My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 763 หนึ่งต่อสอง !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 763 หนึ่งต่อสอง !
เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพใบหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มด้วยประกายตาเย็นเฉียบ
ช่างโอหังมาก! ชายสองคนนี้หยิ่งยะโสโอหังยิ่งกว่ากู่เต๋าเสียอีก ทันทีที่มาถึงพวกเขาก็บอกให้ฉิงเฟิงคุกเข่ายอมจำนน อีกทั้งจะจับเป็นตัวเขาไปให้จ้าวนิกายหมัดเหล็กแช่ลงกะทะร้อนอีกด้วย
ฉิงเฟิงไม่พอใจมากในขณะนี้เขามีเปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวคุกรุ่นอยู่ภายในใจที่รอเวลาปลดปล่อย เขาจะต้องให้ชายสองคนนี้ชดใช้ต่อความโอหังของพวกเขา
“ลั่วเฟิง,เตี๋ยฮงโพ ท่านปู่ของพวกแกอยู่บนยอดเขานี่ไง ไอ้พวกขยะ ปีนป่ายขึ้นมารับความตายได้เลย” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งยะโส ใบหน้าของเขาเย็นชาและกำลังเล่นเกมจิตวิทยากับอาวุโสทั้งสองคนนี้
คำพูดของฉิงเฟิงไม่เพียงแค่ทำให้ลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต้องสตันแต่มันยังทำให้คนอื่นๆที่อยู่รอบๆต่างก็ประหลาดใจ พวกเขาทั้งหมดต่างคิดว่าฉิงเฟิงกลัวจนเสียสติไปแล้ว
“โฮลี่ชิท! ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า หลี่ฉิงเฟิงด่าสองยอดฝีมือผู้นี้ว่าขยะไร้ค่าแถมยังท้าทายอีก ?”
“นั่นสิลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็เป็นยอดฝีมือครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ พวกเขาเป็น 2 ใน 81 แกรนด์มาสเตอร์ดั้งเดิม สมองของหลี่ฉิงเฟิงเพี้ยนไปแล้วหรือ ”
“ส่วนข้าคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงเพี้ยนไปแล้วแน่ๆถ้าหากเป็นข้าที่ต้องเผชิญหน้ากับการตามล่าของสองยอดฝีมือเช่นนี้ข้าคงเผ่นป่าราบแทนที่จะมายืนด่าพวกเขา”
ผู้คนที่นั่งอยู่รอบๆทั้งหมดต่างก็แสดงความคิดเห็นพวกเขามองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความสงสารราวกับว่าเห็นเขาเป็นศพไปแล้ว
พวกเขาทั้งหมดต่างก็มีเหตุผลที่จะคิดเช่นนี้ทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็มีชื่อเสียงอย่างไม่น่าเชื่อในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์ ชื่อเสียงของพวกเขาเกิดขึ้นตั้งแต่หลายสิบปีก่อนซึ่งตอนนั้นฉิงเฟิงยังเป็นตัวน้อยอยู่ด้วยซ้ำ
หัวเซี่ยมีประชากรจำนวนมหาศาลและมีผู้ฝึกวิชาเป็นจำนวนมากแต่ก็มีเพียง 81 คนเท่านั้นที่เป็นยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์แบบดั้งเดิม ดังนั้นการที่ชายสองคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ 81 คนนั้นก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา
แต่ตอนนี้ละ มันเกิดอะไรขึ้น ? หลี่ฉิงเฟิงซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าปีกลับเรียกสองยอดฝีมือผู้นี้ว่าขยะไร้ค่า ! เขาเสียสติไปแล้วหรือ ?
ทุกคนต่างคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงต่างหากที่เป็นขยะไร้ค่าแต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ทราบถึงพลังที่แท้จริงของฉิงเฟิงนั่นเอง
ฉิงเฟิงมีประสาทสัมผัสที่ดีมากดังนั้นเขาจึงสามารถได้ยินคำพูดและการติฉินนินทาของผู้คนรอบๆได้อย่างชัดเจน เขาไม่ได้โต้แย้งอะไรออกไปเพราะสิ่งที่ดีที่สุดในการอุดปากคนเหล่านี้ก็คือก็เอาชนะลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพให้พวกเขาได้ประจักษ์แก่สายตา
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
ลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็เหยียดปลายเท้าและบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปบนยอดเขาความโอหังของฉิงเฟิงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของพวกเขาอย่างลึกล้ำ มันเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ทั้งคู่ต้องสั่งสอนบทเรียนแก่ชายหนุ่มผู้นี้ !
หลังจากนั้นไม่นานยอดฝีมือทั้งสองก็มาถึงยอดเขาสิ่งที่รอทักทายพวกเขาก็คือหลี่ฉิงเฟิงผู้โอหัง ชายหนุ่มผู้นี้อายุราวๆยี่สิบปี เขามีใบหน้าที่คมคายหล่อเหลา คิ้วทั้งสองข้างคมกริบราวกับกระบี่และมีดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดารา เขาร่างสูงโปร่งและยืนอย่างสง่าด้วยมือสองข้างที่ไขว้หลังราวกับกำลังมองดูโลกหล้าด้วยท่าทางอันยิ่งใหญ่
ฉิงเฟิงก็จ้องกลับไปที่ยอดฝีมือทั้งสองคนเช่นกันลั่วเฟิงอายุราวๆ 50 ปีมีรูปร่างปานกลางออกไปทางผอม เขามีใบหน้าดำคล้ำเล็กน้อย ร่างกายของเขาดูบอบบางราวกับนกและมีความรวดเร็วมากดูจากการที่เขาย่างก้าวขึ้นมาถึงยอดเขาได้ภายในเวลาไม่นาน นั่นหมายความว่าเขาเป็นยอดยุทธ์ประเภทที่มีความคล่องตัวสูง
ส่วนเตี๋ยฮงโพนั้นแตกต่างจากลั่วเฟิงโดยสิ้นเชิงเขาแข็งแรงราวกับสัตว์ร้ายและเปลือยท่อนบนเหนือเอวขึ้นไป กล้ามเนื้อของเขาแต่งตึงกำยำและมีผิวสีทองแดงที่เปล่งประกายระยิบระยับภายใต้แสงแดด ท่วงท่าของเขาดูราวกับหอคอยเหล็กที่สูงตระหง่าน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
เตี๋ยฮงโพคือผู้อาวุโสแห่งนิกายหมัดเหล็กซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการฝึกฝนความแข็งแรงของร่างกายเขามีพลังมหาศาล โดยปกติเขาสามารถเจาะทำลายหินผาและต้นไม้ใหญ่ได้ด้วยหมัดเดียว
ผู้คนรอบๆต่างก็ตัวสั่นสะท้านเมื่อได้เห็นการปรากฏกายและออร่ารอบๆตัวของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพนี่คือยอดยุทธ์ที่มีพลังในระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ มันน่าเกรงขามอย่างยิ่ง !
“เฮ้ลุง พวกลุงเข้ามาพร้อมกันทั้งสองคนเลยก็แล้วกัน ฉันขี้เกียจเสียเวลาไล่ตบพวกลุงทีละคน” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวกับยอดฝีมือทั้งสองด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็โกรธเกรี้ยวมากจนแทบระเบิด ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มที่โอหังผู้นี้ก็เรียกพวกเขาว่าขยะไร้ค่า พอได้เผชิญหน้าก็ยังดูถูกเหยียดหยามพวกเขาอีกครั้ง
“ไอ้เด็กปากหมา! ในเมื่อแกร้องขอความตายเช่นนี้ พวกข้าก็จะทำให้ความปรารถนาของแกเป็นจริง !”
ลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพหันไปพยักหน้าให้กันและเดินตรงเข้าหาฉิงเฟิงยอดฝีมือระดับนี้นั้นมีความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีของตัวเอง ในตอนแรกพวกเขาตั้งใจจะแยกกันสู้กับฉิงเฟิง แต่หลังจากได้เห็นความโอหังของฉิงเฟิงแล้วพวกเขาก็เปลี่ยนใจและตัดสินใจลงมือพร้อมกันเพื่อระบายโทสะ
เมื่อได้เห็นยอดฝีมือทั้งสองคนกำลังเดินใกล้เข้ามาฉิงเฟิงก็เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงสงบ
การฝึกฝนของฉิงเฟิงนั้นถึงแม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบก็ตามแต่มันก็ทำให้เขาไร้คู่เปรียบในขอบเขตเดียวกัน เขามีพลังมากพอที่จะเอาชนะยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ได้สองคนพร้อมกัน
“
หัตถ์ลมกรด
!
“
ลั่วเฟิงคำรามเขากางฝ่ามือขวาออกมา พลังลมปราณของเขาสร้างพายุหมุนขึ้นบนอากาศที่เต็มไปด้วยพลังทำลายมหาศาล ฝ่ามือนี้บดขยี้หินและต้นไม้ทั้งหมดที่ขวางอยู่บนเส้นทาง ทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อได้เห็นเคล็ดวิชาขั้นแรกในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ของเขาก่อนหน้านี้ลั่วเฟิงได้ใช้วิชานี้ในการเอาชนะยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์ถึง 36 คนในครั้งเดียว วีรกรรมครั้งนั้นส่งผลให้เขาได้เข้าเป็น 1 ใน 81 แกรนด์มาสเตอร์ของโลก และสร้างชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมากมาย
เหล่าสปายที่สอดแนมการต่อสู้อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกมีหลายคนที่เคยพ่ายให้กับลั่วเฟิงและเคล็ดวิชานี้ เมื่อได้เห็นวิชานี้สำแดงเดชอีกครั้งพวกเขาต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัว
“
หมัดเหล็ก
!
“
เตี๋ยฮงโพคำรามและชกหมัดขวาออกไปเพลงหมัดของเขาระเบิดอากาศโดยรอบในฉับพลันและก่อรูปขึ้นมาจากอากาศเป็นรูปหมัดขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง พุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
ผู้คนรอบข้างต่างก็ตกตะลึงอีกครั้งก่อนหน้านี้เตี๋ยฮงโพเคยใช้เพลงหมัดนี้เอาชนะยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์มามากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งทำให้เขากลายเป็นแกรนด์มาสเตอร์อันดับที่ 80 จากสุดยอดแกรนด์มาสเตอร์ทั้ง 81 คน และอยู่เหนือกว่าลั่วเฟิงอีกด้วย
ยอดฝีมือครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสองคนใช้ออกด้วยเคล็ดวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ในทันทีและโจมตีใส่ฉิงเฟิงเต็มกำลัง ผู้คนรอบข้างทุกคนมีสีหน้าราวกับว่าพวกเขาได้เห็นชะตากรรมที่น่าสังเวชของฉิงเฟิงล่วงหน้าแล้ว พวกเขาแน่ใจว่าฉิงเฟิงจะต้องระเบิดเป็นชิ้นๆในอีกไม่นาน
อย่างไรก็ตามเมื่อได้เผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทรงพลังขนาดนี้ ฉิงเฟิงก็ยังคงนิ่งเฉย เขายังคงยืนตะหง่านอย่างไม่แยแสราวกับว่าไม่เห็นการโจมตีเหล่านี้แม้แต่น้อย
“เฮ้ยๆหลี่ฉิงเฟิงมันกลัวจนหลอนไปแล้วหรือไง ทำไมเขาถึงไม่หลบการโจมตี ?”
“ข้าว่าจบแล้วละหมอนี่ดันเหิมเกริมไปด่าทอสองยอดฝีมือว่าขยะไร้ค่าแบบนั้น”
“เฮ้อดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเขาจะเป็นเรื่องหลอกลวง ดูสิเขายืนเฉยยังกับท่อนไม้ สงสัยจะกลัวจนก้าวขาไม่ออก”
ทุกคนรอบๆต่างมองฉิงเฟิงราวกับว่าเป็นคนงี่เง่าพวกเขามั่นใจว่าฉิงเฟิงหวาดกลัวต่อพลังของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพ ซึ่งนี่เป็นคำอธิบายเดียวสำหรับความสงบนิ่งของเขาต่อหน้าการโจมตีของสองยอดฝีมือ
เปรี้ยง
!
ปัง
!
ทั้งหัตถ์ลมกรดของลั่วเฟิงและหมัดเหล็กของเตี๋ยฮงโพเข้าเป้าและกระแทกใส่ร่างของฉิงเฟิงอย่างดุเดือดจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นถึงสองครั้งพวกเขาแสยะยิ้มและคิดว่าการโจมตีของพวกเขาน่าจะระเบิดร่างของเด็กหนุ่มผู้โอหังคนนี้เป็นชิ้นๆ
แต่ในความเป็นจริง……..
ฉิงเฟิงยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิมและมองต่ำไปที่หมัดและฝ่ามือที่กระทบหน้าอกของเขาเขาส่ายหัวและกล่าวว่า “อุตสาห์ถ่อมาถึงที่เพื่อจะฆ่าฉัน แต่ทำได้แค่นี้ ”