My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 744 เปิดฉากล้างสังหาร
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 744 เปิดฉากล้างสังหาร
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายกระบี่จากด้านหลังฉิงเฟิงก็หันขวับไปในทันทีและชักกระบี่แดงเพลิงคะนองออกมาปะทะกับกระบี่สีแดงของเหลิงเสวี่ยทำให้เกิดเสียงดัง เคร้ง !
“หลี่ฉิงเฟิงเถาวัลย์อีกาดำเป็นประโยชน์ต่อข้า ข้าต้องการมัน นอกจากนี้แกจะเอาอะไรก็เลือกเอาไปได้ตามสบาย” เหลิงเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
“ไสหัวไปซะฉันฆ่าแกแน่ถ้าแกกล้าแตะต้องสิ่งนั้น” ฉิงเฟิงพร้อมสู้ในทันที เจตนาฆ่าที่เย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา เขายอมตัดใจจากอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์หรือยาขั้นเหนือสวรรค์ได้ แต่สำหรับเถาวัลย์อีกาดำนั้นเขาไม่ยอมเด็ดขาดต่อให้ต้องสังเวยชีวิตก็ตาม
เพื่อสิ่งนี้ฉิงเฟิงต้องเข้ามาในสุสานแกรนด์มาสเตอร์หลังจากฟันฝ่าอุปสรรคมากมายฉิงเฟิงก็มาถึงปราสาทราชายาทิพย์ได้ในที่สุด “เหลิงเสวี่ยข้าจะให้ท่านยืมมือ” เฮลคิงยิ้มอย่างเย็นชา เขาเดินเข้ามาพร้อมกับกระบี่สีดำในมือ มันแกะสลักลวดลายปีศาจบนไว้บนนั้นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน
“เหลิงเสวี่ยข้าก็จะช่วยเจ้าสังหารหลี่ฉิงเฟิงเช่นกัน” ตูลูธเข้ามาสมทบอีกคน
ส่วนลั่วหนี่ชิงฉินเซียนจื่อ กัวซื่อเว่ยและคนอื่นๆต่างก็กำลังสู้ติดพันเพื่อแย่งชิงคัมภีร์กระบี่จันทร์วารี และทักษะกับดักอยู่ทางด้านขวาของโลงศพ ถึงแม้ว่าพวกเขาอยากจะเข้ามาช่วยก็ไม่อาจทำได้เพราะเจียงไป่เต๋าและถังหยุนขวางทางไว้อยู่
“ฮ่าๆๆพร้อมหน้าพร้อมตาเชียว พวกแกทุกคนต่างก็เป็นศัตรูของฉัน งั้นก็เข้ามาให้หมดเลย ฉันจะล้างสังหารพวกแกทุกคน !” ฉิงเฟิงหัวเราะลั่นและคำรามออกมาอย่างอหังการ ท่าทางของเขาราวกับราชาผู้ปกครอง
ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งหมดต่างก็เป็นศัตรูของเขาเขาเกลียดชังเฮลคิงอย่างลึกซึ้ง,ไม่พอใจต่อเหลิงเสวี่ยที่พยายามจะเอาตัวหลินเสวี่ยไปตอนอยู่ที่ภูเขาชะตาฟ้า ส่วนตูลูธ เขาเป็นทั้งอาจารย์แห่งสมาคมมือสังหารจากรัสเซียและยอดฝีมือซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ ครั้งหนึ่งตอนที่ฉิงเฟิงไปทำภารกิจกับทีมเขี้ยวหมาป่า อลิซตกเป็นเป้าหมายของนักฆ่าจากสมาคมมือสังหาร เรื่องนั้นทำให้ฉิงเฟิงฟิวส์ขาดและจบลงด้วยความตายของนักฆ่ารัสเซียมากกว่า 30คน ผลจากเหตุการณ์นั้นทำให้ตูลูธกลายเป็นหนึ่งในศัตรูของเขา
“ฆ่ามันแล้วไปรวบรวมสมบัติกัน”เหลิงเสวี่ยตะโกนออกมา เขาเหวี่ยงกระบี่สีแดงโจมตีเข้าใส่ฉิงเฟิง กระบี่นี้ชื่อว่ากระบี่ชื่อฮง มันเป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ซึ่งเป็นของขวัญจากจ้าวนิกายโลหิตสีชาดมอบให้แก่เหลิงเสวี่ย เพื่อช่วยให้เขาทำงานสะดวกขึ้นในการหาสมบัติในสุสานแกรน์มาสเตอร์
เหลิงเสวี่ยเหวี่ยงกระบี่ออกมามันพาดผ่านอากาศและมาถึงตัวฉิงเฟิงในพริบตาด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“ลมกรดราชาปีศาจ!!”
เฮลคิงแสยะยิ้มอย่างดุร้ายด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟันที่ปรากฏในดวงตาของเขาเขาเหวี่ยงกระบี่โกสคิงออกมาในเวลาเดียวกัน กระบี่สร้างกระแสน้ำวนสีดำออกมา ฟันไปยังฉิงเฟิง
กระบี่โกสคิงก็เป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์เช่นเดียวกันมันเป็นอาวุธที่รู้จักกันดีซึ่งเป็นของคู่กายของโกสคิง เนื่องจากความตายของเฮยหวู่ชางและไป๋หวู่ชางทำให้โกสคิงเกลียดแค้นต่อฉิงเฟิงอย่างมาก เป็นผลทำให้โกสคิงไม่เพียงแค่ถ่ายทอดวิชาลมกรดราชาปีศาจให้แก่เฮลคิง แต่เขายังมอบกระบี่โกสคิงให้อีกด้วย
เมื่อพูดถึงกระบี่โกสคิงมันมีชื่อเสียงอย่างมาก เมื่อ 15 ปีก่อน ด้วยเคล็ดวิชากระบี่โกสคิง โกสคิงสามารถเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ที่ดุเดือดกับราชันผู้พิชิตในดินแดนต้องห้ามคุนหลุนได้ โกสคิงทำร้ายราชันผู้พิชิตบาดเจ็บด้วยกระบี่เล่มนี้และบีบบังคับให้เขาตกหน้าผา
ส่วนอาวุธของตูลูธเป็นดาบยาวสีดำมันมีพิษร้ายแรงอยู่ที่ส่วนปลาย ซึ่งเป็นวิธีปกติของนักฆ่าที่จะฉาบยาพิษไว้บนอาวุธ ถึงแม้ว่าดาบเล่มนี้จะไม่ใช่ดาบในระดับแกรนด์มาสเตอร์ก็ตาม แต่มันก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่อาวุธระดับเหนือสวรรค์ซึ่งสังหารผู้คนมานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังสามารถนับได้ว่าเป็นหนึ่งสามสุดยอดอาวุธขั้นเหนือสวรรค์เลยทีเดียว
ตูลูธแทงดาบออกไปซึ่งทำให้เกิดหลุมดำอยู่บนอากาศและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงในทันที
ชายสามคนที่บรรลุขั้นสูงสุดในขอบเขตเหนือสวรรค์ต่างก็โจมตีเข้าใส่ฉิงเฟิงจากทั้ง3 ทิศทาง หมายมั่นจะสังหารเขาให้ตกตายทีนี่ให้ได้
นอกเหนือจากยอดฝีมือทั้งสามแล้วผู้คนที่พวกเขาพามาซึ่งรวมถึงสาวกแห่งนิกายโลหิตสีชาด ตำหนักโกสคิงและสมาคมมือสังหาร พวกเขาทุกคนโจมตีเข้าใส่ฉิงเฟิงพร้อมกัน
ฉิงเฟิงถูกล้อมกรอบด้วยศัตรูของเขาและทั้งหมดต่างโจมตีเขาด้วยอาวุธของพวกเขา
“
คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ
!!
“
ฉิงเฟิงตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและถ่ายเทลมปราณแท้เข้าไปที่กระบี่แดงเพลิงคะนองใช้ออกด้วยกระบวนท่าที่ 3 ที่ทรงพลังที่สุดในทันที กระบี่แดงเพลิงคะนองเปลี่ยนเป็นคลื่นเพลิงยักษ์ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังเผาทุกอย่างให้มอดไหม้ ส่งผ่านแสงกระบี่สีแดงเข้มกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
เคร้งเคร้ง เคร้ง …
พร้อมกับเสียงกระทบกันหลายสิบครั้งอาวุธของผู้คนรอบๆที่เป็นแค่อาวุธทั่วไป ไม่สามารถต่อกรกับกระบี่แดงเพลิงคะนองของฉิงเฟิงได้ล้วนแตกหักหมดสิ้นในครั้งเดียว มีเพียงอาวุธของเหลิงเสวี่ยและเฮลคิงเท่านั้นที่ยังอยู่ดีหลังจากรับการโจมตีของฉิงเฟิงเข้าไป ส่วนดาบของตูลูธนั้น ช่วงเวลาก่อนที่จะปะทะกัน เขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่น่าหวาดหวั่นจึงถอนดาบออกในเสี้ยววินาที ทำให้รอดพ้นจากการถูกทำลาย
ในระหว่างการรับมือยอดฝีมือแบบหนึ่งต่อสี่ฉิงเฟิงได้เปรียบศัตรูโดยรอบด้วยการใช้เพียงกระบวนท่าเดียว มันอดพูดไม่ได้ว่าวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองนั้นเป็นเคล็ดวิชากระบี่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลังมาก อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากการที่ฉิงเฟิงสามารถต่อกรกับศัตรูเป็นฝูงได้ด้วยกระบวนท่าที่ 3 ถ้าหากเขาสำเร็จกระบวนท่าที่ 4 ก็เป็นไปได้สูงว่าเขาจะสามารถสังหารศัตรูทุกคนได้อย่างแน่นอน ระดับพลังของเหลิงเสวี่ยนั้นสูงกว่าฉิงเฟิง แต่ทักษะและเคล็ดวิชากลับไม่ดีเท่าฉิงเฟิง เพราะฉะนั้นการโจมตีของเขาจึงไม่มีผลต่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อย “
ตาย
!!
“
ฉิงเฟิงตะโกนออกมาเขากระโจนเข้าใส่ฝูงคนและเริ่มการล้างสังหารด้วยกระบี่แดงเพลิงคะนองในมือของเขาทันที
ฉิงเฟิงได้ตระหนักแล้วว่าวันนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะตกลงกันดีๆ มีเพียงไม่เขาก็พวกมันเท่านั้นที่จะต้องตาย อีกทั้งเถาวัลย์อีกาดำและสมบัติของราชายาทิพย์นั้นดึงดูดใจเกินไป ไม่มีใครยอมถอย
ฉูด
!!!
ฉิงเฟิงฟาดกระบี่ออกมาและตัดหัวของเหล่าสาวกนิกายโลหิตสีชาดคนแล้วคนเล่าท่ามกลางศีรษะที่ลอยอยู่บนฟ้า ดวงตาของผู้ถูกสังหารเหล่านั้นต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก่อนที่จะตาย แข็งแกร่งเกินไปชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งผิดมนุษย์แล้ว ! เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่านายน้อยเหลิงเสวี่ยเสียอีก ! นี่คือความรู้สึกสุดท้ายของเหล่าสาวกนิกายโลหิตสีชาดก่อนที่จะตาย
ฉูด!! ฉูด !!
หลังจากที่ล้างสังหารเหล่าสาวกของนิกายโลหิตสีชาดแล้วฉิงเฟิงก็ยังคงเหวี่ยงกระบี่ออกไปอีกสองกระบี่ จบลงที่ความตายของเหล่าสาวกตำหนักโกสคิงและสมาคมมือสังหารแห่งรัสเซีย
“หลี่ฉิงเฟิงแก ไอ้ลูกหมา ! แกกล้าลงมือกับสาวกนิกายโลหิตสีชาดงั้นหรือ !”
“วูฟคิง! เมื่อปีที่แล้วแกฆ่าคนของข้ามากกว่า 30 คน วันนี้แกก็ฆ่าคนของข้าอีก ข้าไม่ขออยู่ร่วมโลกกับแกแล้ว !”
เมื่อได้เห็นคนของพวกเขาตายอย่างน่าอนาถเหลิงเสวี่ย เฮลคิงและตูลูธต่างก็โกรธเกรี้ยวอย่างมาก กลิ่นอายสังหารกระจายออกจากตัวของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดที่ตายต่างก็เป็นคนที่ภักดีอีกทั้งยังเป็นศิษย์,สาวกที่มากด้วยพรสวรรค์ ดังนั้นการสูญเสียในครั้งนี้ของนิกายนับได้ว่ารุนแรงมาก
“อ้าวไหนว่าจะฆ่าฉันไง ก็เข้ามาซี่ ! วันนี้ฉันไม่ถอยหนีแน่ ฉันจะล้างสังหารคนของพวกแกให้หมดก่อน จากนั้นค่อยถึงตาพวกแก” ฉิงแสยะยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม ปราณสังหารที่รุนแรงพวยพุ่งอยู่ทั่วบรรยากาศโดยรอบ ทำให้ผู้คนรอบๆต่างก็ตัวสั่นหวาดกลัวอย่างตื่นตระหนก