั้นสูงสุดเหนือสวรรค์ สิ่งที่ฉิงเฟิงกล่าวเป็นการยั่วยุเธออย่างเห็นได้ชัด
“ชุ่ยหลันเดี๋ยวก่อน เธอยังฆ่าหลี่ฉิงเฟิงไม่ได้ พวกเราต้องอาศัยมันในการผ่านกับดักที่สามนี้ก่อน” กู่เจี้ยนหลงกล่าวด้วยยิ้มเล็กน้อยและเหยียดมือขวางเตี๋ยชุ่ยหลัน