My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 776 หลิวหรูหยานเป็นผู้ตัดสิน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 776 หลิวหรูหยานเป็นผู้ตัดสิน
“หวังเสี่ยวลี่ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณนะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขามีความประทับใจอย่างมากต่อหวังเสี่ยวลี่ผู้เป็นพี่สาวของหวังเสี่ยวเหม่ยเพื่อนของเขาเธอสนับสนุนและอยู่ข้างเขาในการแข่งขันวัตถุโบราณที่จังหวัดหูเจียง ครั้งนี้เธอก็อุตสาห์เดินทางมาสนับสนุนเขาอีกครั้งที่เมืองตงไห่
เขามีความสุขมากที่ได้รับการสนับสนุนจากนักข่าวผู้น่ารักคนนี้
ทุกๆคนรวมไปถึงผู้สื่อข่าวต่างก็กำลังพูดถึงฉิงเฟิงในด้านไม่ดีและมันจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีกถ้าหากเขาไม่พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งการจะทำเช่นนั้นและล้างมลทินได้เขาต้องการความช่วยเหลือจากคนที่ทำงานในวงการสื่อ เนื่องจากประชาชนส่วนมากมักจะเชื่อในสิ่งที่สื่อนำเสนอ แล้วสื่อส่วนมากนำเสนอความจริงหรือไม่ มันไม่แน่เสมอไปเนื่องจากผู้เสพสื่อบางคนนั้นไม่ได้มีประสบการณ์และไม่ได้เป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์ต่างๆด้วยตนเอง คนเหล่านี้ทำได้เพียงรับทราบข้อมูลข่าวสารจากสื่อเช่น สถานีข่าวเท่านั้น สังคมปัจจุบันก็เป็นสังคมที่แปลกประหลาดแบบนี้เอง
ผู้คนจำนวนมากในเมืองตงไห่จดจำภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของฉิงเฟิงเนื่องจากการกล่าวหาของเย่จวินผ่านสื่อต่างๆ ตอนนี้หวังเสี่ยวลี่เป็นกระบอกเสียงเพียงคนเดียวให้แก่ฉิงเฟิง
“คุณหลี่ฉิงเฟิงคะทำไมคุณถึงมีการเดิมพันกับเย่จวิน คุณมั่นใจในการแข่งขันวันนี้หรือไม่คะ ?” หวังเสี่ยวลี่กระพริบตากลมโตและถาม
ฉิงเฟิงหยิบไมโครโฟนและกล่าวว่า“เย่จวินเป็นคนไร้ยางอาย ก่อนหน้านี้เขาขับไล่เจียวซูประธานคนก่อนของโรงพยาบาลประชาชนโดยไม่สนวิธีการ จากนั้นเขาก็ใช้อำนาจตามอำเภอใจไล่หลินเสวี่ยภรรยาของผมออกจากห้องผู้ป่วยอย่างไร้มนุษยธรรมและบอกให้ผมคุกเข่าขอขมา ผมไม่ยอมจำนนต่อเขาและผมก็มีความมั่นใจอย่างมากต่อการแข่งขันในวันนี้ ผมมั่นใจว่าผมจะเอาชนะเขาและทำให้เขาคุกเข่าขอขมาจางหยุนเหอได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เย่จวินก็มีสีหน้าบูดบึ้งไปด้วยความโกรธ
“
ไอ้เด็กบัดซบ
,
หลี่ฉิงเฟิงกำลังทำลายชื่อเสียงของฉัน
”
เย่จวินโกรธมากแต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากขึ้นก็คือนักข่าวสาวที่ไปสัมภาษณ์ฉิงเฟิง จนเปิดโอกาสให้เขาได้พูดออกไมค์
“จินฟา(สาวผมบลอนด์คู่ขา), นักข่าวคนนั้นมาจากไหน ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามไปสัมภาษณ์หลี่ฉิงเฟิง ?” ใบหน้าของเย่จวินอึมครึมด้วยความไม่พอใจ “ท่านประธานคะเธอชื่อหวังเสี่ยวลี่ เธอเป็นนักข่าวของจังหวัดหูเจียง เธอไม่ใช่นักข่าวในเมืองตงไห่ของพวกเราค่ะ” สาวผมบลอนด์ขมวดคิ้ว
เธอไม่ค่อยพอใจต่อหวังเสี่ยวลี่เพราะเธอเป็นเมียน้อยของเย่จวินและได้รับเงินจำนวนมากจากเขา
“ประธานเย่คะเริ่มแข่งกันเลยดีกว่าก่อนที่มันจะพูดอะไรไม่ดีต่อคุณมากไปมากกว่านี้”
สาวผมบลอนด์กล่าว
เย่จวินพยักหน้าและพูดเสียงดังว่า“หลี่ฉิงเฟิง ในเมื่อคุณมาถึงแล้วก็เริ่มกันเลยเถอะ”
ฉิงเฟิงพยักหน้าและส่งไมโครโฟนคืนให้แก่หวังเสี่ยวลี่
“ก็เอาสิแต่ก่อนจะเริ่ม เพื่อที่จะให้คุณแพ้หมดรูปและไร้คำครหา คุณตั้งกติกามาเลย”
ใบหน้าของเย่จวินมืดครึ้มด้วยร่องรอยและความหนาวเย็นที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาเขาคิดว่าฉิงเฟิงช่างไร้เดียงสามากที่ยอมให้เขากำหนดกฎกติกาเอง ไม่มีทางที่เขาจะแพ้ในการแข่งขันวันนี้จากกติกาที่เขาตั้งขึ้น
เย่จวินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์แผนตะวันตกและชำนาญอย่างมากทางด้านศัลยกรรมตะวันตกเขาตัดสินใจที่จะเริ่มด้วยสิ่งนี้
“หลี่ฉิงเฟิงรอบๆตัวพวกเราเต็มไปด้วยประชาชนและผู้ป่วยจำนวนมาก ให้พวกเราแต่ละคนรักษาผู้ป่วย ใครรักษาได้ดีกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ คุณคิดว่าไง ” เย่จวินแสยะยิ้มและกล่าวกติกาออกมา
“ก็ดีเอาตามที่คุณว่าเลย” ฉิงเฟิงยิ้มราวกับว่ามันไม่สำคัญกับเขาเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากเขาสามารถรักษาได้ทุกคนตราบเท่าที่ไม่ใช่โรคทางจิต
ก่อนจะเริ่มแข่งพวกเขาต้องมีกรรมการ 3 คน ซึ่งกรรมการเหล่านี้ก็คือ จางหม่านหลี จางเหมียวชุน และกรรมการคนสุดท้ายที่ทำให้ฉิงเฟิงต้องประหลาดใจก็คือหลิวหรูหยานนั่นเอง วันนี้หลิวหรูหยานใส่ชุดเดรสลำลองเพื่อปกปิดท้องของเธอแต่ถ้าใครมามองใกล้ๆก็จะรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังตั้งครรภ์
ช่วงนี้เธอดูเหมือนจะมีเสน่ห์มากขึ้นแก้มของเธอเป็นสีแดงเหมือนแอปเปิ้ล ดวงตาของเธอเปล่งประกายสดใสเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากของเธอชุ่มชื่นเหมือนสตรอเบอร์รี่สด
“
ทำไมหรูหยานถึงได้เป็นหนึ่งในผู้ตัดสิน
”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความสับสน
มันสมเหตุสมผลที่จางหม่านหลีเป็นผู้ตัดสินในการแข่งขันครั้งนี้เนื่องจากสามีของเธอเป็นประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศส่วนจางเหมียวชุนเป็นผู้ตัดสินเพราะเป็นประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่ แต่หลิวหรูหยานมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ทำไมเธอถึงเป็นผู้ตัดสินด้วย ? “หรูหยานคุณท้องแก่แล้วนะ ทำไมคุณถึงมาเป็นผู้ตัดสินในงานนี้ ”
ฉิงเฟิงรีบเดินไปหาและกระซิบข้างหูหลิวหรูหยานด้วยความไม่พอใจ
เธอมาที่นี่ในขณะที่ใกล้จะถึงวันคลอดหากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร เรื่องนี้ทำให้ฉิงเฟิงหงุดหงิดมาก
“ฮึ! ก็ช่วงนี้คุณไม่มาหาชั้นเลยนี่คะ ชั้นถึงต้องแบกท้องมาหาคุณถึงที่นี่ไง”
หลิวหรูหยานจ้องไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยพอใจ
ช่วงนี้เธอคิดถึงเขามากแต่เขาก็ไม่ได้แวะเวียนมาหาเธอเลยจนกระทั่งหลิวหรูหยานรู้ข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างฉิงเฟิงกับเย่จวินทางทีวี ดังนั้นเธอจึงใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของตระกูลและเส้นสายเพื่อให้มาเป็นหนึ่งในผู้ตัดสิน
ตระกูลหลิวเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลวงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยาและวงการแพทย์ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักคนในสมาคมแพทย์ เธอใช้คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้สามารถเข้าเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินได้
“ช่วงนี้ผมมีธุระเยอะมากน่ะเลยไม่ว่างไปหาคุณ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆเพราะเขารู้ว่าเหตุผลที่เขาไม่ได้ไปหาหลิวหรูหยานก็เพราะหลินเสวี่ย เขายุ่งอยู่กับการเทคแคร์หลินเสวี่ยที่โรงพยาบาลจนไม่มีอารมณ์ที่จะไปหาหลิวหรูหยาน
เป็นผลทำให้เธอมาหาเขาที่นี่โดยตรงเพราะเขาไม่ยอมไปหาเธอจนเธอทนไม่ไหว
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงมีความสุขที่ได้พบเธอ เพราะนอกจากจะได้พบเธอแล้วแต่เธอยังเป็นหนึ่งในกรรมการอีกด้วย กล่าวได้ว่าในตอนนี้กรรมการ 2 ใน 3 เป็นคนรู้จักของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเย่จวินจะเล่นสกปรก
หลังจากที่เหล่ากรรมการได้แนะนำตัวแล้วพวกเขาก็แยกย้ายไปนั่งโต๊ะของตนเองเย่จวินยืนอยู่ฝั่งซ้ายพร้อมกับเหล่าคนในแผนกแพทย์แผนตะวันตกรวมไปถึงผู้สนับสนุนมากมาย ส่วนฉิงเฟิงยืนอยู่ทางด้านขวามือที่แผนกแพทย์แผนจีนและมีผู้สนับสนุนไม่มากนักจนมีพื้นที่เหลือโล่งเต็มไปหมดที่ตรงกลาง
“ใครก็ตามที่อยากจะได้รับการรักษาอาการป่วยขอให้ก้าวมาข้างหน้า คุณหมอเย่จวินและหลี่ฉิงเฟิงจะทำการรักษาให้คุณ ใครรักษาได้ดีกว่าจะเป็นผู้ชนะ” จางหม่านหลียืนขึ้นและกล่าวกับฝูงชนในฐานะที่เป็นกรรมการคนแรก
เธอสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ซึ่งปกคลุมใบหน้าของเธอมากกว่าครึ่งหนึ่งเพราะใบหน้าของเธอถูกฉิงเฟิงตบไปนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อวานนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูดีขึ้นหลังการได้รับการรักษาแต่มันก็ยังบวมอยู่
ในตอนแรกเธอไม่อยากอยู่ที่นี่เนื่องจากอับอายใบหน้าแต่เธอก็ต้องการเห็นฉิงเฟิงพ่ายแพ้และคุกเข่าขอขมาเธอ เธอจึงยอมปรากฏตัวด้วยการสวมแว่นกันแดด