My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 742 กระบวนท่าที่ 3 คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 742 กระบวนท่าที่ 3 คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ !
“ตาย!”
ฉิงเฟิงตะโกนออกมาอย่างกราดเกรี้ยวทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน
เขายังคงฟาดฟันกระบี่แดงเพลิงคะนองออกไปทุกกระบี่ที่กวัดแกว่งนำพามาซึ่งปราณกระบี่ที่น่าหวาดหวั่นซึ่งฉีกแยกอากาศออกจากกัน มุ่งโจมตีไปที่กู่เจี้ยนหลง
กู่เจี้ยนหลงไม่กล้าประมาทจากการปะทะกันมาหลายยกเขารู้แล้วว่าหลี่ฉิงเฟิงไม่อาจมองความแข็งแกร่งแค่เพียงจากระดับพลังได้ ชายคนนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้
กู่เจี้ยนหลงยังคงเหวี่ยงกระบี่จันทร์วารีที่เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่วารีนับไม่ถ้วนออกมาปะทะกับปราณกระบี่แดงเพลิงคะนองของฉิงเฟิง “
กระบี่ที่สองวารีพิสุทธิ์
!!
“
กู่เจี้ยนหลงใช้กระบวนท่าที่2 ของวิชากระบี่วารีกระจ่างออกมา มันเปลี่ยนลมปราณของเขาให้กลายเป็นปราณกระบี่จำนวนมากราวกับน้ำตก ก่อให้เกิดปราณกระบี่หลายสิบสายพวยพุ่งลงมา
ในเวลาเดียวกันอาวุธลับของเฮลคิงและปราณกระบี่ของถังหยุนก็โจมตีออกมาจากฝั่งแม่น้ำ มุ่งเป้าไปที่ฉิงเฟิงพร้อมกัน
ยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์เหล่านี้กรุ้มรุมโจมตีอย่างไม่กลัวผู้คนหัวเราะเยาะหมายจะมอบความตายให้ฉิงเฟิงให้จงได้
“
ศรเพลิงคะนอง
!! “
ฉิงเฟิงคำรามด้วยความโกรธเขาใช้กระบวนท่าที่สองของวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองทันที มันเปลี่ยนลมปราณของเขาให้กลายเป็นลูกศรเพลิงหลายสิบลูก
ลูกศรลมปราณเหล่านี้บางส่วนป้องกันอาวุธลับของเฮลคิงในขณะที่อีกส่วนต้านรับกับปราณกระบี่ที่พวยพุ่งออกมาราวกับน้ำตาของกู่เจี้ยนหลง ส่วนการโจมตีของถังหยุน เขาเพียงแค่หลบมันอย่างง่ายดาย
จากการพึ่งพาตนเองฉิงเฟิงสู้หนึ่งต่อสามกับยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์บนสะพานโซ่โดยไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย !
เคร้งเคร้ง เคร้ง เคร้ง …
กระบี่ของฉิงเฟิงยังคงกวัดแกว่งเข้าใส่กู่เจี้ยนหลงปราณแท้ที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆตัวได้กระทบโซ่บางส่วนทำให้มันแกว่งไปมาราวกับว่ามันจะแตกหักได้ทุกเมื่อ
แม่น้ำลาวาด้านล่างกระทบถูกปราณแท้เป็นผลทำให้มันโหมกระหน่ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศและกลายเป็นลาวาสีแดงที่ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง สะเก็ดลาวาบางส่วนตกลงบนโซ่เหล็กและเริ่มทำให้มันถูกหลอมละลายเล็กน้อย
“
ไม่ได้การแล้วโซ่เหล็กกำลังละลาย
”
เมื่อได้เห็นภาพนี้ทั้งฉิงเฟิงและกู่เจี้ยนหลงก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว
ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันบนโซ่เหล็กเมื่อโซ่ละลายและแตกออกทั้งคู่จะตกลงไปในแม่น้ำลาวาด้านล่างและต้องตายอย่างแน่นอน
พวกเขาตระหนักได้ในทันทีว่าต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ก่อนที่จะตกลงไปที่แม่น้ำลาวาด้านล่าง
ฉิงเฟิงใช้ลมปราณของเขาในขีดขั้นสูงสุดทำให้ร่างกายเปล่งแสงสีแดงออกมาในเป็นผลทำให้มันโหมกระหน่ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศและกลายเป็นลาวาสีแดงที่ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง สะเก็ดลาวาบางส่วนตกลงบนโซ่เหล็กและเริ่มทำให้มันถูกหลอมละลายเล็กน้อย
“
ไม่ได้การแล้วโซ่เหล็กกำลังละลาย
”
เมื่อได้เห็นภาพนี้ทั้งฉิงเฟิงและกู่เจี้ยนหลงก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว
ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันบนโซ่เหล็กเมื่อโซ่ละลายและแตกออกทั้งคู่จะตกลงไปในแม่น้ำลาวาด้านล่างและต้องตายอย่างแน่นอน
พวกเขาตระหนักได้ในทันทีว่าต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ก่อนที่จะตกลงไปที่แม่น้ำลาวาด้านล่าง
ฉิงเฟิงใช้ลมปราณของเขาในขีดขั้นสูงสุดทำให้ร่างกายเปล่งแสงสีแดงออกมาในขณะที่กู่เจี้ยนหลงก็ทำเช่นเดียวกัน ลมปราณของเขาหมุนวนทั่วร่างเป็นแสงสีขาว ในขณะที่แสงสีแดงและสีขาวปะทะโรมรันกัน การต่อสู้ระหว่างพวกเขาใกล้มาถึงช่วงสำคัญที่สุดแล้ว
“
เอาไงดี…..ต้องปลดผนึกหมาป่าโลหิตไหมนะ
ไม่สิยังใช้ตอนนี้ไม่ได้
”
ฉิงเฟิงคิดในใจระหว่างต่อสู้แต่แล้วก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ใช้พลังสายเลือดของเขา เขารู้ว่าทันทีที่เขาปลดผนึกพลังสายเลือด กู่เจี้ยนหลงต้องสิ้นชีพแน่นอน แต่ผลที่ตามมาหลังจากหมดเวลานั้นร้ายแรงและเสี่ยงเกินไป เพราะยังมีทั้งเฮลคิง เหลิงเสวี่ย ถังหยุนเฝ้ามองอยู่ ทันทีที่เขาเหนื่อยล้า เขาจะเป็นหมูบนเขียง
เอ๋ แม่น้ำลาวาเบื้องล่างหมุนวนราวกับคลื่นทะเลเลย…
ฉิงเฟิงถูกเบนความสนใจเล็กน้อยจากแม่น้ำลาวาที่หมุนวนอย่างคลุ้มคลั่งเขาพึมพำด้วยความประหลาดใจ
เขาเห็นว่าผลกระทบจากแรงปะทะของลมปราณพวกเขาในระหว่างต่อสู้ทำให้ลาวาข้างล่างหมุนวนกลายเป็นคลื่นเพลิง คลื่นลูกหลังผลักคลื่นลูกหน้าหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆราวกับคลื่นจากทะเลคลั่ง
“
ฮ่าๆๆฉันเข้าใจ ในที่สุดฉันก็เข้าใจกระบวนท่าที่สามของเคล็ดวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองแล้ว
!”
เมื่อเห็นแม่น้ำลาวาที่กำลังเดือดคลั่งฉิงเฟิงก็ตื่นเต้นอย่างมากภายในใจ
ก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงบรรลุเพียงแค่2 ท่าแรกของวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองเท่านั้น แต่วันนี้ทันทีที่เขาเห็นการหมุนวนที่บ้าคลั่งของลาวา เขาก็เข้าใจในกระบวนท่าที่ 3
ทักษะยุทธ์คือการประยุกต์ใช้พลังลมปราณยิ่งเข้าใจทักษะมากขึ้น กระบวนท่าโจมตีก็จะมากขึ้นอีกทั้งยังโจมตีได้แรงขึ้นอีกด้วย ซึ่งเพลงกระบี่แดงเพลิงคะนองเป็นทักษะยุทธ์สายไฟและแม่น้ำลาวาเบื้องล่างก็เป็นไฟเช่นกัน การเข้ากันโดยบังเอิญนี้เองที่ช่วยให้เขาบรรลุท่าที่สาม
“
คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ
!!
“
ฉิงเฟิงคำรามออกมาอย่างดุร้ายชักนำกระบวนท่าที่ 3 ของเคล็ดวิชากระบี่ออกมาทันที คลื่นเปลวเพลิงขนาดมหึมาที่ทรงพลังก่อรูปแบบขึ้นบนอากาศแทนที่ศรปราณเพลิง คลื่นเพลิงนี้เป็นแบบเดียวกับคลื่นลาวาที่อยู่ในแม่น้ำด้านล่าง มันพุ่งเข้าหากู่เจี้ยนหลงราวกับจะกลืนเขาเข้าไปในกองเพลิง
“
วารีพิสุทธิ์
!!
“
เมื่อเผชิญหน้ากับคลื่นเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวนี้กู่เจี้ยนหลงคำรามลั่นและใช้ออกด้วยท่าที่สองอีกครั้งทันที ก่อให้เกิดปราณกระบี่วารีราวกับน้ำตกขึ้นและพุ่งเข้าปะทะกับคลื่นเพลิงที่โหมกระหน่ำ
ตูม
!!
คลื่นเพลิงยักษ์ปะทะกับปราณกระบี่น้ำตกป่นมันแตกเป็นเสี่ยงๆและโหมเข้าสู่ร่างกายของกู่เจี้ยนหลง กระแทกเขาออกไป
“
อ้ากกกกกกกกกก
! “
กู่เจี้ยนหลงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชในอากาศคลื่นเพลิงนี้มีอุณหภูมิสูงมาก มันหลอมละลายเสื้อผ้าของเขาออกและแผดเผาร่างของเขาจนทำให้ดูมีสภาพสังเวชเป็นอย่างยิ่ง
พรวด
!!
กู่เจี้ยนหลงอาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆเห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขารีบผุดขึ้นกระโดดหนีหนีไปที่ริมฝั่งแม่น้ำลาวาทันที
ผ่านการปะทะหักหาญเมื่อครู่กู่เจี้ยนหลงรู้แล้วว่าวิชาของเขาไม่อาจเทียบได้กับวิชากระบี่ของฉิงเฟิง เขาไม่มีทางเลือกจึงทำได้แค่หนีกลับเข้าฝั่ง
“คิดจะหนีแล้วหรือ อย่าฝัน !” ฉิงเฟิงยิ้มเยาะเย้ยและเคลื่อนไหวร่างราวกับสายฟ้า ตามติดกู่เจี้ยนได้ในทันที “เดี๋ยวก่อนหลี่ฉิงเฟิง ฉันเป็นนายน้อยของตระกูลกู่ที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเทียนจิง แกฆ่าฉันไม่ได้ !” เมื่อรู้สึกได้ถึงเจตนาแห่งการฆ่าฟันอันเข้มข้นที่แผ่ซ่านออกมาจากฉิงเฟิง กู่เจี้ยนหลงก็หน้าซีด เขากล่าวด้วยความตื่นตระหนก
เมื่อถึงช่วงสำคัญแห่งความเป็นและความตายกู่เจี้ยนหลงไม่อาจทำตัวโอหังได้อีกต่อไป เขาจึงยกตระกูลกู่ออกมาข่มขู่ แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือฉิงเฟิงไม่ได้สนใจคำขู่ของเขาแม้แต่น้อย ต่อให้บรรพบุรุษตระกู่อยู่ที่นี่เขาก็กล้าฆ่านับประสาอะไรกับรุ่นเยาว์อย่างกู่เจี้ยนหลง
“ไปตายได้แล้ว!”
ฉิงเฟิงยิ้มเย็นยะเยือกเขาสะบัดกระบี่ตัดหัวกู่เจี้ยนหลงออกในทันที
หวือ!
หลังจากที่สังหารกู่เจี้ยนหลงฉิงเฟิงก็ยื่นมือออกไปคว้ากระบี่จันทร์วารีจากร่างไร้วิญญาณของเขา “เป็นกระบี่ที่ดี”ฉิงเฟิงกล่าวชมเชยทันทีที่ได้สัมผัสตัวกระบี่ กระบี่เล่มนี้ยาวสามฟุตกว้างสองนิ้วเป็นสีเงินขาว มันมีรูปแบบของสายน้ำไหลเวียนอยู่บนตัวกระบี่และปลดปล่อยกลิ่นอายที่เกรี้ยวกราดออกมา
ตูม!
ศพไร้หัวของกู่เจี้ยนหลงตกลงไปในแม่น้ำลาวาทำให้เกิดเสียงดังตูมและเสียงกระหึ่มของลาวาที่ร้อนระอุ
จากนั้นเพียงไม่นานศพของกู่เจี้ยนหลงก็ถูกหลอมละลายโดยลาวาและกลายเป็นกองกระดูกผสมกับกระดูกของเตี๋ยชุ่ยหลัน
กู่เจี้ยนหลงนายน้อยแห่งตระกูลกู่ตายแล้ว
เมื่อได้เห็นภาพนี้ทุกคนรอบตัวต่างก็หยุดการต่อสู้ใบหน้าซีดเซียวด้วยประกายแห่งความหวาดผวาที่พาดผ่านแววตาของพวกเขา อย่างที่ทุกคนรู้กัน หลี่ฉิงเฟิงถูกสามยอดฝีมือกลุ้มรุม เขาสามารถสังหารกู่เจี้ยนหลงภายในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร ทักษะวิทยายุทธ์นั่นคือทักษะวิทยายุทธ์ใช่หรือไม่
ในขณะนี้ทุกคนจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความทะเยอทะยาน
พวกเขาไม่ได้โง่และแน่นอนพวกเขาย่อมตระหนักได้ว่าทักษะวิทยายุทธ์ที่ฉิงเฟิงฝึกปรือและบ่มเพาะต้องเป็นเคล็ดวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่เหนือกว่าของตระกูลกู่อย่างแน่นอน มิฉะนั้นเขาคงจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่ากู่เจี้ยนหลงที่ระดับพลังเหนือกว่าถึงสองขั้นได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้