My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 766 ท้าทายโลกทั้งใบเพื่อเธอ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 766 ท้าทายโลกทั้งใบเพื่อเธอ
“ท่านปู่หลี่ยิ่งใหญ่ท่านปู่หลี่ยิ่งใหญ่ ท่านปู่หลี่ยิ่งใหญ่ ท่านปู่หลี่ยิ่งใหญ่ ….”
เหล่าสมาชิกของสมาพันธ์ฉิงเฟิงต่างโห่ร้องเสียงดังไปทั่วทั้งยอดเขาLone เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม บางคนถึงกับคุกเข่าลงและโค้งคำนับไปให้ฉิงเฟิง
หลี่ฉิงเฟิงได้กลายเป็นไอดอลของสมาพันธ์ฉิงเฟิงอีกครั้ง! เขากลายเป็นเทพเจ้าของคนเหล่านี้และดูน่าเกรงขามไร้เทียมทานราวกับเทพเจ้าอาเรส
ในตอนแรกที่ทั้งสามยอดฝีมือได้มาถึงฐานที่มั่นพวกเขาต่างก็คิดว่าวันนี้คงเป็นจุดสิ้นสุดของสมาพันธ์แล้ว ทั้งสามคนนั้นทรงพลังอย่างไร้คู่ต่อกร พวกเขาสามารถบดขยี้หินก้อนใหญ่ให้เป็นผุยผงได้ด้วยเท้าข้างเดียวและผ่าต้นไม้ใหญ่เป็นสองส่วนด้วยการดาบเดียวอีกด้วย
พวกเขาไม่เคยเห็นยอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนี้มาก่อนเพราะพวกเขาเป็นเพียงนักเลงข้างถนนในโลกฆราวาสความแข็งแกร่งของยอดฝีมือเหล่านี้ได้ทะลุจินตนาการชั่วชีวิตของพวกเขา
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงกลับแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือทั้งสามอย่างไม่น่าเชื่อ เขาสามารถสังหารทั้งสามได้ด้วยกระโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
เมื่อได้ยินเสียงของการเทิดทูนฉิงเฟิงก็มีรอยยิ้มบางๆทั้งหมดนี้คือผู้ติดตามของเขา เขามีหน้าที่ในการปกป้องคนเหล่านี้
“ฉันหลี่ฉิงเฟิง ขอเชิญศัตรูของฉันทุกคนมาสู้กันที่นี่ ! ฉันจะรอพวกแกทุกคนที่นี่ ฉันยอมรับการท้าทายจากทั้งโลก !” ฉิงเฟิงส่งเสียงดังคำรามต่อเหล่าสปายของกองกำลังต่างๆที่อยู่ในระแวกนี้
เสียงของเขาดังมากและแผ่กระจายไปทั่วรัศมีหลายกิโลเมตรซึ่งทุกคนก็ได้ยินเสียงนี้
“หยิ่งยะโสโอหัง! หมอนี้อวดดีเกินไปแล้วเขาแค่ล้มสามยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ได้เท่านั้นแต่กลับทำตัวราวกับว่าไร้เทียมทานที่สุด!”
“ใช่แล้วเขาอวดดีเกินไป แม้แต่แกรนด์มาสเตอร์เต๋าแห่งกระบี่จาวเกออี้ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากท้าทายทั้งโลกเช่นนี้เลย”
“นั่นสิถ้าจาวเกออี้มาที่นี่ คนที่พ่ายแพ้ย่อมเป็นหลี่ฉิงเฟิงอย่างแน่นอน”
เมื่อไม่นานมานี้เหล่าสปายเริ่มชื่นชมในฝีมือของเขาแต่ตอนนี้พวกเขาเยาะเย้ยต่อความมั่นใจในตัวเองของฉิงเฟิงที่มีเหลือล้นจนกลายเป็นความอวดดี
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะมองฉิงเฟิงเช่นนี้เพราะฉิงเฟิงเพิ่งฆ่าแค่สามคนที่อ่อนแอที่สุดจาก 81 แกรนด์มาสเตอร์ ซึ่งคนเหลือต่างก็แข็งแกร่งกว่าทั้งสองคนนี้มากมายนัก
ยกตัวอย่างจาวเกออี้ที่คนเหล่านี้เอ่ยถึงเขาเป็นคนหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลาไม่นานจนได้กลายมาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในศาสตร์แห่งกระบี่
เขาเหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตด้วยศาสตร์กระบี่,คว่ำยอดฝีมือระดับเหนือสวรรค์ไปถึง 138 คน อีกทั้งเขายังสามารถเอาชนะยอดฝีมืออันดับที่ 72 ในหมู่แกรนด์มาสเตอร์ทั้ง 81 คนได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้จาวเกออี้ยังมีอายุใกล้เคียงกับหลี่ฉิงเฟิงด้วยวัยยี่สิบต้นๆ ซึ่งการบรรลุเกียรติยศระดับนี้ได้ด้วยอายุยังน้อยทำให้เขาเป็นไอดอลในหมู่รุ่นเยาว์ในยุคนี้
มีบางคนกล่าวว่าด้วยความสามารถในเชิงกระบี่ที่น่าเหลือเชื่อของจาวเกออี้เขาอาจจะขึ้นเป็นราชันกระบี่คนต่อไปในอนาคต
เมื่อสิบห้าปีก่อนเนี่ยอู๋ซวงคือราชันกระบี่หัวเซี่ยที่เก่งกาจที่สุดที่โลกได้เคยเห็นมา เขาเคลมฉายา ‘ราชันกระบี่หนึ่งไม่มีสอง’ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาหายตัวไป รุ่นเยาว์ในยุคใหม่ของยุทธภพต่างก็คาดหวังว่าจาวเกออี้จะได้ครองสถานะราชันกระบี่เป็นคนต่อไป
ถึงแม้ว่าจาวเกออี้จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยและสั่นสะเทือนทั้งวงการด้วยฝีมือของเขาแต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะท้าทายยอดฝีมือทั้งโลก แต่หลี่ฉิงเฟิงกลับกล้า ! เจตนาของเขาคืออะไรหากไม่ใช่ว่าโอหังอวดดีอย่างแท้จริง
ได้ยินคนอื่นพูดถึงเขาฉิงเฟิงกลับไม่ตอบโต้แต่ทำแค่เพียงยิ้ม
ฉิงเฟิงอาจจะไม่ได้กังวลกับคำพูดที่ป่าวประกาศออกไปแต่ราชาอสูรเทียนหมิงกลับไม่ใช่ ในฐานะที่เคยเป็นอดีตแกรนด์มาสเตอร์มาก่อน เขาตระหนักดีถึงพลังอำนาจอันน่าทึ่งของเหล่ายอดฝีมือท่านอื่น คนเหล่านั้นไม่อาจดูถูกได้
“นายน้อยยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่แท้จริงนั้นมีพลังแห่งเขตแดนที่สามารถยับยั้งการเคลื่อนไหวในระยะสิบฟุตได้ พวกเขาเหล่านั้นทำได้แม้แต่สังหารระยะไกลอย่างไร้ร่องรอย คำกล่าวของนายน้อยนั้นเหมือนท้าทายต่อยอดยุทธ์เหล่านั้นทั้งโลกเลยนะขอรับ” ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าวด้วยความเป็นห่วง
ราชาอสูรเทียนหมิงรู้ดีถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของฉิงเฟิงและความสามารถที่ไร้เทียมทานในขอบเขตเดียวกันของเขาอย่างไรก็ตามฉิงเฟิงยังอยู่แค่ขั้นครึ่งก้าวเท่านั้น เขายังไม่ไปถึงระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่แท้จริง เหนือจากเขาขึ้นไปนั้นยังมีทั้ง ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลายและขั้นสูงสุดในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ ซึ่งยอดฝีมือในระดับเหล่านั้นต่างก็ทรงพลังอย่างน่าหวาดกลัว
“ตอนนี้ฉันมีศัตรูอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นจ้าวนิกายหมัดเหล็ก, ตระกูลกู่, อาวุโสตระกูลลั่ว นอกจากนั้นก็มีตระกูลเทควันโด้แห่งเกาหลี, ตระกูลกาโตร์แห่งทวีปเสือ, สันตะสำนัก, สมาพันธ์เทวานภา ไหนจะเหล่านินจาจากเกาะแปซิฟิกอีก คุณคิดว่าพวกมันจะปล่อยให้ฉันใช้ชีวิตสบายๆงั้นหรือ ”
“ที่สำคัญไปกว่านั้นฉันยังครอบครองโลหิตมังกรแท้จริงอีกด้วยไม่ช้าก็เร็วข่าวเรื่องที่ฉันมีสมบัติล้ำค่านี้จะแพร่กระจายไปยังศัตรูทั้งหมดของฉัน เมื่อถึงเวลานั้น ยอดยุทธ์นับไม่ถ้วนบนโลกจะตามล่าฉันเพื่อชิงสมบัติเหล่านี้”
“พวกมันทั้งหมดจะพร้อมกับพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่แล้วถ้าหากพวกมันไปราวีหลินเสวี่ยแทนละ ฉันจะทำอย่างไร”
“ฉันไม่สามารถอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องเธอได้ตลอด24 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงป่าวประกาศท้าทายโลกใบนี้อย่างอวดดีเช่นนี้ เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่ฉันจะสามารถทำได้ในการปกป้องเธอ” ฉิงเฟิงกล่าว การที่เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะอวดดีหรือเย่อหยิ่งแต่อย่างใด มันคือการปกป้องหลินเสวี่ยด้วยความรักที่ลึกซึ้งของเขา
จุดประสงค์แท้จริงคือฉิงเฟิงต้องการดึงดูดความสนใจของศัตรูทั้งหมดของเขาให้มุ่งเป้ามาที่ภูเขาแห่งนี้ด้วยวิธีการนี้พวกมันจะได้ไม่สนใจเมืองตงไห่และหลินเสวี่ยก็จะปลอดภัย
ฉิงเฟิงรู้ซึ้งและตระหนักถึงพลังอำนาจอันเหลือเชื่อของยอดฝีมือในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์มาแล้วที่โบสถ์ในทวีปเสือเขาถูกอัลบรอนเปิดใช้เขตแดนแห่งแกรนด์มาสเตอร์ตรึงร่างเอาไว้จนไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวง ฉิงเฟิงอาจจะจบชีวิตไปในทวีปเสือตั้งนานแล้ว แต่เพราะรู้ดีถึงพลังอำนาจแกรนด์มาสเตอร์ เขายิ่งต้องทำเช่นนี้ ไม่เพียงแค่ปกป้องหลินเสวี่ยแต่ยังรวมถึงหลิวหรูหยาน,อลิซ, จางเสี่ยวเยวี่ย, ซูเมิ่งเหยาและคนสำคัญคนอื่นๆของเขาอีกหลายคน
“นายน้อยถ้าหากหลินเสวี่ยรู้ว่าท่านยอมท้าทายทั้งโลกเพื่อเธอ เธอจะต้องยอมให้อภัยท่านแน่นอนขอรับ” ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง เขาได้ตระหนักแล้วว่านายน้อยของเขายอมท้าทายโลกเพื่อปกป้องภรรยาและคนสำคัญ เขาเอาตัวเองเข้าล่อเพื่อปัดเป่าภยันตรายทั้งหมดออกไปจากเมืองตงไห่
ฉิงเฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นและกล่าวว่า“คุณอย่าบอกเรื่องนี้ต่อเธอ ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นกังวล ตราบเท่าที่เธออยู่อย่างปลอดภัยในเมืองตงไห่ฉันก็มีความสุขแล้ว
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉิงเฟิงการแสดงออกของราชาอสูรเทียนหมิงก็เปลี่ยนไปกลายเป็นซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นายน้อยของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ
ทุกคนต่างคิดว่าฉิงเฟิงกระทำอย่างหยิ่งยโสและโอ้อวดพวกเขาเห็นว่าฉิงเฟิงเหมือนรนหาที่ตาย ไม่มีใครรู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดของเขานั้นเพียงแค่ตั้งใจจะปกป้องคนสำคัญ
ความรักทำให้คนตาบอดบางคนอาจจะตายเพราะความรัก แต่ฉิงเฟิงกลับท้าทายโลกทั้งใบเพราะความรักแทน
“ท่านปู่หลี่ครับท่านคิดจะรับมือกับยอดฝีมือทั้งโลกบนภูเขานี้เหรอครับ ” คิงคองเดินมาหาฉิงเฟิงด้วยใบหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เขาหวาดกลัวต่อคำป่าวประกาศของฉิงเฟิง แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเจ้านายของตัวเองแข็งแกร่งมาก แต่หัวเซี่ยก็เต็มไปด้วยเหล่าเสือหลบมังกรซ่อนมากมายมหาศาล ยอดฝีมือมีมากมายราวกับหมู่เมฆ แม้แต่ราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวงผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่เคยกล้ากล่าวคำพูดเช่นนี้มาก่อน เจ้านายของเขาถือเป็นคนแรก
“คิงคองถ้าหากนายไม่พร้อม ลงจากเขาไปซะ ฉันจะไม่ว่าอะไรนายแม้แต่”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงได้ตระหนักถึงอันตรายจากการกระทำของเขาและผลที่ตามมาความโอหังอวดดีของเขาจะชักนำศัตรูผู้แข็งแกร่งมามากมายเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ ไม่แปลกที่คิงคองจะรู้สึกหวาดกลัว